หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / 7 เกมอันตราย!! บ่งบอกทิศทาง ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้

7 เกมอันตราย!! บ่งบอกทิศทาง ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้

7 เกมอันตราย!! บ่งบอกทิศทาง ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้

     ในฤดูกาลนี้ต้องยอมรับเลยนะครับ ว่าทัพ "หงส์แดง" ของเรา ๆ กำลังเจอะเจอกับปัญหาปืนฝืดอีกครั้ง ถึงแม้ซีซั่นที่ผ่านมาต่างโชว์ฟอร์มได้ดีและระเบิดสกอร์กันเป็นว่าเล่น แม้เกมลีกเพิ่งจะเริ่มต้นไปได้เพียง 10 เกมเท่านั้น แต่มันก็เริ่มแสดงให้เห็นออกมาแล้วว่าเรามีจุดอ่อนและปัญหาตรงไหนบ้าง

     เมื่อเราโฟกัสไปที่ตารางคะแนนในตอนนี้ เรารั้งอยู่อันดับที่ 7 เก็บได้เพียง 14 คะแนนเท่านั้น และเกมถัดไปถือเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของซีซั่นนี้ก็ว่าได้ เมื่อเพื่อเขาจะต้องเปิดบ้านรับการมาเยือน เชลซี สโมสรที่เคยทำแสบจนเราชวดแชมป์เมื่อซีซั่นก่อน แต่แตกต่างกันก็คือฟอร์มการเล่น ที่ทั้งสองทีมดูจะสวนทางกันพอสมควร

     วันนี้ผมเลยถือโอกาส ชี้เป้าไปที่เกมถัดไปในอีก 7 ข้างหน้าที่ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของเราใน ฤดูกาลนี้เลยว่าจะ "หมู่หรือจ่า" เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันเลยแล้วกัน


ลิเวอร์พูล vs เชลซี

 

   

    เกมในสุดสัปดาห์ถือเป็นบิ๊กแมตช์ในวีคนี้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มูรินโญ่ ได้ออกมากระแนะกระแหนทีมเราจากการส่งตัวสำรองลงบู๊ เรอัล มาดริด ในเกมกลางสัปดาห์ นั้นเป็นการบ่งบอกว่า เชลซี ต้องการสร้างสถานการณ์ให้เราปั่นป่วนไม่มากก็น้อย และเกมนี้ถือเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่า แบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะหาทางพาทีมไปข้างหน้าได้อีกครั้งหรือไม่

คริสตัล พาเลซ vs ลิเวอร์พูล

     ดูเหมือนจะเป็นเกมที่ง่ายสำหรับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่จะพาทีมคว้าสามแต้มได้ แต่ประเด็นก็คือว่าเขาจะจัดชุดใหญ่เต็มสูบหรือเปล่า? เมื่อต้องออกไปเยือนเกมสำคัญในนัดถัดไปกับ ลูโดโกเร็ตส์ เพื่อต่อชะตาเพื่อโอกาสเข้ารอบในรายการ ชปล. ต่อไป

ลูโดโกเร็ตส์ vs ลิเวอร์พูล

 

     เกมนี้พวกเขาต้องคว้าสามคะแนนให้ได้หากหวังจะเข้ารอบต่อไป แม้ชื่อชั้น ลูโดโกเร็ตส์ จะดูห่างชั้นกับยอดทีมอย่าง ลิเวอร์พูล พอสมควร แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทำอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะนัดแรกที่พวกเขาเกือบทำแสบได้ในเกมที่ แอนด์ฟิลด์

ลิเวอร์พูล vs สโต๊ค ซิตี้

     เกมนี้พวกเขาจะได้กลับมาเล่นในบ้านอีกครั้งเพื่อรับการมาเยือนของ สโต๊ค ซิตี้ เชื่อเหลือเกินว่าการเดินทางไปเล่นเกมยุโรปน่าจะส่งผลถึงสภาพความฟิตและความเหนื่อยล้าสำหรับลูกทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไม่มากก็หน่อย แต่เรื่องนี้เก็บมาเป็นข้ออ้างไม่ได้เนื่องจากบรรดายักษ์ใหญ่ในลีกต่างก็ต้องเจออยู่แล้วยามเล่นเกมยุโรปกลางสัปดาห์

เลสเตอร์ ซิตี้ vs ลิเวอร์พูล

     แมตช์กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นแมตช์บังคับที่จะต้องคว้าสามแต้มให้ได้เท่านั้น หางยังหวังทำคะแนนเพื่อไปอยู่ในพื้นที่ท็อป 4 ถ้าหากเราไม่สามารถหวังเก็บแต้มจากทีมรองบ่อนได้ มันยิ่งทำให้ทีมสูญเสียความมั่นใจไปพอสมควร

ลิเวอร์พูล vs ซันเดอร์แลนด์

 

     เกมนี้ก็เช่นเดียวกันไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งนั้น หากไม่สามารถเก็บ 3 แต้มในบ้านของตัวเองได้ แม้เกมนัดหน้าจะมีเกมสำคัญกับ บาเซิ่ล รออยู่ แต่การทำคะแนนเพื่อกลับไปอยู่หัวตารางดูจะเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าเน้นฟุตบอลทุกรายการโดยไม่ดูศักยภาพของตัวเอง เชื่อว่าหากเกมนี้เราสามารถโชว์ฟอร์มได้ดีและมีผลการแข่งขันที่ต้องการได้ ผมคิดว่านัดถัดไปพลพรรค "หงส์แดง" น่าจะมีกำลังใจและแรงฮึกเหิมทวีคูณเลย

ลิเวอร์พูล vs บาเซิ่ล

 

     ถ้าหากเราสามารถผ่าน ลูโดโกเร็ตส์ มาได้ และทาง บาเซิ่ล ไม่สามารถเก็บคะแนนยอดทีมอย่าง เรอัล มาดริด เกมนี้ถือเป็นตัวชี้วัดเลยว่าทีมใดจะมีโอกาสคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายใน ชปล.ได้ และเกมนี้อาจจะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งกับสิ่งที่ทีมฝ่าฟันกันมาจนมีโอกาสมาเล่นถ้วยใบนี้จะไม่เสียเปล่า


     ผมเชื่อว่าหากเราสามารถผ่าน 7 เกมนี้และยกระดับทีมขึ้นมาได้ น่าจะทำให้ทิศทางของสโมสรไปในทางที่ดีอย่างแน่นอน และมันเป็นการบ่งบอกถึงศักยภาพของบอสไปในตัวว่าเขาเป็นคนที่ใช้สำหรับ ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริงหรือไม่ แม้ฤดูกาลก่อนเขาจะพาทีมไปได้ไกลและระเบิดฟอร์มการเล่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ และการที่เขาทำทีมโดยขาดจอมสังหารอย่าง ซัวเรซ เช่นนี้ เขาจะทำยังไงให้ทีมเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่มีเขา แม้ผลลัพธ์ 7 เกมข้างหน้าจะเป็นเช่นไร พวกเราเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ไม่มีทางทอดทิ้งทีมไปไหนแน่นอน..

 

 

ADS