"เราจะทำตามสัญญา จงจับตาดูหงส์แดง" !

     จากซีซั่นที่ผ่านมา เหล่านักเตะทัพ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สร้างผลงานสุดยอดเหนือความคาดหมาย ด้วยการจบอันดับที่สองของตารางพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ หักปากกาเซียนไปหลายต่อหลายด้าม แม้แฟนๆจะปลาบปลื้มดีใจ แต่ก็ยังไม่ฟินถึงขั้นสุด เพราะอีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น ก็คว้าแชมป์ลีกสูงสุดมานอนกอดได้สำเร็จ น่าเสียดายที่ดันไปพลาดท่าแบบน่าตบกบาลในตอนท้ายฤดูกาลหรือเรียกได้ว่าในช่วงวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว

     จากผลงานทุกรายการในซีซั่นที่แล้ว พรีเมียร์ ลีก อันดับสอง เอฟเอ คัพ ตกรอบที่ห้า และแคปิตอล วัน คัพ ตกรอบสาม ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจในส่วนของบอลถ้วย เพราะทีมใหญ่ๆมักจะส่งผู้เล่นชุดสำรองหรือดาวรุ่งลงสนามกันเป็นส่วนใหญ่ จากข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นชัดเจนใสปิ๊งว่า ตัวสำรองทีมดังจากลุ่มแม่น้ำเมอร์ซีย์ไซด์ยังไม่โหดเหี้ยมพอที่จะทำศึกสู้รบกับทีมอื่นได้

     เป็นที่รู้กันว่าในฤดูกาล 2014/2015 ที่กำลังจะเริ่มเปิดฉากฟาดแข้งกันในเร็วๆนี้ ลิเวอร์พูลต้องเข้าร่วมแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ห่างหายไปจากเวทีนี้กว่า 5 ปี เพื่อเอาตัวรอดและฝ่าฟันเข้าไปถึงรอบลึกๆ จึงจำเป็นต้องขยายขนาดทีม รองรับโปรแกรมการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่เปิดตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ หงส์แดงแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ ช็อปนักเตะไปถึง 8 คนเข้าแล้ว แทบจะสร้างทีมใหม่ขึ้นมาได้เลย

     ไล่เรียงกันตามลำดับผู้เล่นที่เข้ามาใหม่มีดังนี้ คือ ริคกี้ แลมเบิร์ต, อดัม ลัลลาน่า, เอ็มเร่ ชาน, ลาซาร์ มาร์โควิช, เดยัน ลอฟเรน, ดิว็อค โอริกี้, ฆาเบียร์ มานกีโญ่ และล่าสุด อัลแบร์โต้ โมเรโน่ เฉพาะจากเซาแธมป์ตันก็งาบมาถึงสามชีวิต ทำเอาแฟนนักบุญเคืองไปตามๆกันที่ไปพรากนักเตะสุดรักสุดหวงทั้งสามออกจากถิ่น เซนต์ แมรี่ ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นตัวหลักทั้งสิ้น

     แน่นอนว่าเข้ามาใหม่ถึงแปดคน ก็ต้องมีคนที่ต้องเก็บข้าวของออกไปเป็นจำนวนมากถึง 10 คน ท่ามกลางผู้คนที่จากไป หนึ่งในนั้นมีคนที่แฟนๆต่างก็เสียดายและเสียใจกับการร่ำลาของชายผู้นี้ คือ หลุยส์ ซัวเรซ ที่สร้างผลงานทิ้งไว้เบื้องหลังอย่างสุดติ่งกระดิ่งแมว เพียงแค่สามฤดูกาล ถล่มไปถึง 82 ประตู ใน 110 เกม เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลก้าวไปถึงตำแหน่งรองแชมป์

     เอียน เคนเนดี้ จากสถานีวิทยุบีบีซี เมอร์ซีไซด์ ได้ให้ความเห็นไว้ว่า "น่าสนใจมากกับการที่ขาด หลุยส์ ซัวเรซไป พวกเขาจะรับมืออย่างไรในการสู้ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะจบในตำแหน่งท็อปโฟร์และเป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ได้เลยทีเดียว แต่บางทีพวกเขาอาจจะยังต้องการศูนย์หน้าผีเท้าระดับพระกาฬอีกสักคนเข้ามาร่วมทีม เพื่อให้ง่ายต่อการไล่ล่าแชมป์มากขึ้นไปอีก"

     โดยลิเวอร์พูลมีแมตช์สำคัญที่สามารถชี้ชะตาการจบในตำแหน่งท็อปโฟร์หรือเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์นั่นก็คือ การพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซนอลติดต่อกันถึงสองครั้งสองครา ในวันที่ 13 ธันวาคม กับพลพรรคปีศาจแดง ก่อนวันที่ 20 ต้องประลองฝีเท้ากับทัพปืนใหญ่ และอีกสองแมตช์ต่อมาในวันที่ 21 มีนาคม และ 4 เมษายน ตามลำดับ จัดว่าเป็นสี่เกมที่หนักหนาเอาการสำหรับนักเตะหงส์แดงทุกคน

     ณ ขณะนี้ ตลาดซื้อขายนักเตะยังไม่ถึงเส้นตายวันสุดท้าย ทุกทีมต่างก็หวังอย่างยิ่งที่จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาประดับตู้สโมสร เป็นไปได้ไหมว่าการรอคอยอย่างยาวนาน 24 ปี ของลิเวอร์พูลจะสิ้นสุดลงภายในปีนี้ จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 มาให้แฟนๆได้หรือเปล่า ต้องจับตาดูและส่งแรงใจแรงเชียร์ให้นักเตะทุกคนทำภารกิจทั้งในลีกและบอลถ้วยอย่างซื่อตรงจนสำเร็จลุล่วง คืนความสุขให้ประชาชนแฟนบอลชาวหงส์แดงอีกครั้ง