คะแนนความสามารถหลังเกม ลิเวอร์พูล 1-1 นอริช ซิตี้

ตัวจริง

ซิมง มิโญเล่ต์ - 6/10

          หากนายด่านชาวเบลเยียมสามารถชกบอลออกมาได้ไกลกว่านั้น น่าจะทำให้ทีมรอดพ้นการเสียประตูได้ ซึ่งคงจะเป็นจังหวะเดียวที่เขาพลาด แต่โดยรวมแล้วไม่มีอะไรให้ติเท่าไหร่ นับเป็นวันที่โชว์ฟอร์มดีเหมือนกันถ้าไม่นับจังหวะเสียประตู

นาธาเนี่ยล ไคลน์ - 6/10

          สำหรับเกมนี้ ยังคงไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุดของเจ้าตัวแน่นอน เพราะยังถือว่าไม่โดดเด่นมากนักทั้งเกมรับและเกมรุก ซึ่งมีหลายช่วงที่เขาแทบจะไม่ได้บอลและหายไปจากเกมเลยด้วยซ้ำ แถมจังหวะเติมเกมก็ดูจะไม่กล้าอีกต่างหาก

มาร์ติน สเคอร์เทล - 7/10

          บอกเลยว่าถ้าเกมนี้ไม่ได้กองหลังรายนี้ช่วยไว้ คงโดนมากกว่าหนึ่งลูกแน่นอน เพราะเขาสามารถดักทางเปิดโหม่งของคู่แข่งได้เกือบหมด แถมยังเอาชนะกองหน้าของ นอริช ซิตี้ ได้เป็นอยู่หมัด ไม่แปลกใจเลยที่เราจะให้คะแนนเขาถึง 7 แต้ม

มามาดู ซาโก้ - 7/10

          ตั้งแต่ที่เขาได้รับโอกาสลงเล่นในถ้วย ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก มาเมื่อกลางสัปดาห์ ดูเหมือนว่าความนิ่งและลูกเล่นจะแพรวพราวขึ้นเยอะ แม้ว่าจะมีจังหวะทุ่มเทมากเกินไปจนดูตลก แต่ผลงานในสนามตลอด 90 นาทีของเขา ช่วยให้ สเคอร์เทล เล่นง่ายขึ้น โดยเกมนี้ ซาโก้ มีจังหวะตัดเกมสวยๆ หลายครั้งเหมือนกัน

อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - 7.5/10

          หลายคนคงสงสัยว่าทำไมวิงแบ็คซ้ายรายนี้ถึงได้คะแนนเยอะผิดปกติ แน่นอนว่าการได้รับโอกาสลงสนามนานๆ ที ย่อมทำให้นักเตะงัดฟอร์มเก่งออกมาอย่างน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะ โมเรโน่ ที่เกมนี้ เล่นได้ดีทั้งเกมรับและเกมรุก แม้ว่าจะไม่โดดเด่นเปรี้ยงปร้าง แต่ก็ถือว่ารักษาฐานและไม่ค่อยมีผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีลูกขยันวิ่งเพรสซิ่ง วิ่งเก็บบอล หรือแม้กระทั่งสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนได้อีก รับรองว่าเกมหน้าต้องมีชื่อเขาลงเตะอย่างแน่นอน

ลูคัส เลว่า - 7/10

          นักเตะจอมปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง สำหรับดาวเตะชาวบราซิลรายนี้ ซึ่งเขาเล่นได้ดีแบบเหลือเชื่อ ราวกับมิดฟิลด์บราซิเลี่ยนของแท้ แท้ว่าลีลาอาจจะไม่สวยงามเหมือนคนอื่น แต่เกมนี้เขาสามารถดักบอลและตัดเกม รวมไปถึงทำเกมให้เพื่อนได้อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่องเลย

เอ็มเร่ จัน - 6.5/10

          ไม่น่าเชื่อว่าตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คของ จัน จะกลายเป็นบทบาทที่เขาทำได้ดีไปเสียแล้ว เพราะนอกจากจะทำให้เกมรับของทีมแน่นขึ้นแล้ว ยังทำให้กองหน้าฝั่งตรงข้ามต้องเจอกับกองหลังสไตล์มิดฟิลด์ตัดเกมไปในตัว แม้ว่าตัวรุกของ นอริช ซิตี้ อาจจะไม่น่ากลัวมากนัก แต่โดยรวมแล้วถือว่าจังหวะผิดพลาดไม่เยอะเท่าหลายๆ เกมก่อนหน้านี้

เจมส์ มิลเนอร์ - 5/10

          ในขณะที่คนอื่นๆ โชว์ฟอร์มดีกันเกือบหมด แต่ยังมีหนึ่งคนที่แทบจะกลายเป็นจุดอ่อนของทีมไปดื้อๆ นั่นก็คือมิดฟิลด์วัย 29 ปีรายนี้ ซึ่งมีหลายจังหวะที่เขาจ่ายบอลเสีย ออกบอลพลาด หรือแม้กระทั่งลูกตั้งแต่ที่น่าจะทำได้ดี ก็กลับเตะทิ้งเตะขว้างไปหมด เรียกว่าแฟนบอลถึงกับเซ็งได้เลย

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - 5.5/10

          หนึ่งในนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีและสามารถสร้างสรรค์เกมรุกให้กับทีมได้อย่างมากมาย แต่ที่มาของคะแนนที่ถูกลดเหลือแค่ 5.5 มาจากความดื้อส่วนตัวของเขาล้วนๆ เพราะมีหลายจังหวะที่ คูตินโญ่ พยายามจะทำประตูมากเกินไปจนกลายเป็นฝืน แถมในจังหวะหลุดเดียวไปดวลกับผู้รักษาประตูของทีมเยือน ก็ดันยิงไปติดเซฟ ทั้งๆ ที่สามารถเลือกจ่ายหรือน่าจะตัดสินใจยิงให้เร็วกว่านี้ เพราะมุมแทบจะไม่เหลือแล้ว

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ - 6.5/10

          การออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในรอบหลายเดือนของเขา นับว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน ซึ่งฝีเท้าและการเคลื่อนที่ของ สเตอร์ริดจ์ ยังคงทำได้ดีและสามารถป่วนแนวรับของผู้มาเยือนได้มากเลยทีเดียว แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ยิงเน้นๆ สักเท่าไหร่ แต่ก็ทีส่วนรวมกับเกมเยอะกว่าคู่หูเยอะ

คริสติย็อง เบนเตเก้ - 5.5/10

          ไมน่าเชื่อว่าเกมนี้ เบนเตเก้ จะเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาก และแทบจะไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย ทั้งการเคลื่อนที่และการหาช่องเข้าทำประตูก็กลายเป็นขาดๆ เกินๆ ไปหมด จึงไม่แปลกใจเลยที่เขาถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงต้นครึ่งหลัง

ตัวสำรอง

แดนนี่ อิงส์ (ลงสนามแทน คริสติย็อง เบนเตเก้ ในนาทีที่ 46) - 7.5/10

          จริงๆ แล้วเขาน่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงมากกว่าด้วยซ้ำสำหรับกองหน้ารายนี้ เพราะหลังจากที่เขาลงสนามมา ทำให้เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ดูดีมากขึ้น โดยเฉพาะบอลบนพื้นที่ประสานงานกับ คูตินโญ่ กับ สเตอร์ริดจ์ ได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ความเร็วโฉบเข้าทำประตูให้ทีมขึ้นนำได้อีกด้วย

อดัม ลัลลานา (ลงสนามแทน แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ในนาทีที่ 63) - 6/10

          ไม่มีอะไรโดดเด่นให้เห็นมากนัก แม้ว่าจะมีจังหวะโชว์สวยๆ ให้เห็นตามสไตล์บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้ สำหรับการกลับมาลงสนามอีกครั้ง ก็ถือว่าไม่เลว

โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ (ลงสนามแทน ลูคัส เลว่า ในนาทีที่ 70) - 6/10

          น่าจะต้องใช้เวลาปรับจูนจังหวะบอลอังกฤษมากพอสมควร กว่าจะเล่นได้เป็นธรรมชาติ เพราะสปืดเกมระดับนี้ทำให้เพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิลรายนี้ถึงกับไปไม่เป็นเหมือนกัน โดยรวมกับเวลาที่ได้รับอาจไม่มากและไม่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่ก็ไม่นับว่าเสียหาย