หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / เจาะลึกทุกตำแหน่ง ใครเป็นใครในศึก "ทีมเจิด" ปะทะ "ทีมคาร์ร่า"

เจาะลึกทุกตำแหน่ง ใครเป็นใครในศึก "ทีมเจิด" ปะทะ "ทีมคาร์ร่า"

เจาะลึกทุกตำแหน่ง ใครเป็นใครในศึก ทีมเจิด ปะทะ ทีมคาร์ร่า

     รายชื่อนักเตะบางส่วนที่จะตบเท้าเข้าร่วมแมตช์อำลา สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้ประกาศออกมาแล้วเมื่อวานนี้ และ หลุยส์ ซัวเรซ ก็เป็นหนึ่งในนักเตะจำนวนดังกล่าวที่จะลงสนามเคียงข้างอดีตกัปตันทีมของเขา รายชื่อแบบฟูลทีมยังไม่มีการแจ้งออกมา แต่เดาเอาเล่นๆว่าจะต้องเป็นศึกระหว่างทีมโหดฟาดแข้งกับทีมห่วยที่สนาม แอนฟิลด์ ในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมนี้

     สตีเว่น เจอร์ราร์ด และเจมี่ คาร์ราเกอร์ จะเป็นกัปตันของแต่ละทีมในวันนั้น โดยในที่นี้เราจะให้ เจอร์ราร์ด เป็นกัปตันของทีมโหด และ คาร์ราเกอร์ เป็นกัปตันของทีมห่วยแล้วกันครับ (ขอโทษนะครับ น้าคาร์ร่า)

ทีมสุดห่วย

 

     ผู้เล่นเหล่านี้ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะถูกรับเชิญกลับมายังถิ่น แอนฟิลด์ อีกครั้ง (แต่อาจจะไม่มาก็ได้นะ) ผมน่าจะใส่รายชื่อผู้เล่นอย่าง ดิยุฟเ ข้าไปด้วย แต่โอกาสที่เขาจะได้รับเชิญมาด้วยนั้นช่างดูเลือนลางเหลือเกิน

ผู้จัดการทีม - รอย ฮอดจ์สัน

     ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม รอย ฮอดจ์สัน จึงเหมาะที่จะเป็นกุนซือของขุนพลทีมห่วยชุดนี้

ผู้รักษาประตู : คริส เคิร์กแลนด์

     ผู้รักษาประตูมากมายน่าจะได้เฝ้าเสาในเกมนี้ แต่ เคิร์กแลนด์ เป็นหนึ่งในคนที่น่าจะได้รับเชิญกลับมาเล่นใน แอนฟิลด์ อีกครั้ง ตอนแรกกะว่าจะใส่ชื่อ ดูเด็ค แต่เขายังห่วยไม่พอสำหรับทีมนี้

แบ็คขวา : แยน ครอมแคมป์

     แยน ครอมแคมป์ มีช่วงเวลาสั้นๆกับ ลิเวอร์พูล (แค่แปดเดือน) และไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรให้กับทีมเลย แต่ว่าเขารับบทบาทสำคัญช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 2005/06 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน อลอนโซ่ ทำให้ สตีวี่ จี ได้ย้ายจากตำแหน่งปีก ไปเล่นกองกลาง จนทำประตูตีเสมอ เวสต์แฮม 3-3 ได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จนเอาชนะจุดโทษได้แชมป์ไปนอนกอดในท้ายที่สุด

กองหลัง : เจมี่ คาร์ราเกอร์

     น่าเศร้าที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ต้องติดโผเข้ามาอยู่ในทีมนี้ เพราะว่าเขาต้องรับหน้าที่เป็นกัปตันทีมทำศึกกับอีกทีมหนึ่งของ เจอร์ราร์ด แต่ทว่าเขาทำให้คุณภาพเฉลี่ยของทีมนี้เพิ่มขึ้น 100%

กองหลัง : ฌิมี่ ตราโอเร่

    หนึ่งในกองหลังที่สร้างผลงานสุดฮาไว้กับ ลิเวอร์พูล มากมายจนน่าจะได้รับเชิญให้มาร่วมเล่นในแมตช์นี้ เจอร์ราร์ด น่าจะได้เจอกับเขาในซีซั่นหน้า เพราะปัจจุบัน ตราโอเร่ ค้าแข้งให้กับ ซีแอตเทิ่ล ซาวน์เดอร์ ใน เมเจอร์ ลีก

กองหลัง : นีล รัดด็อค

     เป็นผู้เล่นที่ดีในยุคของเขา แต่เมื่อจินตนาการถึงตัวเขาในปัจจุบันอยู่บนสนามฟุตบอล มันจะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เราจึงอยากเห็นเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นจริงๆ

แบ็คซ้าย : พอล คอนเชสกี้

     ผลงานของเขากับ ลิเวอร์พูล อธิบายได้หมดทุกทางว่าทำไมเขาถึงได้ติดโผทีมห่วยนี้

กองกลางฝั่งซ้าย : ไรอัน บาเบิล

     ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นตำนานของทวิตเตอร์ แต่ทว่าเขาไม่ใช่ตำนานยามอยู่บนสนาม

กองกลางตัวกลาง : ชาร์ลี อดัม

     เขาเคยถูกรับเชิญให้ไปตีกอล์ฟที่มูลนิธิของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลว่าทำไมเขาถึงจะได้มีส่วนร่วมในนัดอำลา สตีวี่ จี แมตช์นี้

กองกลางฝั่งซ้าย : บรูโน่ เชย์รู

     ผู้ที่ได้รับสมญานามว่า "นิว ซีดาน" เอิ่ม...ผมว่าไม่นะ

กองหน้า : เฟร์นันโด มอริเอนเตส

     มีพลังมากพอที่จะทำให้ตั๋วเกมการกุศลนัดนี้ขายออก และก็แย่พอจะติดโผเข้ามาอยู่ในทีมนี้เช่นกัน

กองหน้า : นีล เมลเลอร์

     มีความสัมพันธ์อย่างเหนียวแน่นกับ ลิเวอร์พูล เพราะเขาคือหนึ่งในผลผลิตทีมเยาวชนของ "หงส์แดง" แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับเพื่อนที่ร่วมทีมกันมาแต่เด็กอย่าง สตีวี่ จี

ตัวสำรอง

ซานเดอร์ เวสเตอร์เฟลด์

โฆเซมี่

อันโตนิโอ นูเนซ

มิลาน บารอส

โจ โคล

แพทริค แบร์เกอร์ (หนึ่งในนักเตะคนโปรดของผม แม้จะไม่แย่มากพอจะเล่นทีมนี้ แต่ก็ไม่ดีพอจะเล่นในทีมของ เจอร์ราร์ด เช่นกัน)

อังเดร โวโรนิน

ทีมสุดโหด

 

     ย้ำอีกครั้งนะครับว่านี่คือรายชื่อจากความคิดของผมเอง ไม่ได้หมายความว่าในวันจริงพวกเขาจะมาตามรายชื่อนี้กันครบทุกคน เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งฉุนเฉียวกันนะครับ

     โดยทีมชุดนี้ตัดสินจากฟอร์มโดยรวมกับ ลิเวอร์พูล ที่แต่ละคนสร้างผลงานน่าจดจำไว้มากมาย และคาดว่าน่าจะใช้แผนปัจจุบันของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คือ 3-4-3

ผู้จัดการทีม : ราฟา เบนิเตซ

     แน่นอนล่ะ ราฟา คือคนที่จะเป็นผู้จัดการทีมสำหรับผม เพราะดูเหมือนเขายังคงมีใจให้ ลิเวอร์พูล อยู่ไม่เสื่อมคลาย เห็นได้จากการที่เขามักให้ข่าวว่าพร้อมจะกลับไปคุมทีมในถิ่น แอนฟิลด์ อยู่เสมอ

ผู้รักษาประตู : เปเป้ เรน่า

     ยังคงเป็นตำนานสำหรับแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล อยู่เสมอ หลังต้องออกจากทีมไปเพราะการเข้ามาของ ซิมง มิโญเล่ต์ พูดกันตามตรงแล้วผมว่าเขาเก่งกว่า มิโญเล่ต์ เสียอีก

กองหลัง : ซามี่ ฮูเปีย

     อดีตกัปตันทีม ลิเวอร์พูล กับผมสีทองโดดเด่นเห็นได้ง่ายบนสนาม แม้เป็นกองหลังแต่เขาก็สามารถทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ

กองหลัง : อลัน แฮนเซ่น

     ผมรู้ว่าเขาแก่แล้ว แต่เขากำลังพักผ่อนอย่างเต็มที่หลังออกจากรายการ แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์ ผมจึงคิดว่าเขาน่าจะได้ลงเล่น 10-15 นาที ก่อนจะเปลี่ยนตัวคนอื่นลงสนามแทน

กองหลัง : แดเนียล แอกเกอร์

     คงต้องพยายามกันหนักมากที่จะตามหาว่าแฟนบอลคนไหนบนโลกนี้ที่ไม่รัก แดเนียล แอกเกอร์ กองหลังสุดเท่ห์ที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่งและรอยสักสวยงามเต็มร่างกาย

แบ็คขวา : สตีฟ ฟินแน่น

     ลงสนาม 217 นัด คว้าแชมป์ทั้ง แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า คัพ และ เอฟเอ คัพ ไม่มีอะไรต้องอธิบายสำหรับชายผู้นี้

แบ็คซ้าย : ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่

     นี่คือเหตุผลว่าทำไม รีเซ่ จึงเป็นตำนานที่ ลิเวอร์พูล
     1. ทำแฟนบอลกรีดร้องลั่นสนามยามตะบันประตู
     2. มีท่าดีใจสุดเท่ห์
     3. ยิงหนักมากพอจะหักขาใครสักคน (ดู อลัน สมิธ เป็นตัวอย่าง)

กองกลาง : สตีเว่น เจอร์ราร์ด

 

     ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร นี่คือแมตช์ที่จัดขึ้นมาสำหรับเขา

กองกลาง : ชาบี อลอนโซ่

     เขายังคงเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของโลก ดังนั้นเขาจึงสามารถเอาชนะได้ทุกเกมหากได้ลงเล่นเคียงข้างกับคู่จิ้นอย่าง เจอร์ราร์ด

หน้าต่ำฝั่งซ้าย : เคนนี่ ดัลกลิช

     คิง เคนนี่ ของเราคนนี้นี่เอง (5 นาทีน่าจะไหวแล้วค่อยเปลี่ยนตัว)

หน้าต่ำฝั่งขวา : ยารี่ ลิตมาเน่น

     แม้จะอยู่กับทีมเพียงแค่ปีเดียว แต่เขาก็ทำให้ทุกคนในลิเวอร์พูลต้องตกหลุมรัก ด้วยวัย 44 ปี แต่ผมรู้ว่าเขายังไหว

กองหน้า : หลุยส์ ซัวเรซ

     ตำแหน่งที่ตัดสินใจเลือกยากที่สุด แต่ต้องขอยกให้กับ ซัวเรซ ผลงานที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือเพชรฆาตอันเฉียบคมที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ตัวสำรอง

เจอร์ซีย์ ดูเด็ค

     ย้อนกลับไปในปี 2005 เขานี่แหละเหมาะสมแล้วที่จะอยู่ทีมนี้

สเตฟาน อองโชซ์

     เหตุผลเดียวกันกับ อลัน แฮนเซ่น

สตีฟ แม็คมานามาน

     เราต่างก็รู้กันดีว่า ราฟา ชอบนักเตะกระชากลากเลื้อย ชื่อของแม็คก้าก็แว้บเข้ามาในหัวทันที

เฟร์นานโด ตอร์เรส

     "เอล นินโญ่" อาจจะเป็นคนที่แฟน ลิเวอร์พูล บางคนเกลียด แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังรักเขาอยู่เสมอ จากผลงานอันยอดเยี่ยมที่เขาเคยฝากไว้ในความทรงจำของ "เดอะ ค็อป"

เควิน คีแกน

     มันจะเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆๆๆ ถ้าได้เห็นเควินสวมเสื้อ ลิเวอร์พูล ลงสนามอีกครั้ง

ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

     "ก็อด" จะได้กลับสู่ถิ่น แอนฟิลด์ อีกครั้ง เขาอาจจะกดแฮททริคนัดนี้ก็ได้ใครจะไปรู้

ADS