หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว พรีเมียร์ ลีก เซาธ์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก เซาธ์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก เซาธ์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก เซาธ์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล

วันอาทิตย์ 22 กุมภาพันธ์ 2015 เวลา 23.15 น.

สนาม เซนต์ แมรี่ส์

ถ่ายทอดสดช่อง  CTH สเตเดี้ยม 2

ผู้ตัดสิน เควิน เฟรนด์

     แมตช์สุดคลาสสิกของการย้อนคืนถิ่นเก่า เซนต์ แมรี่ส์ ของ 3 ดาวเตะ ลิเวอร์พูล อย่าง  อดัม ลัลลาน่า, ริคกี้ แลมเบิร์ต และ เดยัน ลอฟเรน ที่ถูกขายไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา แถมทั้งสองทีมยังต้องมีชะตากรรมในการขับเคี่ยวแย่งโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วยกับโปรแกรมที่เหลือเพียง 12 นัดเท่านั้น

สภาพทีมล่าสุด: เซาธ์แฮมป์ตัน

     มอร์กก็อง ชไนเดอร์แล็ง หายจากอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบพร้อมกลับสู่ทีมชุดใหญ่ ขณะที่ เชน ลอง ก็พร้อมมีชื่อที่ม้านั่งสำรองหลังจากเจ็บที่บริเวณซี่โครง ส่วน โทบี้ อัลเดอร์ไวรัลด์ น่าจะมีชื่อเป็นตัวจริง หลังเจ็บเอ็นร้อยหวายไปร่วมเดือน แต่ เจย์ โรดริเกวซ ยังคงต้องรักษาเอ็นยึดข้อที่เรื้อรังต่อไป

สภาพทีมล่าสุด: ลิเวอร์พูล

    ลิเวอร์พูล เตรียมต้อนรับการกลับมาของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ไม่ผ่านฟิตจนพลาด 2-3 เกมในช่วงที่ผ่านมา แต่ทางด้าน สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะไม่ถูกเสี่ยงส่งลงเล่นในนัดนี้ และเช่นเดียวกับ ลูคัส ที่ยังต้องใช้เวลาอีกราว 2-3 วีค เพื่อฟื้นฟูอาการเจ็บโคนขาหนีบ

คีย์แมน

เซาธ์แฮมป์ตัน: ซาดิโอ มาเน่

     ปีกชาวเซเนกัลโชว์ผลงานในซีซั่นนี้ได้อย่างร้อนแรง และเป็นผู้เล่นคนสำคัญในการทำเกมรุก และยังสามารถทำประตูได้ด้วยตัวเองให้แก่ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปหลายลูก โดยเฉพาะยามเจอทีมใหญ่อย่าง เชลซี และ อาร์เซน่อล รวมทั้ง คิวพีอาร์

     เขามีทั้งความเร็วและการสร้างสรรค์ วัดได้จากสถิติสร้างโอกาสถึง 23 ครั้ง ทำได้ 2 แอสซิสต์ ดังนั้นดาวเตะวัย 22 ปี จึงพิสูจน์ตัวเองได้แล้วในการเจาะแนวรับคู่แข่ง ด้วยสถิติการลากเลื้อยสำเร็จ 23 ครั้ง จากความพยายาม 43 ครั้ง

ลิเวอร์พูล: แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

     นับตั้งแต่เขาหายเจ็บกล้ามเนื้อกลับมา สเตอร์ริดจ์ แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ขาดหายมานานคือการจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคมกว่าเดิม ตัวอย่างประตูที่ยิงใส่ เวสต์แฮม ภายใน 12 นาทีที่ลงสนาม และรวมเกมกับ คริสตัล พาเลซ ในเอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือว่าสัญชาตญานดาวยิงยังไม่หายไปไหน

     ผลงาน 2 ประตู ใน พรีเมียร์ ลีก กำลังบ่งบอกถึงฟอร์มที่กำลังค่อยๆ กลับมา ไม่เพียงแค่การล่าตาข่าย แต่เขายังชาญฉลาดในการหาพื้นที่ ไม่ว่าจะมีบอลหรือไม่มีบอลก็ตาม ดังนั้นเกมนี้เขาพร้อมจะเป็นฝันร้ายของกองหลังเจ้าบ้าน ด้วยสถิติถูกทำฟาล์วไปแล้ว 10 ครั้งในฤดูกาลนี้

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

โรนัลด์ คูมัน (เซาธ์แฮมป์ตัน): "มันจะเป็นเกมที่ยอดเยี่ยม แต่เรายังมีแต้มมากกว่าพวกเขา เราจะสู้เพื่อตำแหน่งในตาราง ซึ่งพวกเขาก็หวังไว้เช่นเดียวกันกับเรา"

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (ลิเวอร์พูล): "หากเกมนี้เราคว้าชัยชนะได้ มันจะนำพาให้เราไปสู่ที่เราต้องการ หนทางสู่การยึดตำแหน่งท็อปโฟร์ หลังผ่านพ้นต้นฤดูกาลที่ยากลำบาก เราจะยังสู้ต่อไปแบบก้าวต่อก้าว"

ฟอร์มการเล่น

     ทีมนักบุญแพ้แค่เกมเดียวตลอด 9 นัดหลังสุดในลีก แต่นับตั้งแต่ชนะ อาร์เซน่อล เมื่อปีใหม่ก็ยังไม่ชนะใครในบ้านมา 4 นัด แถมยิงใครไม่ได้เลยใน 2 นัดหลังสุดที่ เซนต์ แมรี่ส์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครเลยในลีก 9 เกมหลังสุด ยิ่งถ้านับในทุกรายการ 17  นัด แพ้เพียงนัดเดียว

ประวัติการพบกัน

     ใน 9 ครั้งที่พบกันมาบนเวที พรีเมียร์ ลีก ชัยชนะตกเป็นของ เซาธ์แฮมป์ตัน 5 ครั้ง และ ลิเวอร์พูล 4 ครั้ง ซึ่งตอนนี้ "หงส์แดง" กำลังมองหาชัยชนะเหนือทีม "นักบุญ" 3 ครั้งรวด ครั้งสุดท้ายที่ทำได้เกิดขึ้นในระหว่างปี 1994 - 1995

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

เซาท์แฮมป์ตัน (4-3-3): เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, โชเซ่ ฟอนเต้, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ - มอร์กก็อง ชไนเดอร์แล็ง, วิคเตอร์ วานยาม่า, สตีเว่น เดวิส - ซาดิโอ มาเน่, กราเซียโน่ เปลเล่, เอลเยโร่ เอเลีย

ลิเวอร์พูล (3-4-2-1): ซิมง มิโญเล่ต์ - เอ็มเร่ ชาน, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้ - จอร์ดอน ไอบ์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - ราฮีม สเตอร์ลิง, อดัม ลัลลาน่า, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

ทรรศนะ Siamliverpool

     เจ้าบ้านยังคงมีปัญหาผู้เล่นที่บาดเจ็บอยู่ ขณะที่ ลิเวอร์พูล กำลังเล่นด้วยความมั่นใจในตอนนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส น่าจะไม่ยอมพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการเอาชนะคู่แข่งทำอันดับท็อปโฟร์ เซาธ์แฮมป์ตัน ก็มีสิทธิ์ถึงชนะได้ถ้า เปลเล่ ใช้โอกาสจบสกอร์ไม่เปลือง แต่ดูแล้วฟอร์มกำลังแผ่วไปมาก แถมยิงใครไม่ค่อยได้ และผู้เล่นคีย์แมนยังเจ็บอยู่ ดังนั้นจะเป็น ลิเวอร์พูล ที่จะบุกมาซิวชนะแบบสุดมันในท้ายที่สุด

ฟันธง: ลิเวอร์พูล ชนะ 3-2

ADS