หลุยส์ ซัวเรซ ตัวชี้วัดทิศทาง"หงส์แดง"ในซีซั่นหน้า

     ลิเวอร์พูล อกหักได้เพียงรองแชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งหากมองจากภาพรวมถือว่าทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้แค่พื้นที่ยูซีแอล แต่ต้องบอกว่าน่าผิดหวังหากวัดจากโอกาสในช่วงท้ายฤดูกาล เนื่องจากถ้วยแชมป์ตั้งอยู่ตรงหน้า ทว่าพวกเขากลับปล่อยมันหลุดมือเพราะความไม่มีประสบการณ์นั่นเอง อีกทั้งคนที่พลาดกลับเป็นคนที่มากประสบการณ์ที่สุดในทีมอย่างสตีเว่น เจอร์ราร์ด

     ช่วงพักร้อนแคมป์ "หงส์แดง" มีการเปลี่ยนแปลงเข้ามาพอสมควร ล่าสุดได้ตัว อดัม ลัลลานา ก่อนหน้านั้นก็ซิว ริคกี้ แลมเบิร์ต เข้ามาเสริมหอก ถือเป็นการเสริมทัพได้ถูกจุดไม่น้อย เพราะแกนรุกที่ไม่รวมกองหน้าก่อนหน้านั้นมีแค่ คูตินโญ่ กับ สเตอร์ลิง ซึ่งการได้ ลัลลานา เข้ามาช่วย น่าจะทำให้มิติการเข้าทำของรองแชมป์พรีเมียร์ลีก หลากหลายขึ้น

     คนที่น่าสนใจกว่าก็คือการเซ็นสัญญากับ แลมเบิร์ต อาจจะเป็นการมองเกมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ว่ามีโอกาสที่จะเสีย หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงเจ้าปัญหาที่มีข่าวย้ายรายวัน ยิ่งตอนนี้ "จอบ" เจอข่าวฉาวอีกครั้ง เมื่อไปกัดหัวไหล่ คิเอลินี่ ในเกมฟุตบอลโลก พร้อมกับถูกแบนยาว กระทบมาถึงเกมระดับสโมสร (อีกครั้ง) ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล จะไม่ได้ใช้งาน หัวหอกฟันเหยินในช่วงออกสตาร์ท ร่วม 10 นัด ดังนั้นความเป็นไปได้ที่ต้นสังกัดจะเฉดหัวกองหน้าเจ้าปัญหารายนี้ออกไปมีสูงมาก

     หากได้ราคาตามข่าวที่ 80-100 ล้านปอนด์ จริงๆ เชื่อว่าลิเวอร์พูล ปล่อยตัวแน่ เพราะการกระทำของ ซัวเรซ กระทบต่อภาพลักษณ์ของสโมสร ซ้ำร้ายยังเป็นความผิดครั้งที่ 3 แล้วด้วย บอร์ดบริหารต้องทำอะไรสักอย่าง อีกทั้งการได้เงินก้อนขนาดนั้น ยังเอาไปเล่นแร่แปรธาตุ ดึงดาวเตะระดับโลกได้ถึง 2-3 ตัว แต่แน่นอนว่าการหานักเตะฝีเท้าอย่าง ซัวเรซ คงไม่ง่ายนัก และรู้กันอยู่ว่า ดาวเตะจอมฉาว มีอิทธิพลกับ "หงส์แดง" มากแค่ไหน ทั้งการยิงประตูอย่างถล่มทลาย รวมถึงการจ่ายบอลสวยๆให้เพื่อนระเบิดตาข่าย

     เรียกว่าได้อย่างเสียอย่าง แต่ผมเชื่อว่าเกมรุก "เดอะ เร้ดส์" จะดร็อปเยอะ หาก ซัวเรซ ย้ายทีม ถึงแม้จะซื้อดาวยิงเก่งๆเข้ามา ก็ยังเขื่อว่าทดแทนการหายไปของคุณพ่อลูกสองไม่ได้ง่ายๆ และจะได้ดาวยิงฝีเท้าเยี่ยมหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย ไหนจะต้องมาปรับตัวอีก ดังนั้นทิศทางของ ซัวเรซ จะเป็นตัวชี้วัดมาตรฐานของ "หงส์แดง" ในซีซั่นหน้า หากเสียไปกองหน้ารายนี้ไปจริงๆ งานของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะหนักกว่าเดิมหลายเท่าตัว

     มองจากประสิทธิภาพของทีมอาจจะลดน้อยลง แต่จะกอบกู้ด้านภาพลักษณ์ขึ้นมาแทน สถานการณ์ก็คงคล้ายๆสเปอร์ส ที่เสียแกเร็ธ เบล แลกกับเงินก้อนโต แต่ภาพรวมของทีมก็ไม่ได้ขยับไปข้างหน้า ขนาดเอาเงิน 80 กว่าล้านปอนด์ ไปซื้อแข้งดังมาเสริม 6-7 ราย "ไก่เดือยทอง" ก็ยังไม่ดีไปกว่าตอนมี เบล อยู่รายเดียว ซึ่งลิเวอร์พูล ต้องระวังให้ดี หากคิดจะยกระดับทีมให้สูงกว่าที่เป็น ร็อดเจอร์ส ต้องไตร่ตรองให้ดีถึงผลกระทบจากการขาย "คิง หลุยส์"

     "บีร็อด" น่าจะกว้านซื้อดาวดังมาเสริมทัพอย่างมโหราฬ ในแบบที่ไม่เคยมีผู้จัดการทีม "หงส์แดง" คนไหนเคยทำมาก่อน เพื่อทดแทนการเสีย หลุยส์ ซัวเรซ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการโยนหัวก้อย ถ้าซื้อเข้ามา และถูกจุด ทุกอย่างก็จะไปได้สวย แต่ถ้าดึงเข้ามาแล้วผิดสเป็ก เล่นไม่เข้าระบบทีม ก็ถือว่าโชคร้าย พร้อมกับโอกาสในการคว้าแชมป์ที่หลุดลอยไป และก็ต้องรอสร้างทีมกันอีกพักใหญ่ ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่า ลิเวอร์พูล ที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จะออกมาในรูปไหน ซัวเรซ จะอยู่หรือไป แล้วสตาร์รายไหน จะเข้ามาแทน