หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว พรีเมียร์ลีก สวอนซี ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล (18.00 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก สวอนซี ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล (18.00 น.)

earthmomo 2016-05-01 16:17:47 พรีเมียร์ลีก
พรีวิว พรีเมียร์ลีก สวอนซี ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล (18.00 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก สวอนซี ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล

วันอาร์ทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม 2016 เวลา 18.00 น.

สนาม ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม

ผู้ตัดสิน เควิน เฟรนด์

ถ่ายทอดสด CTH stadium 2

     เกมในนัดนี้ จะเป็นอีกนัดที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะปรับเปลี่ยนโฉมหน้าทีมยกใหญ่อีกครั้งหลังผ่านศึกหนัก ยูโรป้า มาหมาด ๆ และมีเกมอีกนัดกลางสัปดาห์รออยู่ นัดถือเป็นโอกาสสำคัญที่เหล่านักเตะดาวรุ่งจะได้โชว์ศักยภาพให้ได้เห็นอย่างที่ทำมาแล้วในเกมกับ บอร์นมัธ หากวัดจากฟอร์มคู่แข่งแล้วถือว่ามีลุ้นทำผลงานได้น่าประทับใจเลยทีเดียว

สภาพทีมล่าสุด : สวอนซี ซิตี้

เจ้าถิ่นจะไม่มีชื่อของ เลรอย เฟอร์ กับ อัลแบร์โต้ ปาลอสคี่ สองตัวหลักที่เพิ่งมีรายงานเจ็บเข้ามา ซึ่งคาดกันว่า กุยโดลิน จะปรับระบบการเล่นจาก 4-1-4-1 เป็น 4-2-3-1 และส่ง บาเฟติมบี้ โกมิส ออกสตาร์ทเป็นหน้าเป้าตัวจริง และถอย กิลฟิ ซิเกิร์ดส์สัน คอยทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ในเกมนี้

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

Liverpool lost 1-0 at Villarreal on Thursday

ส่วนทางฝั่งทีมเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล คาดว่าจะเปลี่ยนนักเตะขนานใหญ่อีกครั้ง เพื่อเก็บตัวนักเตะไว้สุ้ศึก ยูโรป้า กลางสัปดาห์ที่จะถึงนี้ เกมนี้ แดนนี่ วอร์ด จะโอกาสเฝ้าเสาเป็นเกมที่สองต่อจากเกม บอร์นมัธ โดยมี แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ยืนค้ำในแดนหน้าตั้งแต่ต้นเกม ส่วนดาวรุ่งรายอื่น ๆ อย่าง คอนเนอร์ แรนดัลล์, แบร็ด สมิธ,จอร์ดอน ไอบ์ และ เชยี่ โอโย่ จะได้โอกาสลงตั้งแต่ต้นเกมเช่นกัน

คีย์แมน

บอร์นมัธ : กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน

หลายต่อหลายครั้งที่ กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน จะเป็นตัวแสบให้กับคู่แข่งอยู่เสมอ ๆ โดยเฉพาะการทำประตูที่มาจากแถวสอง ถือว่าอันตรายพอสมควร แม้ขณะนี้มาตราฐานทีมโดยรวมจะดร็อปลงไปอยู่พอสมควร แต่ทาง ลิเวอร์พูล ก็ไม่สามารถประมาทเขาผู้นี้ได้

ลิเวอร์พูล : แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

เกมนี้น่าจะเป็นโอกาสของ สเตอร์ริดจ์ ที่จะได้รับบทบาทในการทำประตูแบบเต็ม ๆ หลังต้องตกเป็นตัวสำรองในเกม ยูโรป้า ที่ผ่านมา เป็นที่เชื่อกันว่าทาง เจอร์เก้น คล็อปป์ จะส่ง สเตอร์ริดจ์ ลงตั้งแต่ต้นเพื่อหวังใช้ความคมของเขาปิดเกมให้ได้โดยเร็วที่สุด หากทำได้สำเร็จมีโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะสามารถพักผู้เล่นตัวหลักได้เร็วขึ้นก่อนหมดเวลาการแข่งขัน


วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม


ฟรานเชสโก้ กุยโดลิน

Francesco Guidolin: It's important to remember what happened

     "ผมจำเหตุการณ์เดียวกันนี้ได้ ตอนพวกเขาเล่น ยูโรป้า ลีก และต้องเล่นกับ บอร์นมัธ ในพรีเมียร์ลีกอีกไม่กี่วันต่อมา พวกเขาลงเล่นโดยมีนักเตะวัยหนุ่มเป็นจำนวนมากและคว้าชัยชนะมาได้"

     "พวกเขาอยู่ในจุดไม่ห่างไกลจากอันดับสี่ และ ลิเวอร์พูล คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถเน้นเกมได้ทั้ง สวอนซี และ บียาร์เรอัล"

เจอร์เก้น คล็อปป์

     "ผมไม่มีความคิดใดๆ ในเรื่องนี้ ผมมีความประทับใจ 2-3 เรื่องกับทีมชุดนี้ และสโมสรแห่งนี้ ดังนั้นผมจึงไม่มีความคิดอะไรกับสิ่งที่เราทำในฤดูกาลนี้ เราต้องการปรับปรุง และนั่นคือสิ่งที่เราได้ทำไป"

     "มันคือเกมรอบรองชนะเลิศ มันยาก แต่เราก็ยังคงมีโอกาสแท้จริง เราไปถึงนัดชิงชนะเลิศ หรือเราจะไม่ได้เข้าชิงชนะเลิศ ทั้งสองอย่างจะเป็นประสบการณ์ที่ดี"

ฟอร์มการเล่น

     5 นัดที่ผ่านมา สวอนซี เก็บชัยได้เพียง 2 จาก 5 นัดเท่านั้น (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2) ส่วน ลิเวอร์พูล ยังไม่แพ้ใครมา 4 เกม แถมเป็นชัยชนะถึง 3 นัด ก่อนจะมาพ่ายในเกมล่าสุดใน ยูโรป้า กับ บียาร์เรอัล (ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1)

ประวัติการพบกัน

     ลิเวอร์พูล เอาชนะ สวอนซี ได้ถึง 4 จาก 5 ครั้งที่ผ่านมาในลีก แถมทำประตูไปได้ 12 ลูก และเสียไป 6 ลูกด้วยกัน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

Swansea City v Liverpool

สวอนซี ซิตี้ (4-2-3-1) : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - อังเกล รังเกล, เฟเดริโก้ เฟร์นันเดซ, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, นีล เทย์เลอร์ - เลออน บริตตัน, แจ็ค คอร์ค - จอร์แดน อายิว, กิลฟิ ซิเกิร์ดส์สัน, เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ - บาเฟติมบี้ โกมิส

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : แดนนี่ วอร์ด - คอนเนอร์ แรนดัลล์, โคโล่ ตูเล่, มาร์ติน สเคอร์เทล, แบร็ด สมิธ - เควิน สจ็วร์ต, ลูคัส เลว่า, โจ อัลเลน - เชยี่ โอโย่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, จอร์ดอน ไอบ์

ทรรศนะ Siamliverpool

     หากมองจากฟอร์ม 2 นัดที่ผ่านมา จากการที่แพ้ นิวคาสเซิ่ล ไป 3-0 และ เลสเตอร์ ซิตี้ ไป 4-0 นับเป็นโอกาสอันดีเลยทีเดียวสำหรับ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ แม้จะไม่ใช่ผู้เล่นชุดหลักก็ตาม ความได้เปรียบเดียวของ สวอนซี ก็คือการได้เล่นในบ้าน แต่จากที่เห็นฟอร์มนัดบุกชนะ บอร์นมัธ จากผู้เล่นชุดดังกล่าวแล้ว ถือว่าพวกเขามีโอกาสคว้าชัยได้อีกครั้ง!! วันนี้ ลิเวอร์พูล มาแน่ครับ..

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ซิว 2-0

ADS