หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / ไร้ทางสู้!! ผลสอบแข้ง "หงส์" เกมประหารโหด "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" 4-0

ไร้ทางสู้!! ผลสอบแข้ง "หงส์" เกมประหารโหด "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" 4-0

armada28 2016-04-21 16:03:52 เอฟเวอร์ตัน
ไร้ทางสู้!! ผลสอบแข้ง หงส์ เกมประหารโหด ทอฟฟี่สีน้ำเงิน 4-0

ซิมง มิโญเล่ต์ 6.5

     นายทวารเบลเยี่ยมได้คะแนนน้อยที่สุดของทีมในคืนนี้ ไม่ใช่เพราะเล่นไม่ดี แต่เป็นเพราะไม่มีอะไรให้ทำต่างหาก เรียกว่าได้คลีนชีทแบบไม่ต้องออกแรง แทบจะหายต๋อมไปจากเกมตลอด 90 นาทีสำหรับ มิโญเลต์

นาธาเนี่ยล ไคลน์ 7

     มาตรฐานสูงเสมอสำหรับฟูลแบ็กรายนี้ ยังโชว์ฟอร์มแกร่งเช่นเคย เกมรับก็ปึ้กมากในการรับมือ อาร่อน เลนน่อน และ เควิน มิรัลลาส ที่สลับกันหวังเล่นงาน แถมยังเติมเกมไปช่วยเพื่อนในเกมรุกทางกราบขวา ยิ่งช่วงทีมเยือนเหลือ 10 คน ไคลนี่ย์ บุกแหลกยิ่งกว่าเดิมชัดเจน

เดยัน ลอฟเรน 7.5

Mamadou Sakho of Liverpool celebrates scoring his sides second goal during the Barclays Premier League match between Liverpool and Everton at Anfield, April 20, 2016, Liverpool, England

     ภาพที่ออกมาในระยะหลัง ปรากฎชัดเจนแล้วว่าการจับคู่กับ ซาโก้ ดูจะเป็นอะไรที่ลงตัวสำหรับหัวใจแนวรับ ลิเวอร์พูล และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าพอใจของทั้งคู่ ลอฟเรน เล่นงาน มิรัลลาส ได้อยู่หมัดในครึ่งแรก และโดดเด่นมากในจังหวะปะทะ โชว์การวิ่งไล่อัด เลนน่อน ในช่วงที่เกมยังเสมอ 0-0 ด้วยฟอร์มที่เยือกเย็น

มามาดู ซาโก้ 9

     เป็นค่ำคืนที่เฉิดฉายโคตรๆ ของเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเฟร้นซ์แมน ที่โดดเด่นเกินใครในแผงแบ็กโฟร์ที่ช่วยกันต่อกร ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ซาโก้ โหม่งเคลียร์บอลได้หมดจด และตัด ลูกากู จนหายไปจากเกม โดยเฉพาะในครึ่งแรก นอกจากนั้นยังทำประตูที่ 2 ของตัวเองในรอบ 3 เกมได้ด้วย วันนี้พี่โก้ของเราท็อปฟอร์มมากๆ

อัลแบร์โต้ โมเรโน่ 7.5

     โชว์ฟอร์มที่เต็มไปด้วยพละกำลังในการบุกแหลกทางฝั่งซ้าย สำหรับแบ็กสเปน โมเรโน่ ทำหน้าที่เกมรับได้ดี ณ ช่วงที่ตัวผู้เล่นยังเท่ากัน แม้ว่าจะโยนบอลไม่เข้าเป้าสักเท่าไรหลายหน แต่ยามที่ได้บุก เขาก็ยังน่ากลัว ด้วยจังหวะพยายามหาทางซัดประตูอยู่เป็นระยะๆ คอยขู่กองหลัง เอฟเวอร์ตัน ได้

ลูคัส เลว่า 7

     ไม่น่าผิดหวังแต่อย่างใด ที่ ลูคัส ได้ลงมาทำลายเกมแทน อัลเลน เคียงข้าง มิลเนอร์ ในแดนกลาง วันนี้กำองกลางมหาเทพเล่นบอลได้เพลินใจมากๆ อาจจะมีเฟอะฟะบ้างในการรับมือ บาร์คลี่ย์ ครึ่งแรก และยังเสียฟาลว์แบบไม่จำเป็น แต่เรื่องตัดบอลเขายังทำได้เยี่ยม และผ่านบอลเชื่อมเกมแบบง่ายๆ ให้เพื่อนได้ตลอด

เจมส์ มิลเนอร์ 9 (แมน ออฟ เดอะแมตช์)

     กลายเป็นขวัญใจสำหรับเดอะค็อปทุกคนในโลกนี้ไปแล้ว วันนี้รับบทมิดฟิลด์ตัวกลาง และกัปตันทีมที่คู่ควรกับการเป็นแบบอย่างให้ทุกคนในทีม เขาโดดเด่นมากในการครอสบอลที่อันตรายและแม่นยำ จนนำมาซึ่งประตูจอง โอริกี และ ซาโก้ ที่โหม่งไปคนละตุ้บ มิลเนอร์ กำลังอยู่ในจุดพีคของตัวเอง ณ วัย 30 ปี

อดัม ลัลลาน่า 8

     กองกลางขาเลื้อยวัย 27 ปี กลับมาเล่นได้น่ากลัวอีกครั้ง ในบทบาทตัวขับเคลื่อนเกมรุก ลัลลาน่า วิ่งแย่งบอลไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และใช้การเคลื่อนที่ๆ ชาญฉลาดคอยเล่นงานแผงหลัง เอฟเวอร์ตัน ซึ่งประตูที่ 2 ก็มีเขาเป็นส่วนสำคัญด้วย หลังชิ่ง 1-2 กับ มิลเนอร์ อาจน่าเสียดายอยู่บ้างกับจังหวะหลุดเดี่ยวที่ไม่เป็นประตู แต่โดยรวม นับเป็นเกมที่เยี่ยมมากๆ ของเขา

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ 8

Philippe Coutinho of Liverpool scores his sides fourth goal during the Barclays Premier League match between Liverpool and Everton at Anfield, April 20, 2016, Liverpool, England

     พ่อมดน้อยบราซิลเลี่ยนยังคงร้ายกาจดังเดิม หลังเล่นด้วยฟอร์มเด่นต่อเนื่องหลายเกม คอยจ่ายบอลทะลุแนวรับทีมเยือนจนขาดเป็นวิ่นๆ และปิดท้ายด้วยประตู 4-0 ที่คมกริบของ คูตินโญ่ ให้แฟนๆ ได้เฮฮาอย่างสมบูรณ์แบบ

โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ 7

     แม้จะไม่ใช่เกมที่ดีที่สุดของ ฟีร์เมียโน่ ในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล แต่เกมนี้เขาก็ยังโชว์คลาสในการเล่นออกมา ผ่านการสัมผัสบอล และประสานงานได้รู้ใจกับ ลัลลาน่า และ คูตินโญ่ อย่างไหลลื่น เขาเกือบจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ดเหมือนกัน จากจังหวะดวล 1 ต่อ 1 แต่ยิงไปตรงตัว โฆเบลส

ดิว็อค โอริกี 8

Divock Origi scores the first goal for Liverpool

     กองหน้าตัวหลักหมายเลข 1 เวลานี้ของทีม เหนือ สเตอร์ริดจ์ ยังคงตอบแทนความไว้วางใจจากผู้จัดการทีมได้ต่อเนื่อง หลังโขกประตูนำ 1-0 ที่เปิดมาจาก มิลเนอร์ อย่างเด็ดขาด โอริกี อันตรายครบเครื่องทั้งพละกำลัง, ความเร็ว และการเลี้ยงบอลที่ว่องไว ทำเอา ฟูเนส โมรี่ กองหลังทีมเยือนต้องเล่นสกปรกเพื่อหยุดเขาให้ได้ บ่งบอกว่าพรสวรรค์ของ โอริกี กำลังผลิบานเหลือเกินในวัยเพียง 21 ปี

สำรอง

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (แทน โอริกี นาที 54) 8

Daniel Sturridge scores the third goal for Liverpool

     ได้โอกาสลงแทน โอริกี ที่เจ็บข้อเท้า และเมื่อมีโอกาส สเตอร์ริดจ์ ก็คว้ามันไว้ได้ทันที ด้วยการหลุดไปแปหนีมือทิ้งห่าง 3-0 อย่างง่ายดาย เพียง 6 นาทีหลังลงไปในสนาม เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำให้ เอฟเวอร์ตัน ต้องระส่ำระสายปั่นป่วนยกทีมในครึ่งหลัง

โจ อัลเลน (แทน ฟีร์เมียโน่ นาที 65) 7.5

     เจ้าตัวอาจจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่ไม่ได้รับเลือกเป็นตัวจริง ทั้งๆ ที่เล่นได้ดีมากจากเกมชนะ บอร์นมัธ เมื่อวันอาทิตย์ แต่นัดนี้เขาก็ยังทำดีเช่นเดิม โดยมีโอกาสสอยตาข่ายได้ถึง 2 หน เพียงแต่ไม่เป็นประตูเท่านั้นเอง

จอร์ดอน ไอบ์ (แทน มิลเนอร์ นาที 80) ไม่มีคะแนน

     มีเวลาลงมาช่วยทีมน้อยมาก แต่ก็มีส่วนร่วมพอควรในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และยังได้ง้างเต็มข้อด้วยเท้าซ้ายให้ โรเบลส เซฟแบบปาดเหงื่อไป 1 ที

ADS