อัพเดต!! คล็อปป์ แถลงความพร้อม และพูดคุยสุดดราม่าก่อนเยือน ดอร์ทมุนด์

การกลับมาเยือนที่นี่ น่าจะดีกว่าไปเกาหลีเหนือ

     "เราเคยพูดกันมาเยอะมากแล้วสำหรับเกมนี้ แต่มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับผม ในฐานะที่ผมมีเพื่อนที่นี่มากมาย การอยู่ที่นี่ก็คงจะดีกว่าอยู่เกาหลีเหนือ หรืออะไรอย่างนั้น"

     "ผมได้มาอยู่ที่นี่ สถานที่ๆ สุดพิเศษ ที่ๆ ผมเคยมีช่วงเวลาที่แสนพิเศษ มันจะมีที่ดีๆ กว่านี้ไหม ผมไม่รู้หรอก เกาหลีเหนือมั้ง!"

     "เรามาถึงที่นี่ก่อนเวลา ดังนั้นผมเลยมีเวลา 20 นาทีในการพบปะกับเพื่อนเก่าๆ แน่นอนว่าผมรู้จักคนที่นี่มากมาย และผมคิดว่ามันดูเขลานิดหน่อยถ้าไม่คว้าโอกาสนี้

     "พรุ่งนี้จะแตกต่างไป เราจะโฟกัสกันที่เกม เราจะมุ่งตรงไปยังห้องแต่งตัวของเรา"

ไม่ใช่ปัญหาในการเผชิญหน้ากับเพื่อนที่ดีที่สุด

     "ในวงการกีฬา เราย่อมได้แข่งกับเพื่อนที่ดีที่สุดของเราเสมอ และเราก็ต้องการเอาชนะพวกเขาเสมอ มันไม่ใช่ปัญหา"

     "มันคือการต่อสู้ที่แท้จริง และมันน่าผิดหวังนิดหน่อยที่ผมต้องพูดถึงเรื่องนี้ ผมออกจากที่นี่ 9 เดือนก่อน ผมเคยกล่าวร่ำลา และตอนนี้ผมกลับมา ผมไม่คิดถึงเรื่องของผมแม้สักกะวินาทีเดียว"

     "แค่ลงไปเล่นฟุตบอล และพูดคุยกันหลังจากนั้น มันคือความท้าทายอย่างแท้จริง แต่เต็มไปด้วยความหวังสำหรับทั้งสองทีม"

ดอร์ทมุนด์ ได้เปรียบ เพราะรักษาขุมกำลังชุดเดิม

     "พวกเขาเปลี่ยนแปลงสไตล์การเล่นในบางส่วน แต่สิ่งสำคัญที่สุด และสิ่งในเชิงบวกที่สุด คือผู้เล่นไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปจากฤดูกาลที่แล้ว"

     "ด้านลบของการซื้อขายผู้เล่น ในแง่ของการขายผู้เล่นคนสำคัญ ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาไม่ได้ทำก็คือปี 2010 ปี 2011, นูริ ซาฮิน ย้ายออกไป, ปี 2012 ชินจิ คางาวะ ย้ายออกไป, ปี 2013 มาริโอ เกิตเซ่ ย้ายทีม และปี 2014 โรเบิร์ต เลวานดอฟส์กี้ ก็ย้ายออกไป"

     "แต่ปี 2015 ไม่มีใครย้ายออกไปเลย ดังนั้นพวกจึงมีทีมชุดเดิมจนถึงตอนนี้ ปัญหาคือเมื่อคุณเสียผู้เล่นคีย์แมน และชัดเจนว่าพวกเขาคือคนสำคัญจริงๆ จากนั้นคุณก็ต้องก้าวถอยหลังเล็กน้อย และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง"

     "เราเคยดึง อิลคาย กุนโดกัน เข้ามาปี 2011 และในครึ่งปีแรก เขาได้เล่นแค่ 3 หรือ 4 เกม ก่อนจะกลายเป็นผู้เล่นอย่างทุกวันนี้ นั่นคือสิ่งที่คุณต้องการจะทำเสมอ และส่วนหนึ่งของปัญหา แต่ในปีนี้พวกเขาอยู่พร้อมหน้าครบทุกคน แน่นอน มันคือข้อได้เปรียบ"

     "แต่พวกเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงจังหวะการเล่นไปบ้าง แต่ก็ยังคงเล่นเพรสซิ่ง และเพรสซิ่งแบบสวนกลับได้ดีมาก การครองบอลก็ไปเปลี่ยนไปบ้าง รวมทั้งการยืนตำแหน่งในสนาม แต่ทั้งหมดนั้นก็ยังค่อนข้างประสบความสำเร็จอยู่ดี"

ไม่ต้องเถียง เสือเหลืองคือเต็งแชมป์ ยูโรป้า ลีก

     "มันคือเรื่องของความเหตุการณ์ และเราจำเป็นต้องใช้เหตุการณ์ของวันพรุ่งนี้"

     "ถ้ามีสิ่งที่ได้เปรียบสำหรับเราก็คือ ทุกคนต่างรู้จัก ดอร์ทมุนด์ ดี ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน ผมได้เตือนผู้เล่นของผมในเรื่องนี้ เพราะ ดอร์ทมุนด์ คือตัวเต็งของยูโรป้าลีก และผมไม่คิดว่าจะมีคนมากมายไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้"

     "สิ่งต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในสนามนี้ เราต้องเล่นฟุตบอลระดับสูง และจากนั้นเราก็จะมีโอกาส"

     "ผมไม่คิดว่าเราคือตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ แต่ถ้าเราเอาชนะ ดอร์ทมุนด์ จากนั้นเราก็จะกลายเป็นตัวเต็งได้"

นี่คือภูเขาลูกที่สูงที่สุด แต่เราจะข้ามมันไป

     "เราเคยพูดว่า ดอร์ทมุนด์ คือตัวเต็งและผมไม่คิดว่าจะมีใครไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เมื่อพิจารณาจากการที่พวกเขามีฤดูกาลที่ดี"

     "แต่ผู้เล่นของผมไม่ได้เดินทางมาที่นี่โดยไร้ความหวัง เราจะคว้าผลการแข่งขันออกไป เราได้ดูเล่นแนวทางการเล่นของ ดอร์ทมุนด์ แต่ผู้เล่นของผมไม่ได้มาที่นี่ และคาดหวังให้ผมจะมาบอกรายละเอียดจุดอ่อนของผู้เล่น ดอร์ทมุนด์ ทุกๆ คน"

     "ถ้าเราไม่มีผลการแข่งขันที่ดีในวันพรุ่งนี้ มันก็คงเป็นงานง่ายสำหรับ ดอร์ทมุนด์ แต่ทำไมผมจะต้องไปคิดถึงถึงเรื่องนี้ด้วยวะ? เรามีภูเขาที่สูงที่สุดให้ได้ปีนป่าย แต่มันก็ยังมีความเป็นไปได้"

     "เรายังไม่แพ้เลยสักนัดใน ยูโรป้า ลีก เราเจอ เอาก์สบวร์ก และมันก็ไม่ง่ายเลย กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมที่ใหญ่ที่สุด และกดดันที่สุด ดังนั้นเราจะเตรียมตัวเพื่อเกมพรุ่งนี้"

ถ้า ลิเวอร์พูล ทำประตู พร้อมฉลองเกินร้อย

     "ถ้าดอร์ทมุนด์ ยิงประตูได้ ผมจะไม่ดีใจด้วยแน่นอน! ผมจะฉลองก็ต่อเมื่อ ลิเวอร์พูล ยิงประตูได้ อันนี้แน่นอน 100 % ผมเคยทำมาแล้วในตอนที่ผมพา ดอร์ทมุนด์ กลับไปเยือน ไมนซ์ ที่ๆ ผมเคยอยู่มา 18 ปี"

     "ถ้ามันเป็นนาทีแรก ไม่ก็คงจะไม่วิ่งไปที่ข้างสนามหรอก แต่ถ้ามันสำคัญ มันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในตอนนั้นว่าอะไรมันเกิดขึ้น"

     "มันไม่ใช่สิ่งที่ผมวางแผนเอาไว้ แต่ผมจะไม่ไปที่นั่น แล้วก็กินยาแก้ปวดหัว ที่หมายความว่าผมจะไม่ฉลองการทำประตู"

      "ที่ ไมนซ์ พวกเขารู้ดีในเรื่องนี้ เรามีการฉลองครั้งใหญ่ตอนที่ผมออกมาจากที่นั่น มันคือการขอบคุณ และเมื่อผมกลับไปที่นั่น มันคือสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง ผมเคยทำทุกอย่างเพื่อ ไมนซ์ ผมเคยทำทุกอย่างเพื่อ ดอร์ทมุนด์ และตอนนี้ผมได้ทำทุกอย่างเพื่อ ลิเวอร์พูล มันก็เป็นแบบนี้แหละ"

เปรียบเกมนี้ เหมือนการเอาชนะคุณพ่อที่รักที่สุด

     "พ่อของผมเขารักผมที่สุด แต่เมื่อเราได้ดวลเทนนิสกัน เขาต้องการเอาชนะผม ผมใช้เวลา 15 ปี เพื่อเอาชนะเขาให้ได้เป็นครั้งแรก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาและไม่มีอะไรต้องสงสัยในความสัมพันธ์ของเรา มันคือเกมการแข่งขัน แม้ว่ามันจะยังมีผู้คนที่ไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้"

     "ผมไม่มีเรื่องแย่ๆ ในความสัมพันธ์กับ ดอร์ทมุนด์ ไม่เลยสักวินาทีเดียว ไม่มีใครต้องมาแสดงอะไรใดๆ ให้ผมดู พวกเขาสามารถเป่านกหวีดได้เลย ถ้าพวกเขาต้องการ"

     "ผมรู้จักผู้คนมากมายที่ ดอร์ทมุนด์ ที่คงจะแฮปปี้ที่จะได้พบหน้าผมอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่สถานการณ์ที่ถูกต้องในการจะมาเจอเพื่อนๆ ผมไม่มีปัญหาถ้าจะมีใครอยากเข้ามากอดผม ถ้าผมรู้จักเขานะ!"

     "ในท้ายที่สุด มันคือเกมฟุตบอล เราทั้งหมดจะออกสตาร์ทลงแข่งขันสู้กับเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา และผมไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ได้ เพราะนี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา ผมไม่เคยต้องการจะเอาชนะในการเจอกับพวกเขา"

     "นี่คือเรื่องที่โง่เง่าอย่างแท้จริงที่สุด"

ไม่ปลื้มเรื่องการเอากล้อง คล็อปป์แคม มาตามติดหน้า

     "นี่คือครั้งแรกที่ผมเคยได้ยินอะไรแบบนี้ คุณคงเห็นแล้วว่าโลกมันเพี้ยนแค่ไหน"

     "พวกเขาไม่สามารถจะเอากล้องมาส่องหน้าผมได้ ผมรู้เส้นทางใน ดอร์ทมุนด์ ดี- พอลงรถบัส, ลงบันได, เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เข้าห้องแต่งตัว ไม่มีใครจะได้รับอนุญาตให้ทำแบบนั้น มีเพียงพวกเราเท่านั้น"

     "จากนั้นเราจะออกไปลุย, ลงบันได, เข้าไปในอุโมงค์, เข้าไปในสนาม มันก็เป็นแบบนี้มาเสมอ มันคงมีเสียงดังกึกก้อง, แฟนบอลมากมาย และสำหรับผู้เล่นแล้ว ทุกอย่างก็เป็นอย่างนี้อยู่เสมอ และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด"

     "ผมไม่เล่นด้วยหรอก ถ้ามีใครสักคนโง่พอที่อยากจะดูหน้าผมตลอด 90 นาทีในเกม ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้"