เช็คฟอร์มแข้งใหม่หลังเกมเฉือน ทรานเมียร์ฯ 1-0

          จบลงไปแล้วสำหรับเกมปรี-ซีซั่นนัดแรกของฤดูกาล 2016/17 โดยยอดทีมอย่าง ลิเวอร์พูล ยังสนิมเกาะพอสมควรและทำได้เพียงบุกเอาชนะ ทรานเมียร์ โรเวอร์ส ทีมนอกลีก 1-0 จากประตูชัยของ แดนนี่ อิงส์ ในนาทีที่ 79 อย่างไรก็ดีประเด็นสำคัญของเกมนี้อยู่ที่การประเดิมสนามของเหล่าบรรดาดาวรุ่งและแข้งใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ซึ่งเราจะไปดูกันว่าใครเป็นอย่างไรกันบ้าง ... ไปกันเลยยยย!!!

ลอริส คาริอุส

          นายทวารวัย 22 ปีที่เพิ่งจะเข้ามาร่วมถิ่น แอนฟิลด์ มาหมาดๆ ด้วยค่าตัวราว 4.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 215 ล้านบาท) ได้รับโอกาสลงสนามเปิดตัวเป็นนัดแรกภายใต้เบอร์เสื้อหมายเลข 1 ซึ่งคาดว่าเขาจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ ซิมง มิโญเล่ต์ ในการแย่งชิงมือหนึ่งเฝ้าเสาให้กับ "หงส์แดง"

          ขณะที่ "มินนี่" กำลังอยู่ในระหว่างการพักร้อนหลังจบศึกยูโร 2016 คาริอุส จึงได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาก่อนเป็นเวลาทั้งสิ้น 45 นาทีในครึ่งแรก ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงต้นครึ่งเวลาหลัง อย่างไรก็ดีเกมนี้เขาไม่ได้ถูกกดดันมากจนเกินไป และแทบจะไม่มีงานยากให้แสดงฝีมือ แต่สิ่งที่แสดงให้เห็นบ้างเล็กน้อยก็คือ การให้เสียงกับเกมรับในกรอบเขตโทษและการยืนตำแหน่งที่ทำได้ดี

โจเอล มาติป

          มาติป เอาชนะอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าได้ด้วยการผ่าตัด และเพิ่งจะกลับมาลงสนามซ้อมได้แบบสดๆ ร้อนๆ ยิ่งกว่าออกจากเตา ก่อนเกมเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น โดยเกมนี้เขาจับคู่กับ เดยัน ลอฟเรน ได้แบบไม่มีปัญหา จริงอยู่ที่คู่แข่งอาจจะไม่เป็นตัวอันตรายเท่าไรนัก แต่ก็นับเป็นการเข้าคู่ชิมลางกันได้ลงตัวไม่เบา เชื่อว่าการกลับมาของ มามาดู ซาโก้ อาจทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องปวดขมับในการเลือกตัวจริงอย่างแน่นอน

ซาดิโอ มาเน่

          ตัวรุกผิวสีที่ฉกมาจาก "นักบุญแดนใต้" สโมสรเครือข่ายลูกโซ่ของ ลิเวอร์พูล ยังโชว์ผลงานได้ไม่สมกับค่าตัว 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,372 ล้านบาท) นั่นเพราะความฟิตและองค์ประกอบของทีมยังไม่สมบูรณ์ ทำให้เขาแบกทีมมากเกินไป อย่างไรก็ดีเกมนี้เราจะเห็นได้ว่า มาเน่ พยายามแสดงให้เห็นถึงความเร็วในการเคลื่อนที่, ความคล่องตัวที่ยากจะตามจับได้และการออกบอลที่ง่าย เชื่อว่าฤดูกาลนี้เราน่าจะได้ใช้งานเขาเป็นเต็มๆ ในเกมรุกร่วมกับ โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

โอวี อีจาเรีย

          เจ้าหนูวัย 18 ปีอดีตเด็กในอคาเดมี่ของ อาร์เซน่อล ได้รับโอกาสลงสนามในบทบาทเพลย์เมกเกอร์ช่วงเวลาครึ่งแรก ซึ่งเขาเพิ่งจะร่วมลงซ้อมกับทีมชุดใหญ่ที่เมลวู้ดได้เพียงไม่ถึงสัปดาห์ แต่ด้วยความสามารถในการออกบอล, วางบอลและสายตาอันเฉียบคม ทำให้ทีมได้ประโยชน์จากเขาค่อนข้างเยอะ และด้วยรูปร่างหน้าตาบวกกับฝีเท้าที่ไม่ธรรมดาแบบนี้ ถึงขนาดที่แฟนบอลเมืองนอกยกให้เป็น "นิว ป็อกบา" เลยทีเดียว (อะไรจะขนาดนั้น 555)

เบ็น วู้ดเบิร์น

          หลังจากที่ คล็อปป์ เปลี่ยนระบบมาเล่น 4-3-3 ในช่วงครึ่งหลัง ทำให้ วู้ดเบิร์น ได้รับโอกาสลงเล่นแทนที่ของ ไรอัน เค้นท์ ในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้าย ซึ่งมีรุ่นพี่อย่าง ลาซาร์ มาร์โควิช ประจำการทางกาบขวา สำหรับสไตล์การเล่นของเขาในบทบาทนี้ ถือว่าทำได้ไม่เลว แม้ว่าจะไม่ค่อยมีจังหวะหวือหวาเท่าที่ควร แต่ด้วยความเร็วและความคล่องตัวที่เขามีก็สามารถโจมตีแนวรับของ ทรานเมียร์ฯ ได้เช่นกัน

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์

          บอกได้คำเดียวว่าชื่อมันโคตรเท่เลยจริงๆ สำหรับเจ้าหนูวัย 17 ปี ที่สามารถเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ได้ทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นตัวตัวรุก, ตัวกลาง หรือตัวตัดเกม เรียกว่าเล่นได้หมด นอกจากนี้เขายังสามารถขยับไปเป็นฟูลแบ็คได้อีกด้วย โดยเกมนี้เขาต้องประสานงานกับ เควิน สจ๊วร์ต และ เปโดร ชิริเบญ่า ในการคุมเกมจากแดนกลาง ซึ่งถือว่าโชว์ฟอร์มได้ไม่เลว และนับเป็นหนึ่งในนักเตะพรสวรรค์ที่ ลิเวอร์พูล ปลุกปั้นมากับมือ เชื่อว่าไม่นานเกินรอ เขาน่าจะได้โอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่อีกครั้ง