ขาดเธอขาดใจ...เหยินไป ใครจะมา ?

     อีกเพียงไม่กี่วัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014/2015 จะเริ่มเปิดศึกลงสนามฟาดแข้ง หลายทีมต่างเสริมทัพกันอย่างคึกคัก จากผลงานอันยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้ลิเวอร์พูลมีงบประมาณในการซื้อขายนักเตะเป็นกอบเป็นกำ โดยได้ใช้เงินไปกว่า 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,300 ล้านบาท) ในการดึงตัวผู้เล่นมาร่วมทีมกว่า 7 คน แม้จะมีการซื้อนักเตะเข้าร่วมสังกัดมากมาย กลับมีนักเตะหัวใจสำคัญคนหนึ่งที่ต้องอำลาจากทีมไป นั่นก็คือ หลุยส์ ซัวเรซ

     หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกชาวอุรุกวัยย้ายออกจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมดังจากลีกฮอลแลนด์ เข้ามาค้าแข้งในอังกฤษกับลิเวอร์พูลตั้งแต่ปี 2011 ภายใต้การคุมทีมของ เคนนี่ ดัลกลิช โดยในฤดูกาลแรกก็ฉายแววเพชรฆาต ซัดไปกว่า 17 ประตูในทุกรายการ แต่เจ้าตัวมีพฤติกรรมเกเรพอสมควร ในเรื่องของการพุ่งล้มตบตากรรมการ และขี้โวยวาย ไม่ยอมรับคำตัดสินจากกรรมการ อีกทั้งยังเป็นสไตล์บอลชายเดี่ยว ติดเลี้ยง ชงเอง กินเอง แถมยังโดนแบนไปถึง 8 นัด จากเหตุการณ์เหยียดผิว ปาทริซ เอฟร่า

     ถัดมาในฤดูกาล 2012/2013 ยังคงความโหดต่อเนื่อง กดไปถึง 23 ประตู เฉพาะในลีก แต่ยังไม่เลิกเกเร เกิดอาหารหมั่นเขี้ยว กัดเข้าที่แขนของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จึงถูกแบนดับความหิวโหย 10 นัด ลากยากจากฤดูกาล 2012/2013 ไปจนถึงฤดูกาลถัดไป

     แม้จะโดนแบนลามมาจากฤดูกาลที่แล้วกว่า 6 นัด ไม่น่าเชื่อว่าพ้นโทษกลับมาจะเปลี่ยนนิสัยจากหน้ามือเป็นหลังมือ เลิกพุ่งล้ม ไม่มีปากเสียงกับใคร เปลี่ยนสไตล์การเล่นของตัวเอง ทำเอาแฟนบอลทั่วโลกอึ้งไปตามๆกัน ส่งผลให้เจ้าตัวถล่มไป 31 ประตู ครองดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกใสๆ ไร้ข้อกังขา

     ในศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกฟันไม่เข้า ยังคงหิวเนื้อไม่หาย งับไหล่ จอร์โจ คิเอลลินี่ จมเขี้ยว สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อดรนทนไม่ไหว สั่งห้ามซัวเรซยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลถึง 4 เดือนเต็ม และห้ามลงสนามรับใช้ชาติ 9 นัด เบื้องต้นได้มีการอุทธรณ์โทษแบนจากสมาคมฟุตบอลอุรุกวัยแต่ฟีฟ่าก็ได้ปฏิเสธไป

     ล่าสุดเจ้าตัวได้ย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวถึง 75 ล้านปอนด์ และยังได้ดำเนินการอุทธรณ์โทษแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอล 4 เดือนต่อ ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (ซีเอเอส) โดยจะได้ทราบผลการตัดสินภายในสัปดาห์นี้

     ถึงแม้เจ้าตัวจะมีพฤติกรรมที่ไม่น่าประทับใจเท่าใดนัก แต่ต้องยอมรับว่านักเตะที่มีความสามารถแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมคว้ารองแชมป์มา ได้ในฤดูกาลที่แล้ว เป็นธรรมดาที่แฟนบอลย่อมต้องเสียใจในการจากไปของเขา ดูจากรายชื่อกองหน้าที่มีอยู่ของลิเวอร์พูล มีก็แต่เพียง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่พอฝากผีฝากไข้ได้ แต่แน่นอนว่าลำพังสเตอริดจ์เพียงคนเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ลิเวอร์พูลประสบความความสำเร็จได้ตามที่หวัง

     แม้จะเสียผู้เล่นคนสำคัญ แต่สโมสรยังคงต้องเดินหน้าต่อไป ตลาดซื้อขายนักเตะยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ต้องจับตาดูว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน จะดึงตัวผู้เล่นฝีเท้าดีคนไหนเข้ามาแทนที่ว่างของศูนย์หน้าตัวฉกาจอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ที่ทำผลงานไว้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ตลาดจะปิดตัวลงในวันที่ 31 สิงหาคมนี้

     มีรายงานถึงกองหน้าที่บีร็อดหมายหัวไว้ว่าจะดึงตัวเข้าร่วมทีม ล้วนเต็มไปด้วยนักเตะชื่อดัง เช่น คาริม เบนเซม่า, เอดินสัน คาวานี่, ราดาเมล ฟัลเกา หรือแม้กระทั่ง ซามูแอล เอโต้ จากรายชื่อที่กล่าวมา แต่ละคนมีฝีเท้าระดับพระกาฬ มีก็แต่ ซามูเอล เอโต้ ที่อาจจะอายุเยอะเกินไป ไม่น่าจะใช้งานได้ในระยะยาว และสามคนที่เหลือ คือผู้เล่นที่ตอบโจทย์ สามารถช่วยให้หงส์แดงบินสูงได้อย่างแน่นอน

     ต้องยอมรับตามตรงว่า ถ้าได้ใครสักคนในสามคนข้างต้นมาร่วมทีม ผนึกกำลังกับผู้เล่นตำแหน่งอื่นที่ได้เสริมทัพเข้ามาก่อนหน้านี้ โอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝันลมๆแล้งๆ อีกต่อไป เป็นเวลากว่า 24 ปี ที่ลิเวอร์พูลไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เลย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าฤดูกาลที่จะถึงนี้ ทั้งนักเตะหน้าเก่าและหน้าใหม่จะร่วมแรงรวมใจ ส่งให้ลิเวอร์พูลกลับมายิ่งใหญ่ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 19 มาครอบครองได้ในที่สุด