หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / แด่ 5 ปีที่หายไป...การกลับมาอีกครั้งของหงส์แดงในเวทียุโรป

แด่ 5 ปีที่หายไป...การกลับมาอีกครั้งของหงส์แดงในเวทียุโรป

แด่ 5 ปีที่หายไป...การกลับมาอีกครั้งของหงส์แดงในเวทียุโรป

     และแล้วก็คลอดออกมาสำหรับผลการจับสลากแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2014/15 ที่ได้ทำการประกาศอย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่เมืองโมนาโก ห่าง
หายไป 5 ปี กลับมาคราวนี้เรียกได้ว่าเจอของแข็ง ต้องอยู่ร่วมสายกับทีมยักษ์ใหญ่โตมโหฬารของโลกอย่าง "ราชันย์ชุดขาว" เรอัล มาดริด แชป์ยุโรป 10 สมัย ตามด้วยอีกสองทีมคือ บาเซิ่ล ทีมดังจากสวิตเซอร์แลนด์ และ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด จากบัลแกเรีย

 

     มองจากรูปการณ์ และอ่านเกมเอาคร่าวๆแล้ว ลิเวอร์พูล กับ เรอัล มาดริด น่าจะเข้าวินเป็นสองอันดับแรกของกลุ่มได้ไม่ยาก แต่ก็ประมาททีมอย่าง บาเซิล ไม่ได้ เพราะพลพรรคนักเตะหงส์แดง เรื้อสนามจากเวทียุโรปมานานกว่า 5 ปี แต่บาเซิลในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาได้ลงเล่นทั้งถ้วยเล็ก ถ้วยใหญ่ของยุโรปมาอย่างสม่ำเสมอ แน่นอนว่าประสบการณ์ของนักเตะต้องเหนือกว่าลิเวอร์พูลอยู่พอสมควร

 

 

     อีกหนึ่งทีมอย่าง ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด คงไม่ต้องพูดถึง ไม่น่าจะรู้จักกันในวงกว้าง แม้กระทั่งตัวผมเองก็เพิ่งจะมารู้จักเอาในวันนี้ ลองไปค้นประวัติทีมนี้ในถ้วยยุโรป ผลงานหนักไปทางเสมอกับแพ้ แต่ก็ไม่ควรประมาท อาจจะมีการพลิกล๊อคเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ เพราะฉะนั้น เรามาโฟกัสกันที่ เรอัล มาดริด กันดีกว่าครับ ว่าในอดีตที่เคยพบกันมาก่อนหน้านี้ ทั้งสองทีมเป็นยังไงกันบ้าง

 

 

     ลิเวอร์พูล เคยฟาดแข้งกับ เรอัล มาดริด มาแล้ว 3 ครั้ง โดยในครั้งแรกต้องย้อนไปถึงปี 1981 ในวันที่ 27 พฤษภาคม นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1980-81 โดยหงส์แดงของเราเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูโทนของ อลัน เคนเนดี้ กองหลังระดับตำนาน ด้วยประตูนั้นเอง ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล คว้าถ้วยบิ๊ก เอียร์ ไปครองได้เป็นสมัยที่ 3 แฟนบอลเฮกันสนามแทบแตก เรามีภาพการทำประตูมาให้ชมด้วยครับ

 

 

     อีกนัดต่อมาเกิดขึ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก ของฤดูกาล 2008/2009 ที่พลพรรคเครื่องจักรสีแดงบุกไปเอาชนะราชันย์ชุดขาวถึงถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว 0-1 จากการโหม่งของปีกหน้าซึม ยอสซี่ เบนายูน ครองความได้เปรียบไปก่อนในนัดแรก ก่อนจะไปเจอกันอีกครั้งในถิ่นแอนฟิลด์

     มาถึงเลกที่สอง ลิเวอร์พูลเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของเรอัลมาดริดที่ต้องการชัยชนะเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายผลไม่เป็นตาม

ที่ต้องการ หงส์แดงแรงเว่อร์ กดทีมเยือนยับยู่ยี่กว่าเดิม 4-0 เบิกร่องโดย เฟร์นันโด ตอร์เรส ในนาทีที่ 16 ตามด้วยสองประตูจากกัปตันคนเก่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ปิดท้ายด้วยประตูที่สี่ จากแบ็คซ้ายชาวอิตาเลียน อันเดรีย ดอสเซน่า ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมต่อไปอย่างสวยงาม

 

 

     ถึงแม้ว่าจากผลงานทั้ง 3 ครั้งของลิเวอร์พูลจะมีแต่ชัยชนะ อย่าลืมนะครับว่า เรอัล มาดริด เป็นขาประจำในเวทียุโรป แถมยังมีดีกรีเป็นถึงแชมป์เก่าอีกต่างหาก ต่างจากทีมหงส์แดงที่เพิ่งกลับมาสู่เส้นทางการไล่ล่าถ้วยบิ๊กเอียร์สมัยที่ 6 อีกครั้ง ถึงแม้จะห่างหายไปนาน และแม้ประสบการณ์นักเตะจะด้อยกว่า แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทัพนักเตะ "เร้ด แมชชีน" ภายใต้การคุมทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะไม่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกต้องผิดหวัง ผ่านรอบแบ่งกลุ่มทะลุไปถึงรอบลึกๆ คืนความสุขให้ประชาชนชาว เดอะ ค็อป ได้อย่างแน่นอน

 

ADS