พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- เลสเตอร์ ซิตี้ (23.30 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- เลสเตอร์ ซิตี้

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2016 เวลา 23.30 น.

สนาม แอนฟิลด์

ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

ถ่ายทอดสด True beIN Sports 1

     "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะได้ประเดิมเกมแรกในบ้านที่สนามแอนฟิลด์โฉมใหม่ พร้อมกับเพิ่มความจุอีกกว่า 8,000 ที่นั่ง แม้คู่ต่อสู้จะเป็นถึงแชมป์เก่า เชื่อว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะสั่งลุยเต็มสูบเอาใจ "เดอะ ค็อป" แน่นอน!!

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     สภาพความพร้อมของ ลิเวอร์พูล พวกเขาจะมีชื่อของ ลอริส คาริอุส ที่หายใจเจ็บทันพร้อมลงสนามในเกมนี้ ทว่ายังต้องหลีกทางให้ ซิมง มิโญเล่ต์ ลงตัวจริงไปก่อน และยังคงไม่สามารถใช้งานแข้งเดี้ยงหน้าเดิมอย่าง มามาดู ซาโก้, โจ โกเมซ, ลูคัส เลว่า และ เชยี่ โอโย่ รวมถึง เอ็มเร่ ชาน และ รักนาร์ คาวาน ที่เจ็บเพิ่มเติมเข้ามา

     คาดว่าเกมนี้พวกเขาจะจับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เป็นเพียงผู้เล่นตัวสำรอง หลังเพิ่งเดินทางกลับมาจากเกมทีมชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และจะได้เห็น แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงสนามเป็นตัวจริงในบทบาทศูนย์หน้า พร้อมกับถอย โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ ลงมาเล่นตัวรุก

สภาพทีมล่าสุด : เลสเตอร์ ซิตี้

     เลสเตอร์ ซิตี้ ของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูตัวเก่งที่ยังต้องพักฟื้นหลังการผ่าตัดใส้ติ่ง โดยจะใช้ รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ รับหน้าที่นี้แทนเกมค่ำคืนนี้

     ส่วนในรายของ ชินจิ โอกาซากิ ที่เพิ่งกลับมาจากเกมทีมชาติญี่ปุ่นที่พบกับไทยจะต้องหลีกทางให้แก่ อิสลาม สลิมานี่ ดาวยิงทีมชาติอัลจีเรีย ที่เพิ่งทุ่มเงินถึง 30 ล้านปอนด์ คว้ามาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ลงยืนเป็นศูนย์หน้าคู่กับ เจมี่ วาร์ดี้ แทน

คีย์แมน

ลิเวอร์พูล : ซาดิโอ มาเน่

     แม้จะลงสนามไปเพียงแค่สองนัดเท่านั้นกับ ลิเวอร์พูล แต่ ซาดิโอ มาเน่ กับกลายเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลต่อเกมมากที่สุดในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จากที่ได้เห็นในเกมกับ อาร์เซนอล มาเน่ สามารถฉีกแนวรับได้เป็นชิ้นพร้อมกับบวกประตูได้อย่างยอดเยี่ยม แม้กับเกมกับ สเปอร์ส จะไม่สามารถทำประตูได้แต่ความร้ายกาจของเขาก็เล่นงานแนวรับได้มากพอสมควร เฉพาะอย่างยิ่งที่เกมนี้จะไม่มีชื่อของ ฟิลลิปเป้ คูตินโญ่ เป็นตัวจริง บทบาทภาระในการสร้างสรรค์เกมจะตกอยู่ที่เขาอย่างไม่ต้องสงสัย

เลสเตอร์ : เจมี่ วาร์ดี้

     จากผลงานพังประตูจนทำให้ เลสเตอร์ ค่าแชมป์มาแล้วคงไม่มีใครสงสัยในพิษสงของเขาเป็นแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถิติยิงไปถึง 6 ลูก จาก 7 เกมหลังสุดในลีก น่าจะทำให้กองหลังเจ้าถิ่นพบกับความกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหากย้อนไปเมื่อเกมล่าสุดที่ทั้งคู่พบกัน ก็เป็นเจ้า วาร์ดี้ นี่แหละที่เผาเครื่องแนวรับพร้อมกับเหมาคนเดียวสองประตูที่ คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์

     "พวกเขาคือคู่แข่งที่เก่ง แต่ผมอยากจะบอกว่า ตอนนี้มันคนละฤดูกาลกันแล้ว และการเล่นเกมในบ้านนัดแรกของเรา โดยมีแฟน ๆ เพิ่มขึ้นอีก 8,000 คน เราควรใช้มัน"

     "มีหลายต่อหลายอย่างเกิดขึ้น หากคุณเอาเกมของเรามานับรวมกันในช่วง 3 จาก 4 นัดแรก คุณอาจจะบอกได้ว่าอาจจะแพ้ อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส ได้ แต่กับ เบิร์นลี่ย์ เราไม่ควรแพ้ นั่นเท่ากับว่าเราอาจมี 4 คะแนนเท่าเดิม มันอาจจะรู้สึกไม่ดีนักนะ แต่มันก็พอรับได้แหละ"

เคลาดิโอ รานิเอรี่

     "ลิเวอร์พูล ยังคงเป็นทีมที่อยู่ในลิสต์ลุ้นแชมป์ พวกเขาพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้แชมป์มา พวกเขากำลังมีทีมที่ลงตัว และในวันเสาร์นี้มันจะต้องเป็นเกมส์ที่ยอดเยี่ยมแน่ๆ"

     "พวกเราบุกไปเยือนพวกเขาและพยายามคว้าชัยชนะมาให้ได้แน่นอน เพราะพวกเราเป็นทีมแชมป์เก่า ที่จริงมันเป็นเรื่องยากของพวกเรา แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับพวกเขาเช่นกัน"

ฟอร์มการเล่น

     - ลิเวอร์พูล เก็บได้ 4 แต้ม จาก 3 นัดในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1) เช่นเดียวกับ เลสเตอร์ ซิตี้

ประวัติการพบกัน

     - ลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในสอง(อาร์เซนอล)ที่เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ด้วยการชนะที่ แอนฟิลด์ 1-0 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปีที่แล้ว

     - เลสเตอร์ เก็บได้เพียงแต้มเดียว จาก 5 นัดหลังสุดในถิ่น แอนฟิลดฺ์ ซึ่งชัยชนะครั้งสุดท้ายที่นี่ต้องย้อนไปถึง เดือน พฤษภาคม ปี 2000 ซึ่งจบลงด้วยสกอร์ 0-2

     - ทว่า "จิ้งจอกสยาม" ก็สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 นัดหลังสุดที่พบกัน จากการที่ เจมี่ วาร์ดี้ เหมาคนเดียวสองประตูช่วยให้ทีมชนะ 2-0 ในเกมลีกที่ คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม วันที่ 2 กุมภาพันธ์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ ; นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, โจเอล มาติป, เจมส์ มิลเนอร์ ; อดัม ลัลลานา, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวย์นัลดุม ; ซาดิโอ มาเน่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-4-2) : รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ ; แดนนี่ ซิมป์สัน, โรเบิร์ต ฮูธ, เวส มอร์แกน, คริสเตียน ฟุคส์ ; ริย๊าด มาห์เรซ, แดเนี่ยล ดริ๊งค์วอเตอร์, แดเนี่ยล อามาร์ตี้, มาร์ก อัลไบรจ์ตัน ; เจมี่ วาร์ดี้, อิสลาม สลิมานี่

ฟันธง : ลิเวอร์พูล เสมอ 2-0