ลิเวอร์พูลหลังขาดซัวเรซจะเป็นอย่างไร ?

     หลังจากการจากไปของนักเตะตัวหลักอย่าง หลุยซ์ ซัวเรซ ทำให้ผู้คนหรือแม้กระทั่ง เดอะ ค็อป ต่างก็กระตือรือร้นเร่งรีบให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หานักเตะใหม่ที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาทดแทนการขาดหายไปของกองหน้า ''จอมกัด'' รายนี้

     ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และ หลุยซ์ ซัวเรซ ควงกันยิงประตูให้ ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูลในฤดูกาลที่แล้วไปถึง 52 ลูก และช่วยพาให้ ลิเวอร์พูล เบียดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก จนสามารถคว้าอันดับที่ 2 ของตารางมาได้สำเร็จ ซึ่งแน่นอนคู่หูคู่นี้ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้เลยสำหรับสโมสรแห่งนี้

     เดอะ ค็อป อดทนเชียร์ทีมรักลงเล่นในพรีเมียร์ลีกแบบเงียบๆมาตั้งแต่ปี 1990 จนกระทั่งการมาของชายที่ชื่อว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เขาคนนี้สามารถพาให้ เดอะ ค็อป หลายคนได้กลับมาผงาดอีกครั้ง ได้ส่งเสียงเชียร์ทีมรักอย่างกึกก้องแบบไม่ต้องอายใคร หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอดตั้งแต่ที่เขาเข้ามาคุมทีม

     มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ แน่นอนว่า สเตอร์ริดจ์ และ ซัวเรซ เป็นนักเตะกำลังสำคัญสุดๆของทีมเรา พวกเขาสามารถเล่นคู่กันได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2013/14 ที่ผ่านมา แต่คู่นี้ก็มีอยู่หลายครั้งเหมือนกันที่เรามักจะได้เห็นเขาทะเลาะกันจากการที่ทั้งคู่ต่างเป็นผู้เล่นในแบบฉบับที่หวงบอลด้วยกันทั้งสองฝ่าย ทำให้บางทีมันมักเกิดคำถามขึ้นไปให้นายใหญ่อย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องออกมาตอบว่า เขาจะเลือกใครลงเล่นเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง

     พวกเขาสร้างปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจให้เกมรุกของ ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล จนได้สมญานามร่วมกันว่า ''SAS'' แน่นอนเบื้องหลังที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ให้คู่หูคู่นี้จนได้สมญานามไปครองร่วมกัน คงหนีไม่พ้น บุรุษที่ชื่อว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เขาเป็นคนคัดสรรทุกอย่างจนทั้งคู่มาได้เล่นร่วมกันภายใต้แท็คติกที่เขาได้วางไว้

     ตอนนี้ ซัวเรซ จากเราไปแล้ว มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่พอสมควรสำหรับเรา เกมรุกของเราถูกตั้งคำถามว่าจะดุดันเหมือนเมื่อก่อนได้หรือไม่ ซึ่งคำถามนี้ไม่มีใครตอบได้ เวลาเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบสำหรับคำถามนี้

     เราควรมองหานักเตะที่จะมาเล่นเพื่อเข้าระบบมากกว่าที่จะไปตามหาตัวแทนของ หลุยซ์ ซัวเรซ เพราะอาจจะไม่มีนักเตะคนไหนอีกแล้วก็ได้ที่จะเล่นคู่กับ สเตอร์ริดจ์ ได้ลงตัวเท่า ซัวเรซ แท็คติกของ ร็อดเจอร์ส เราคงรู้กันดีว่ามันเป็นระบบแบบบอลเท้าสู่เท้า ถ้าเรามีนักเตะที่หวงบอลจนเกินไปเล่นร่วมกัน 2 คน และมันไม่ใช่ ซัวเรซ กับ สเตอร์ริดจ์ ทีมของเราอาจจะตกต่ำลงจากเดิมก็เป็นได้ ข่าวกับ วินเฟรด โบนี่ ของสวอนซี ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี ถ้าหากจะนำมาเล่นในระบบ กองหน้า 2 คน แต่ถ้าเราดูจากภาพรวมในฤดูกาลที่ผ่านมาแล้ว ร็อดเจอร์ส เหมือนจะชอบเล่นในระบบที่ใช้ศูนย์หน้าตัวเป้าเพียงคนเดียวมากกว่า อีกอย่าง เราก็มี ริคกี้ แลมเบิร์ต ที่สไตล์การเล่นก็ไม่ต่างอะไรเลยจาก โบนี่ ดังนั้นอย่าเสี่ยงดึงเขาเข้ามาร่วมทีมซะดีกว่า

     โบนี่ เป็นกองหน้าประเภทตัวเป้า เน้นใช้ความแข็งแกร่งของร่างกาย ซึ่งแน่นอนลักษณะแบบนี้มันเหมาะกับสไตล์การเล่นแบบอื่นมากกว่าที่ไม่ใช่ลิเวอร์พูล เราต้องการกองหน้าแบบที่สามารถคุมเกมได้และสามารถสร้างโอกาสให้ตัวเองได้ด้วยในตัว แน่นอนโอกาสมากขึ้นประตูก็จะมากขึ้นตามมา แบบนี้แหละคือศูนย์หน้าตัวจริงที่เราต้องการ

     แต่ถ้าหากเราจะเล่นในระบบที่ใช้กองหน้าตัวเป้า 2 คนจริงๆแล้วล่ะก็ ซัวเรซ ก็คงจะต้องถูกแทนที่ด้วยสเตอร์ริด เพราะเขามีทุกอย่างที่ดูคล้ายคลึงกันอย่างมาก ขาดแค่ระดับคลาสที่มันต่างกันแค่เท่านั้นเอง

     ร็อดเจอร์ส ได้ลองทดลองแผนการเล่นในระบบกองหน้าคู่ที่ยืนกันแบบรูปเพชร หรือภาษาฟุตบอลที่เรียกกันว่า 4-4-2 ไดมอนด์ ในครึ่งแรกของเกมที่เจอกับแมนฯซิตี้ ซึ่งก็เป็น แลมเบิร์ต ที่ได้จับคู่กับ สเตอร์ริดจ์ ผลออกมามันดูไม่เวิคร์เอาซะเลย ทำให้เกมในครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ส ต้องเปลี่ยนแผนกลับมาเล่นในระบบ 4-3-3 แล้วก็ตามคาดลิเวอร์พูลกลับมาเป็นฝ่ายครองเกมไว้ได้ทั้งหมด

     อาจจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเราควรที่จะซื้อนักเตะในแนวรุกเข้ามาเสริม แต่ผมคิดว่ามันก็ไม่ควรใช้เงิน 20 ล้านปอนด์ ในการคว้าตัว วิลเฟรด โบนี่ เข้ามาสู่ถิ่นแอนฟิลด์อยู่ดี เราต้องการนักเตะที่เล่นตำแหน่งไหนก็ได้ในแนวรุก ที่ดูแล้วพอจะเข้ากับระบบของเราได้ เหมือนกับการที่เรามี สเตอร์ริดจ์ เขาสามารถเข้ากับระบบของเราได้ไม่ว่าจะเป็น 4-3-3 หรือ แบบไหนก็ตาม

     การขาดหายไปของ หลุยซ์ ซัวเรซ อาจจะไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงอย่างที่ใครหลายๆคนคิดก็เป็นได้เพราะเราก็ยังมีนักเตะอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ลากยาวมาจนถึงเวิลด์ คัพ 2014 ที่ประเทศบราซิล แถมยังมีนักเตะใหม่ที่น่าจับตามองอย่าง ลาซาร์ มาร์โควิช อีก แดนกลางเรามีความสำคัญมากในหลายๆเกมสำหรับฤดูกาลที่แล้ว เพราะมันเป็นเหมือนตัวชี้วัดในเกมรุกของเราเช่นเดียวกัน ทุกคนที่ ร็อดเจอร์ส ได้เสริมเข้าสู่ทีมตอนนี้นั้น ล้วนแต่เป็นนักเตะในเกมรุกที่มีความหลากหลายในตัวเอง ไม่ใช่พวกที่มีการเล่นแบบมิติเดียวซึ่งมันจะส่งผลเสียอย่างแน่นอนเมื่อเราเจอกับทีมที่เล่นเกมรับแบบเต็มพิกัด อีกอย่างสถิติการซื้อตัวของ ร็อดเจอร์ส ต้องบอกว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียว สามารถใช้งานได้จริงๆหลายตัวอยู่เหมือนกันแต่ก็มีไม่น้อยที่ต้องผิดหวังกับฟอร์มเมื่อสวมชุดสีแดงเพลิง

     เราต้องมาตามดูกันต่อไปว่าหลังจากที่เราเสียศูนย์หน้าที่ว่ากันว่าเป็นทุกอย่างของทีมเราไป ฟอร์มของเราในฤดูกาลนี้จะออกมาเป็นแบบไหน และ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะหานักเตะใหม่ที่ถูกใจเข้ามาสู่ถิ่นแอนฟิลด์เพิ่มได้อีกหรือไม่ คำตอบมันอยู่ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นข้างหน้านี้เอง