หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / จาก เรน่า สู่ รูนี่ย์ : รวมทีม 11 แข้งยอดเยี่ยมตลอดกาลที่เคยเล่นกับ "พี่เจิด"

จาก เรน่า สู่ รูนี่ย์ : รวมทีม 11 แข้งยอดเยี่ยมตลอดกาลที่เคยเล่นกับ "พี่เจิด"

armada28 2016-05-31 13:13:07 เจอร์ราร์ด
จาก เรน่า สู่ รูนี่ย์ : รวมทีม 11 แข้งยอดเยี่ยมตลอดกาลที่เคยเล่นกับ พี่เจิด

ผู้รักษาประตู : เปเป้ เรน่า

สโมสร : บาร์เซโลน่า, บียาร์เรอัล, ลิเวอร์พูล, นาโปลี (ยืมตัว), บาเยิร์น มิวนิค, นาโปลี

เกียรติยศส่วนตัว : 7 รายการ

ติดทีมชาติสเปน : 33 นัด

Reina

     นี่คือนายทวารที่ดีที่สุดที่ เจอร์ราร์ด เคยร่วมด้วยที่ แอนฟิลด์ ซึ่ง เรน่า ก็ทำผลงานได้อย่างสุดยอดในการเฝ้าปากประตูตลอด 8 ปี

     เรน่า ที่ตอนนี้กลับสู่ นาโปลี อย่างถาวร เคยโชว์ฟอร์มติดตรึงในความทรงจำของแฟนๆ ในเกม เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ปี 2006 ด้วยการเซฟ 3 จุดโทษ และก็ทำแบบนี้ได้อีกครั้งในนัดชิง ลีก คัพ ปี 2002 ที่ชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ได้สำเร็จ

     แต่อย่างไรก็ตาม สถิติการลงสนามของ เรน่า ก็น้อยกว่าที่ควรจะเป็น หลังได้ลงเซฟประตูแค่ 400 นัดเท่านั้นให้ ลิเวอร์พูล และก็ต้องพบกับความยากลำบาก หลังการมาของ ซิมง มิโญเลต์ จนต้องย้ายทีมในที่สุด

แบ็กขวา : แกรี่ เนวิลล์

สโมสร : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เกียรติยศส่วนตัว : 15 รายการ

ติดทีมชาติอังกฤษ : 85 นัด

Neville

     แกรี่ เนวิลล์ อดีตกุนซือ บาเลนเซีย ถือเป็นแบ็กขวาประสบการณ์สูงสุดของทีมชาติอังกฤษชุด 'โกลเด้น เจเนอเรชั่น' ด้วยพรสวรรค์ในตัวที่ค้าแข้งยืนระยะยาวนานร่วมทศวรรษ และได้ร่วมศึกกับ เจอร์ราร์ด มาหลายทัวร์นาเม้นท์ ไม่ว่า ยูโร 2000, ยูโร 2004 และฟุตบอลโลก 2006

      จุดอ่อนเดียวที่ เนวิลล์ มี ก็คงจะเป็นการเล่นได้แค่ฝั่งขวาฝั่งเดียว ด้วยจุดขายในเรื่องของการครอสบอลเข้าหาปากประตูจากกราบขวาที่ยอดเยี่ยมและแม่นยำ

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : เจมี่ คาร์ราเกอร์

สโมสร : ลิเวอร์พูล

เกียรติยศส่วนตัว : 7 รายการ

ติดทีมชาติอังกฤษ : 38 นัด

Carragher

     กองหลังผู้ภักดีเช่นเดียวกับ เจอร์ราร์ด ลงเล่นตั้งแต่ยังเป็นแค่แข้งเยาวชนจนกลายมาเป็นตำนานของสโมสร ในฐานะผู้เล่นที่ลงสนามมากที่สุดตลอดกาลอันดับ 2 ของประวัติศาสตร์สโมสร

     แม้ว่า คาร์ราเกอร์ จะไม่ได้มีเทคนิคที่ดีหรือความเร็วในการเล่น แต่ คาร์ราเกอร์ ก็ทำหน้าที่คุมเกมรับได้หมดจดในยุคของ ราฟา เบนิเตซ ด้วยความสามารถในการอ่านเกมที่ดี และการเข้าสกัดที่ถึงลูกถึงคน และถึงใจกองเชียร์ ลิเวอร์พูล

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : ริโอ เฟอร์ดินานด์

สโมสร : เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ลีดส์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ควีนส์ปารฺ์ค เรนเจอร์ส

เกียรติยศส่วนตัว : 10 รายการ

ติดทีมชาติอังกฤษ : 81 นัด

Ferdinand

     ในช่วงพีค เฟอร์ดินานด์ คือกองเล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลก ด้วยลีลาที่สง่างาม, มีความเร็ว, เข้าสกัดและทางบอลที่สุดยอด และเขาก็นับเป็นคู่ต่อกรของ เจอร์ราร์ด เช่นเดียวกับ เนวิลล์ ผู้พี่ ที่ต้องดวลกันในศึกแดงเดือดมาตลอด แต่อีกมุมหนึ่งเขาก็เป็นเพื่อนร่วมทีมในนาม "สิงโตคำราม" มาอย่างยาวนานเช่นกัน

     หลังเข้าสู่ช่วงปลายของการค้าแข้ง เฟอร์ดินาน ก็เริ่มมีอาการบาดเจ็บรบกวน และส่งผลให้หลุดจากทีมชาติอังกฤษ ชุดฟุตบอลโลก 2010 ส่งผลให้ เจอร์ราร์ด ได้กลายมาเป็นกัปตันทีมให้อังกฤษในทัวร์นาเม้นท์ดังกล่าว

แบ็กซ้าย : แอชลี่ย์ โคล

สโมสร : อาร์เซน่อล, เชลซี, โรม่า, แอลเอ กาแล็กซี่

เกียรติยศส่วนตัว : 13 รายการ

ติดทีมชาติอังกฤษ : 107 นัด

Cole

     ในแง่ระยะเวลาที่รับใช้ทีมชาติอังกฤษนั้น โคล เล่นร่วมกับ เจอร์ราร์ด ด้วยช่วงเวลาที่พร้อมกันก็ว่าได้ แม้ว่าในสายตาแฟนบอลอังกฤษ เขาก็จะไม่ใช่คนที่ป็อปปูลาร์สักเท่าไร แต่ถ้าเรื่องมาตรฐานการเล่นถือว่าหายห่วง เพราะยากมากที่จะเห็นเขาเล่นไม่ดี ตลอด 13 ปีที่ติดทีมชาติ ตัวเลขการลงสนาม 107 นัด คงบอกได้ดีว่าเขาเยี่ยมยอดเพียงใด

     แม้ว่าจะเลิกเล่นให้อังกฤษไปแล้ว โคล ก็ยังได้ร่วมงานกันอีกครั้งที่ แอลเอ กาแล็กซี่ กับ เจอร์ราร์ด ใน เมเจอร์ ลีก ฤดูกาลนี้

มิดฟิลด์ตัวรับ : ฮาเวียร์ มาสเคราโน่

สโมสร : ริเวอร์เพลท, โครินเธียนส์, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า

เกียรติยศส่วนตัว : 11 รายการ

ติดทีมชาติอาร์เจนติน่า : 123 นัด

Mascherano

     ครั้งหนึ่งเขาคือดีลประวัติศาสตร์ที่ชวนช็อกวงการฟุตบอลอังกฤษ ที่จู่ๆ ก็ย้ายมายัง เวสต์แฮม พร้อม คาร์ลอส เตเวซ ในปี 2006 พร้อมช่วยขุนค้อนรอดตกชั้นได้สำเร็จด้วย ก่อนที่ มาสเคราโน่ จะได้โอกาสที่ 2 ในการเล่นบนเกาะอังกฤษกับ ลิเวอร์พูล หลังย้ายเข้ามาในช่วงเดือนมกราคม ปี 2007

     แม้จะค่อนข้างล้มเหลวกับ เวสต์แฮม แต่พอมาอยู่ เมอร์ซีย์ไซด์ เขาก็ปรับตัวได้ทันที ในฐานะคู่ขาของ ชาบี อลอนโซ่ ที่ผนึกกำลังกัน ส่งเสริมให้ เจอร์ราร์ด อันตรายกว่าเดิมในบทบาทตัวฟรีของทีม ซึ่ง 3 ประสานกลางสนามของ ลิเวอร์พูล ร้ายแค่ไหนคิดดูว่าเคยเกือบพาทีมได้แชมป์ พรีเมียร์ ลีก ซีซั่น 2008-09 มาแล้ว

มิดฟิลด์ตัวกลาง : ชาบี อลอนโซ่

สโมสร : เรอัล โซเซียดาด, ลิเวอร์พูล, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค

เกียรติยศส่วนตัว : 12 รายการ

ติดทีมชาติสเปน : 112 นัด

Alonso

     หนึ่งในการเซ็นสัญญารายแรกๆ ของ ราฟา เบนิเตซ ในปีแรกกับ ลิเวอร์พูล ที่เชื่อกันว่านี่คือการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ เอล บอส ก็ว่าได้ นอกจากนั้น อลอนโซ่ ยังนับเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกในยุคทองของเขาอีกด้วย

     จุดแข็งที่ยากจะลอกเลียนได้ของ อลอนโซ่ ก็คือการผ่านบอลที่แม่นยำสุดๆ ไม่ว่าใกล้หรือไกล และยังเป็นการเล่นด้วยมันสมอง ที่ทำให้เขาได้เปรียบคู่แข่งเสมอ ยามที่ต้องเข้าปะทะแย่งบอล ช่วยให้งานกลางสนามของ เจอร์ราร์ด ถูกแบ่งเบาภาระได้มาก

     ทั้ง เจอร์ราร์ด และ อลอนโซ่ ต่างมีชื่อบนสกอร์บอร์ดในแมตช์ตำนานที่ อิสตันบูล ปี 2005 ที่ช่วยทีมไล่ตีเสมอ เอซี มิลาน 3-3 ภายใน 6 นาทีของครึ่งหลัง ก่อนพา ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์เจ้ายุโรปในปีนั้นชนิดช็อกโลกไปตลอดกาล

มิดฟิลด์ตัวกลาง : พอล สโคลส์

สโมสร : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เกียรติยศส่วนตัว : 18 รายการ

ติดทีมชาติอังกฤษ : 66 นัด

Scholes

     หนึ่งในตำนานของ พรีเมียร์ ลีก ด้วยคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับ ชาบี อลอนโซ่ ในเรื่องของการผ่านบอลไกลที่แม่นราวกับจับวาง รวมทั้งทีเด็ดการยิงไกลจากแถวสองที่รุนแรงและแม่นยำ เรียกว่าความคมของเขา ไม่ต่างจากกองหน้าคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

     สโคลส์ ประสบความสำเร็จอย่างยาวนาน ตลอดการเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 2 ศตวรรษ และดูเหมือนว่าฟอร์มการเล่นของเขาแทบจะไม่เคยต่ำกว่ามาตรฐานเลย และหลังการแขวนสตั๊ด เขาก็ได้รับการชื่นชมและจดจำจากคอบอลอังกฤษอย่างสูง ในฐานะกองกลางที่ดีที่สุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ ลีก

     ในเสียดายที่ในบทบาทกับทีมชาติอังกฤษ ยุค สเวน โกรัน อีริคส์สัน เขาไม่ได้ประสบความสำเร็จใดๆ เลย ทั้งที่ผู้เล่นชุดนั้นมีทั้งเขา, เดวิด เบ็คแฮม, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ เจอร์ราร์ด อยู่ภายในทีม

เพลย์เมกเกอร์ : เวย์น รูนี่ย์

สโมสร : เอฟเวอร์ตัน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เกียรติยศส่วนตัว : 9 รายการ

ติดทีมชาติอังกฤษ : 110 นัด

Rooney

     ดาวยิงหัวเถิกร่างตันรับหน้าที่กัปตันทีมชาติอังกฤษต่อจาก เจอร์ราร์ด ที่ประกาศเลิกเล่นให้ชาติในปี 2014 ถูกจดจำในฐานะผู้เล่นที่ทำผลงานได้สม่ำเสมอกับอังกฤษมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ประเดิมติดธงผู้ดี สมัยยังเป็นดาวรุ่งของ เอฟเวอร์ตัน และมาแจ้งเกิดเต็มตัวใน ยูโร 2004 กับบทบาทกองหน้าฟอร์มร้อนแรง ยิงกระจายในทัวร์นาเม้นท์นั้น

     รูนี่ย์ ให้ความชื่นชมในตัว เจอร์ราร์ด อย่างมาก ดังที่เคยกล่าวไว้กับทาง บีบีซี ว่า "ผมคงต้องพูดว่า สตีวี่ คือที่สุด สำหรับผมเขาคือผู้เล่นและผู้นำที่น่าเหลือเชื่อ เขาช่วยผมมากมายตลอดการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ"

     ปัจจุบันเขาคือกองหน้าดาวซัลโวสูงสุดตลอดการของอังกฤษที่จำนวน 52 ประตู จากการลงสนาม 110 นัด เมื่อปีที่ผ่านมา

กองหน้า : เฟร์นานโด ตอร์เรส

สโมสร : แอตเลติโก มาดริด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, มิลาน , แอตเลติโก มาดริด

เกียรติยศส่วนตัว : 7 รายการ

ติดทีมชาติสเปน : 110 นัด

Torres

     ว่ากันว่าถ้า ซีซั่น 2008-09 ตอร์เรส ปราศจากอาการบาดเจ็บ ลิเวอร์พูล อาจจะได้ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สูสียิ่งกว่านั้นก็ได้

     อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ ตอร์เรส และ เจอร์ราร์ด จับคู่ในแผงหน้า นับเป็นคู่หูที่ประสานงานกันได้อย่างรู้ใจ ทั้งยิงทั้งจ่ายให้กันอย่างสนุกสนาน

     นับตั้งแต่ ตอร์เรส ตัดสินใจอำลาทีม ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคิดผิดอย่างแท้จริง เพราะเขาไม่เคยกลับสู่ฟอร์มเก่งได้อีกเลย แม้ว่าล่าสุด เขาจะกลับมาท็อปฟอร์มเล็กๆ ได้อีกครั้งกับทีมตราหมี จนพา แอตเลติโก มาดริด เข้าไปถึงนัดชิง แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนแพ้จุดโทษอย่างน่าเสียดาย

กองหน้า : หลุยส์ ซัวเรซ

สโมสร : นาซิอองนาล, โกรนิงเก้น, อาแจ็กซ์, ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า

เกียรติยศส่วนตัว : 10 รายการ

ติดทีมชาติอุรุกวัย : 84 นัด

Suarez

     กองหน้าผู้พา ลิเวอร์พูล ให้ลุกเป็นไฟในฤดูกาล 2013-14 ที่ ซัวเรซ ยิงระเบิดเถิดเทิงและพาให้เพื่อนร่วมทีมเล่นดีไปตามๆ กัน จนหวิดจะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ได้ในบั้นปลาย

     ซีซั่นนั้น หัวหอกอุรุกวัยกระหน่ำไป 31 ลูกจากการลงสนาม 33 นัด และท้ายที่สุดหลังการพลาดแชมป์ลีก เขาก็ตัดสินใจย้ายสู่ทีมในฝันอย่าง บาร์เซโลน่า ณ ซัมเมอร์ปี 2014 และสถาปนาตัวเองเป็นตัวหลักของสามประสาน MSN อันลือลั่น ก่อนจะพาทีมเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ตั้งแต่การเล่นซีซั่นแรก และยังพา บาร์ซ่า เป็นแชมป์ ลา ลีกา ในปีนี้ พร้อมรั้งตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดได้อีกด้วย

     เชื่อเหลือเกินว่ารางวัลบัลลงดอร์ 2016 เขาน่าจะมีลุ้นมากถึงมากที่สุด ชนิดเป็นตัวเต็งเลยด้วยซ้ำไป

 

GerrardXI

ADS