เดจาวู! แบบนี้ที่เราต้องการ

     เปิดฤดูกาลจนได้นะครับสำหรับศึกพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ที่ทุกคนทั้งโลกต่างรอคอย หลายต่อหลายคนเฝ้ารอมาตั้งแต่การจบลงไปของศึก เวิลด์คัพ 2014 เพราะตลาดนักเตะของลีกจากเกาะอังกฤษนี้มันเริ่มคึกคักทันทีทันใดเลย ทีมใหญ่ๆต่างเสริมตัวนักเตะเข้าสู่ทีมกันเป็นว่าเล่น ทีมเล็กๆก็มีการดึงนักเตะระดับบีถึงบีบวกจากสโมสรอื่นในยุโรปเข้ามาสู่ทีมเช่นเดียวกัน มันไม่แปลกเลยว่าทำไม ศึกพรีเมียร์ลีก ถึงได้รับความนิยมมากที่สุด

     ''หงส์แดง'' เริ่มจากการคว้าตัว ริคกี้ แลมเบิร์ต ศูนย์หน้าจากเซาแธมป์ตัน ตามมาด้วย อดัม ลัลลาน่า จากสโมสรเดียวกัน เอ็มเร่ คาน จากเลเวอร์คูเซ่น ลาซาร์ มาร์โควิช จากเบนฟิก้า เมื่อเราเซ็นมาแล้วถึง 4 คน ขุมกำลังของเรา ณ ขณะนั้นต้องบอกว่าแข็งแกร่งจริงๆ ที่จะได้นักเตะเหล่านี้มาผนึกกำลังกับ หลุยส์ ซัวเรซ แต่ทว่ามันก็ไม่เป็นแบบนั้น เมื่อเราต้องเสียพี่ ''เหยิน'' ออกไปให้กับทาง บาร์เซโลน่า มันทำให้ผมนึกย้อนไปถึงเมื่อฤดูกาล 2010-2011 ที่ลิเวอร์พูล กำลังจะได้กองกลางอย่าง ราอูล เมยเรเลส และ หลุยส์ ซัวเรซ ที่จะมาผนึกกำลังกับกองหน้าฟอร์มร้อนแรงของเราในขณะอย่าง เฟอร์นานโด ตอเรส แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเราต้องเสีย ''เอลนินโญ่'' ไปให้กับทางเชลซี

     ดูๆแล้วมันก็เหมือนกับหนังชีวิต ทีมเรากำลังจะลงตัวในทุกๆด้านแต่เราก็ต้องสูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่างไปโดยตลอด ฤดูกาลนี้พอเราปล่อย ซัวเรส ออกไป ทำให้เรามีเม็ดเงินในการหาตัวเข้ามาแทนอย่างมากมายมหาศาล แต่ด้วยกึ๋นของ ร็อดเจอร์ส ที่ดูดีกว่าไม่ได้ไปบ้าทุ่มเหมือนที่ดึง แอนดี้ คาร์โรล มาด้วยค่าตัวที่แสนแพงถึง 35 ล้านปอนด์(ประมาน 1,862 ล้านบาท) แต่เรากลับได้นักเตะมาเพิ่มอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เดยาน ลอฟเรน จากเซาแธมป์ตันเจ้าเก่า แบ็คซ้ายอย่าง อัลเบร์โต้ โมเรโน่ จากเซบีญ่า รวมไปถึงดาวรุ่งอย่าง ดิวอค โอรีกี ที่เราต้องปล่อยตัวให้ ลีลล์ ยืมใช้งานต่อไปก่อนอีกหนึ่งฤดูกาล และรายสุดท้ายแต่ไม่น่าจะท้ายสุดอย่าง ฮาเวียร์ มานควิลโญ่ ที่ยืมตัวมาจาก แอตเลติโก มาดริด

     เกริ่นมาซะยาว หลายคนคงเห็น เดจาวู เล็กๆ ไปแล้วกับสิ่งที่ผมได้บอกมาข้างต้น คราวนี้จะมาเข้าเรื่อง เดจาวู! ของจริงที่ผมต้องการจะนำเสนอในวันนี้ครับ ฤดูกาลที่แล้ว ที่เราสามารถลุ้นแชมป์ไปกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างสนุกใครยังพอจำเกมแรกในฤดูกาลนั้นของเราได้ไหม นัดเปิดฤดูกาลที่แอนฟิลด์เกมนั้นมันเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความหวังในการลุ้นแชมป์ของฤดูกาลที่ผ่านมาเลยทีเดียว สโต๊ค ซิตี้ ทีมที่เราถือว่าแพ้ทางมาอยู่ตลอดเพราะเมื่อเราเจอ ''ช่างปั้นหม้อ'' ทีไร ต้องเป็นอันเสมอไม่ก็พลาดท่าพ่ายไปในที่สุด และสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่มันทำให้ดูยากขึ้นไปอีกกับเกมแรกฤดูกาลที่แล้วคือเราไม่มี หลุยส์ ซัวเรซ ที่ติดโทษแบน จากการเอาฟันไปเฉาะใส่ อิวาโนวิช แต่เกมนั้นเราก็ออกนำไปก่อนจนได้จาก ดาเนียล สเตอร์ริด ในช่วงท้ายของครึ่งแรก หลังจากนั้นเกมของเราก็เป็นรอง สโต๊ค ซิตี้ ทันที

     ''ช่างปั้นหม้อ'' โหมบุกแหลกจนเราป้อแป้ออกอาการไม่ดี ถ้าเป็นมวยก็คงโดนต้อนจนจะจนมุมอยูแล้ว และในนาทีที่ 90 ของเกม สิ่งที่หลายๆคนไม่อยากให้เกิดมันก็เกิดขึ้น เมื่อ ลิเวอร์พูล ต้องมาเสียลูกโทษที่จุดโทษ ในใจตอนนั้นหลายต่อหลายคนตอนนั้น คงคิดแล้วว่าเอาอีกแล้วนะ สโต๊ค ซิตี้ แถมเกมนั้นเป็นการลงทำหน้าที่เกมแรกของผู้รักษาประตูมือหนึ่งคนใหม่อย่าง ซิมง มินโญเล่ต์ ซะด้วย ทำให้ความคิดหลายๆอย่างมันรุมเข้ามาในหัวพวกเราอย่างหนักหน่วง เปิดฤดูกาลแบบนี้อีกแล้วและเราจะทำอันดับในฤดูกาลนี้ได้ดีขนาดไหน แต่ทว่าสิ่งที่เรากำลังครุ่นคิดอย่างหนักหน่วงมันก็มลายหายไปในทันที เมื่อ โจนาธาน วอเตอร์ ยิงไปติดเซฟของ มินโญเล่ต์ เต็มๆแถมจังหวะตามเข้ามาซ้ำ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งคนใหม่ของเรา ก็ผวากระโดดออกไปเซฟได้เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน จบเกมเราได้สามคะแนนที่มีค่าและน่าเหลือเชื่อสุดๆ

     ฤดูกาล 2014-2015 นัดแรกของเราในฤดูกาลนี้ ต้องบอกเลยว่าเราเจอกับทีมที่เหมือนจะแพ้ทางเขาอยู่ประจำเช่นเดียวกันอีกแล้วอย่าง ''นักบุญ'' เซาแธมป์ตัน เกมนี้เราประเดิมนักเตะใหม่ 2 คนอย่าง เดยาน ลอฟเรน และ ฮาเวียร์ มานควิลโญ่ ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เริ่มต้นได้สวยอีกครั้งจากการออกนำไปก่อนของ ราฮีม สเตอร์ลิง แต่มันก็กลายเป็นเหมือนหนังฉายซ้ำ พอเรานำก่อนรูปเกมของเราดูไม่ได้เรื่องเอาซะเลย โดน เซาแธมป์ตัน บุกเข้าใส่แบบแทบไม่ได้หายใจเลยทีเดียว และแล้วเราก็มาโดน นาธาเนียล ไคล์ ยิงตีเสมอเป็น 1-1 จนได้

     พอถึง ณ ตอนนั้นคำถามต่างๆก็ถาโถมเข้ามาในหัวของ เดอะ ค็อป อย่างผมอีกครั้ง เราจะได้ 1 คะแนนหรือไม่ เพราะ 3 คะแนนมันดูมากไปเหลือเกินสำหรับรูปเกมตอนนั้นของเรา เซาแธมป์ตันมีโอกาสมากมายที่จะปิดเกมเราและดับความหวังทุกๆอย่างในฤดูกาลนี้ของเรา จนกระทั่งพวกเขาเกือบประสบความสำเร็จ จากการหลุดเข้าไปได้กดเต็มๆของ มอร์แกน ชไนเดอแลงก์ แต่ก็เป็น ฮีโร่นัดแรกในฤดูกาลก่อนของเราอย่าง มินโญเล่ต์ ที่สามารถปัดบอลไปชนคานได้อย่างเหลือเชื่อ ทำให้เรารอดพ้นจากการโดนนำไปได้

     บอสของเราก็พยายามแก้เกมอย่างถึงที่สุดในเวลานั้น และสุดท้ายสิ่งที่เราไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเป็น ดาเนียล สเตอร์ริด ยิงบอลเปลี่ยนทางให้ลิเวอร์พูลออกนำอีกครั้ง 2-1 ในช่วงท้ายเกม และมันก็กลายเป็นประตูชัยช่วยให้ ลิเวอร์พูล เก็บ 3 แต้มอันล้ำค่าในเกมนี้ได้สำเร็จ ทั้งๆที่ฟอร์มโดยรวมของพวกเราไม่เอาไหนซะเลย แต่นี่แหละคือสิ่งที่โลกฟุตบอลต้องการ ชัยชนะบางทีมันก็สำคัญกว่ารูปแบบการเล่น อย่างที่ โชเซ่ มูริญโญ่ ทำได้บ่อยๆ

     หลังจบเกมนี้มันทำให้ผมคิดได้เลยว่ามันเหมือนฤดูกาลที่แล้วอย่างกับแกะ เราป้อแป้มาทั้งเกมแต่สามารถเก็บ 3 แต้มได้อย่างเหลือเชื่อ และตอนนี้ผมก็คิดไปไกลแล้วว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จของเราอีกครั้งในฤดูกาลนี้ เราจะต้องเดินหน้าต่อไปเหมือนกับยามที่เราเสีย ตอเรส แต่มี ซัวเรส เข้ามาแทน ถึงตอนนี้เราเสีย ซัวเรส ไป แต่เรายังมีกุนซือที่เชื่อใจได้อย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แม้ฤดูกาลนี้มันจะยังอีกยาวไกลแต่เราก็จะต้องก้าวเดินต่อไปพร้อมกัน ''You Will Never Walk Alone''