หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / นรกของทีมเยือน!! ผลสอบแข้ง "หงส์" เกมจม "เรือดำน้ำ" คา แอนฟิลด์ 3-0

นรกของทีมเยือน!! ผลสอบแข้ง "หงส์" เกมจม "เรือดำน้ำ" คา แอนฟิลด์ 3-0

นรกของทีมเยือน!! ผลสอบแข้ง หงส์ เกมจม เรือดำน้ำ คา แอนฟิลด์ 3-0

ซิมง มิโญเลต์ 6.5

     นายทวารเบลเยี่ยมเจองานหนักในช่วง 5 นาทีแรก กับจังหวะเซฟลูกยิงของ มาริโอ แบ็กขวาทีมเยือน ต่อด้วยอีก 1 จังหวะท้ายครึ่งแรกจากการซัดของ บากัมบู โดยรวมวันนี้งานไม่ชุกสำหรับ มิโญเลต์ และเล่นได้ตามมาตรฐาน ไม่มีข้อผิดพลาดหรือเฟอะฟะออกมา

นาธาเนี่ยล ไคลน์ 9

Daniel Sturridge celebrates after an own goal by Villarreal's midfielder Bruno Soriano

     แบ็กขวาสิงโตคำรามเล่นได้อันตรายมากในครึ่งแรก อันนำมาสู่การได้ประตูแรก เกมนี้ ไคลน์ ท็อปฟอร์มเกินมาตรฐานของตัวเอง และมีส่วนร่วมในเกมเยอะมากตลอด 90 นาทีที่อยู่ในสนาม

เดยัน ลอฟเรน 8.5

     คอยอัดปะทะและแท็คเกิ้ลแนวรุก บียาร์เรอัล อย่างดุดันในช่วง 60 นาทีแรก และมีส่วนในการตัดบอลจนสร้างโอกาสที่ดีให้ ลัลลาน่า จากช็อตที่ มิลเนอร์ ไหลทะลุช่องเข้าไปให้ ลอฟเรน เล่นลูกกลางอากาศได้ยอดเยี่ยม และเคลียร์สกัดถึง 7 ครั้ง ผลงานสูสีกับ ตูเร่ สุดๆ

โคโล่ ตูเร่ 8.5

     ทำหน้าที่คัฟเวอร์ตำแหน่งให้ โมเรโน่ ในยามที่แบ็กสเปนดันสูง จอมเก๋าวัย 35 ปี ใช้ความแข็งแกร่งและประสบการณ์ทดแทนความเร็วที่ขาดหายไป มีจังหวะไล่อัดกับ โซลดาโด้ และเอาชนะได้ตลอด จน บียาร์เรอัล ต้องถอดกองหน้ารายนี้ออกไปใน 20 นาทีสุดท้าย เพราะไร้พิษสง

อัลแบร์โต้ โมเรโน่ 7

     เกมนี้ โมเรโน่ เล่นแบบรัดกุมไม่บุ่มบ่ามมากเท่านัดที่แล้ว และก็มีโอกาสได้ซัดประตูแบบไม่มีลุ้นในครึ่งหลัง อย่างไรก็ดี เขามีดวงเหมือนกันที่ไม่เสียจุดโทษ จากการไปเหนี่ยว เดนิส ซัวเรซ ร่วงในเขตโทษ ทั้งๆ ที่สมควรเป็นจุดโทษทุกประการ

เจมส์ มิลเนอร์ 9

Liverpool's James Milner in action with Villarreal's Jaume Costa

     กัปตัน ลิเวอร์พูล ของคืนนี้เล่นบอลฉลาดทุกจังหวะ และสร้างโอกาสให้ ลัลลาน่า ในช่วงต้นเกม นอกจากนั้นยังลงผ่านช่วยเกมรับตลอด และมีสถิติผ่านบอลสำคัญถึง 5 ครั้งในเกมนี้ มิลเนอร์ ได้โอกาสยิงในต้นครึ่งหลัง แต่ก็เบาเกินไปเพราะเข้าซ้ายข้างไม่ถนัด แต่โดยรวมนับว่าเป็นเกมที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของเขาในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ก็ว่าได้ ที่สำคัญเขาเหมาะสมๆ มากๆ กับการสวมปลอกแขนให้ทีม

เอ็มเร่ ชาน 9

LIVERPOOL, ENGLAND - Thursday, May 5, 2016: Liverpool's Emre Can celebrates at the final whistle after his side's 3-0 victory over Villarreal, reaching the final 3-1 on aggregate, during the UEFA Europa League Semi-Final 2nd Leg match at Anfield. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     ดาวเตะเยอรมันกลับมาเป็นตัวจริงอย่างเซอร์ไพรส์ ทั้งๆ ที่เจ็บไปเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน แต่เกมนี้ ชาน ลงเล่นราวกับไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน เขาผ่านบอลให้ ไคลน์ เซตอัพประตูแรก และคอยวิ่งปกคลุมแดนกลางคอยทำเกมอยู่ตลอด ฟอร์มของเขาในเกมนี้ มีส่วนทำให้ มิลเนอร์ เล่นดีไปด้วยอีกคน แอละยังเสมือนเป็นลิเบอร์โร่คอยสกรีนบอลก่อนมาถึงกองหลังได้ดีเยี่ยม

อดัม ลัลลาน่า 8

Adam Lallana scores his team's third goal

     น่าเสียดายกับจังหวะที่ มิลเนอร์ ทะลุช่องไปให้ ไม่งั้นอาจช่วยให้ ลิเวอร์พูล นำ 2-0 ตั้งแต่ 15 นาทีแรก ก่อนจะมีโอกาสซัดอีกครั้งในครึ่งหลังแต่ติดบล็อก ลัลลาน่า วิ่งไล่บอลช่วยทั้งเกมรุกและเกมรับ และผลจากการทำงานหนักของเขาก็ตอบแทนด้วยประตูตอกฝาโลง 3-0 แบบเผาขน มีบางจังหวะที่ดูอ่อนล้าอยู่บ้างในครึ่งแรก แต่ก็ยังคงพยายามเพรสซิ่งช่วยทีมอย่างถึงที่สุด

โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ 9

     แนวรุกบราซิลเลี่ยนมีส่วนร่วมประสานงานกับ ไคลน์ อันนำมาสู่ประตู 1-0 และยังแอสซิสต์ให้ สเตอร์ริดจ์ ยิงลูก 2-0 ได้อีก จากการไหลทะลุกับดักล้ำหน้า และดูน่ากลัวมากๆ ในบทบาทปีกซ้าย เกมนี้ ฟีร์เมียโน่ เล่นได้ทริคและเล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราว และยังได้ง้างซัดจน อเรโอล่า โกล์ทีมเยือนต้องออกแรงเซฟในครึ่งหลัง นับว่าพัฒนาขึ้นมากในเรื่องของความขยันผนวกกับเทคนิคที่มี โดยเฉพาะยามที่ไปถึงน่าเขตโทษ บียาร์เรอัล แถมยังมีช็อตไขว้ลูกส้นหนีตัวประกบ เรียกเสียงเชียร์จากเดอะค็อปให้ได้ฮือฮากันด้วย

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ 7.5

Liverpool's Philippe Coutinho in action with Villarreal's Bruno

     เชื่อมเกมกับบรรดาแนวรุกของทีมได้ดี และแม้จะยิงไกลแบบไร้ประโยชน์อยู่ 2 ครั้ง แต่โดยรวม คูตินโญ่ ก็ยังคุกคามกดดันแนวรับ บียาร์เรอัล ได้ตลอด ด้วยการครองบอลที่เหนียวแน่นและสมดุลในการลากเลื้อย ก่อนท้ายที่สุดจะถูกไปพักใน 10 นาทีสุดท้าย

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 9

Daniel Sturridge celebrates after scoring his team's second goal

     นี่เป็นอีกครั้งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เขาคือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งของยุโรป แม้ว่าประตูนำ 1-0 อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็นเครดิตของ สเตอร์ริดจ์ และดูจะเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ โซเรียโน่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกิดจากการเข้ามากดดันของเขาในเขตโทษด้วย และครึ่งหลังเขาก็มาทำประตู 2-0 จนได้ กับการหลุดไปซัดผ่านมือ อเรโอล่า แม้จะพยายามเซฟ บอลก็ยังไหลชนเสาเข้าไปอยู่ดี

สำรอง

โจ อัลเลน (แทน คูตินโญ่ นาที 82) ไม่มีคะแนน

     ลงมาเพิ่มพละกำลังในแดนกลางให้มีชีวิตชีวา และช่วยทีมเพรสซิ่งอย่างเข้มข้น เกือบจะมีชื่อเป็นผู้ทำประตูได้กับเขาเหมือนกัน

คริสติย็อง เบนเตเก้ (แทน ฟีร์เมียโน่ นาที 89) ไม่มีคะแนน

     กองหน้าเบลเยี่ยมลงมาช่วยทีมกระชับในพื้นที่สุดท้าย และก็ทำได้ตามแท็คติกที่ถูกสั่งมา

ลูคัส เลว่า (แทน สเตอร์ริดจ์ นาที 90) ไม่มีคะแนน

     ตัวรับชาวแซมบ้าโดนส่งมาผลาญฆ่าเวลาช่วง 2 นาทีสุดท้ายให้หมดไป

ADS