ได้ 4 เสีย 1 และย่างก้าวสำคัญของ"เร้ดแมชชีน"

     ตอนนี้ผมเชื่อว่าใครหลาย ๆ คนกำลังตั้งคำถามเกี่ยวกับทิศทางและอนาคตของทีมอยู่เป็นแน่แท้ เพราะเราเพิ่งเสียนักเตะที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมมาโดยตลอดอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ให้กับทีมมหาอำนาจอย่าง บาร์เซโลน่า ไปเป็นที่เรียบร้อย

     ปัญหาที่สำคัญก็คือใครจะมาทดแทนการขาดหายไปของเขากัน! ในเมื่อคุณสูญเสียกองหน้าที่ได้ชื่อว่าสุดยอดที่สุดคนนึงของโลกไปแล้วในเวลานี้ มันคงไม่ใช้งานง่ายแน่ ๆ ที่จะหาผู้เล่นในแบบเดียวกับเขาได้ และผมเชื่อว่าทางสโมสรเองก็คงทราบเรื่องนี้ดีกว่าใคร และคงไม่ตัดสินใจปล่อยเขาออกจากทีมโดยปราศจากการเตรียมแผนสำรองแน่ ๆ

     เอาล่ะ เราพักเรื่อง หลุยซ์ ซัวเรซ แล้วไปดูรายชื่อนักเตะที่เราได้มาในตอนนี้กันก่อนว่าพวกเขาทำอะไรบ้าง รายแรกที่ลิเวอร์พูลดึงตัวมาก็คือ ริคกี้ แลมเบิร์ต หัวหอกจอมเก๋าจากเซาแธมป์ตัน ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นตัวซัพพอร์ตมากกว่ามาเป็นตัวหลักให้แก่ทีม แต่ก็ถือว่าเป็นกองหน้าในสไตล์ที่แตกต่างจากนักเตะที่เรามีอยู่ ด้วยรูปร่างสูงใหญ่สามารถเก็บบอลไว้กับตัวได้ดี น่าจะเป็นนักเตะในเชิงแทคติคของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ได้ดีทีเดียว

     ส่วนนักเตะรายที่สองก็คือ อดัม ลัลลานา นักเตะคนสำคัญของเซาแธมป์ตันอีกราย ตัวนี้ผมมองว่าเป็นนักเตะในอุดมคติการทำทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ เลยก็ว่าได้ ลัลลานา เป็นนักเตะที่มีความยืดหยุ่นสูงสามารถเล่นได้ในทุกตำแหน่งในแนวรุก และที่สำคัญเข้ายังสามารถสอดขึ้นไปทำประตูได้ดีอีกด้วย ซึ้งแตกต่างจากฤดูกาลที่แล้ว ที่เรามักทำประตูได้จากพื้นที่สุดท้ายมากกว่าพื้นที่นอกกรอบเขตโทษ

     รายต่อไปคือ เอ็มเร่ ชาน ดาวรุ่งจากเยอรมันตัวนี้ต้องเผื่อใจเอาไว้บ้างนะครับหากใครคิดว่าเขาจะสร้างผลงานโดดเด่นทันทีทันใดเลยในฤดูกาลใหม่นี้ เพราะผมมองว่าเขายังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกพอสมควร แต่ผมยังเชื่อว่านักเตะต้องมีดีอยู่ในตัวไม่งั้นตำนานอย่าง ซามี่ ฮูเปีย อดีตเทรนเนอร์ เลเวอร์คูเซ่น คงไม่กล้าการันตีความเจ๋งของกองกลางสารพัดประโยชน์ผู้นี้แน่นอน

     รายล่าสุดที่เพิ่งย้ายมาสด ๆ ร้อน ๆ เลยก็คือ ลาซาร์ มาร์โควิช ปีกจอมเทคนิคจากเบนฟิก้า ด้วยสปีดความเร็วที่จัดจ้านและจังหวะการไปกับบอล ทำให้ผมนึกถึง อังเคล ดิ มาเรีย สมัยยังค้าแข้งในลีกโปรตุเกสยังไงอย่างงั้นเลย ดูแล้วเจ้าตัวน่าจะสร้างมิติในเกมรุกโดยเฉพาะจังหวะโต้กลับได้สะแด่วเด็ดดวงอย่างแน่นอน ถึงแม้จะถูกตั้งคำถามจากราคาค่าตัว 20 ล้านปอนด์ที่เสียไป ว่าคุ้มค่าหรือไม่กับผู้เล่นดาวรุ่งที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองมากนัก

     หากมองในภาพรวม นักเตะที่เข้ามาถือเป็นการเสริมทัพที่เข้าท่าเลยทีเดียว ถึงแม้ผู้เล่นหลายคนจะไม่ใช้ดาวเตะบิ๊กเนมชื่อก้องโลก แต่ถ้ามองเรื่องของระบบของทีมที่ถูกวางเอาไว้ น่าจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมเพื่อสู้ศึกในฤดูกาลใหม่ได้ไม่ยาก ถึงแม้การขาดหายไปของ หลุยซ์ ซัวเรซ จะทำให้ประสิทธิภาพในแนวรุกของทีมลดน้อยลงและขาดลูกมหัศจรรย์ตามสไตล์ดาวยิงจอมกัดไปบ้าง แต่ผมยังเชื่อว่าเงินจำนวน 75 ล้านปอนด์ ที่เราได้มานั้น จะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นผู้เล่นชั้นดีได้หลายคนถึงแม้จะไม่ถึงระดับดาวดังอุรุกวัยก็ตาม

     ในตอนนี้เชื่อว่าทุกคนกำลังจับจ้องรอฟังข่าวสโมสรเราเป็นข่าวกับดาวเตะบิ๊กเนม อย่าง คาริม เบนเซม่า กอนซาโล่ อิกวาอิน หรือแม้กระทั่ง มาร์โก้ รอยส์ ที่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่อย่างเรา ๆ ต้อง กรี๊ดแตกทันทีถ้าหากคว้าตัวมาร่วมทัพได้ แต่ถ้าสุดท้ายเราไม่สามารถดึงนักเตะระดับบารมีมาเสริมทัพล่ะ สโมสรเราจะเป็นยังไง สโมสรเราจะกลับไปตกต่ำอีกครั้งหรือเปล่า คำถามนี้ผมคงตอบไม่ได้จริง ๆ แต่อย่างน้อยเราคงลืมคิดไปบ้างนะครับว่านักเตะได้ชื่อว่าเก่งกาจคนนึงของโลกอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ก็ไม่ได้ย้ายมาอยู่ทีมเราในฐานะนักเตะระดับเวิลด์คลาสเลยซะทีเดียวในปีแรก

     สิ่งที่เหล่าแฟนบอลทำได้ก็คือต้องเชื่อมั่นในแนวทางของสโมสรและปรัชญาการทำทีมของบอสใหญ่เราก็เท่านั้น การมีนักเตะบิ๊กเนมอยู่ในทีมมากมายมันก็ไม่ได้บ่งบอกว่าเราจะประสบความสำเร็จได้เสมอไป ตัวอย่างก็มีให้เห็นในฤดูกาลที่แล้ว(ทีมที่คุณก็รู้ว่าใคร) ในอนาคตเราอาจจะเป็นทีมที่สร้างนักเตะชั้นยอดขึ้นมาเองก็เป็นได้ และมันจะเป็นอะไรที่ไม่น่าภูมิใจกว่าหรือ...