ขอเม็ดเดียว!! คะแนนผลสอบแข้ง "หงส์" เกมถีบ "ผี" 1-1 ร่วง ยูโรป้า

ซิมง มิโญเล่ต์ 7

     เป็นเกมที่ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ (อีกแล้ว) ในการเฝ้าประตู ทั้งๆ ที่ ยูไนเต็ด คุมเกมได้น่ากลัวกว่าในครึ่งแรก แต่เขาก็ยังปล่อยซูเปอร์เซฟปัดลูกโหม่งของ เจสซี่ย์ ลินการ์ด ไว้ได้อย่างว่องไว และมีพัฒนาการเรื่องใช้เท้าเล่นบอลได้ดีขึ้น

นาธาเนี่ยล ไคลน์ 5

     ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเกมนี้ ไคลน์ หลุดฟอร์มอย่างที่สุดของฤดูกาล ทั้งๆ ที่คงเส้นคงวามาตลอด แบ็กวัย 24 ปี เสียท่าให้กับความเร็วของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จนต้องทำฟาล์วและเสียจุดโทษอีก เป็นเกมที่เขาประกบ ดาวยิงฝรั่งเศสไม่อยู่เลยตลอดเวลา

เดยัน ลอฟเรน 8

     มาเข้าฟอร์มได้ถูกที่ถูกเวลา กลายเป็นหัวใจในเกมรับอีกครั้งให้ ลิเวอร์พูล ลอฟเรน ยอดเยี่ยมมากในการดวลลูกกลางอากาศ ไว้ใจได้ และอ่านเกมสุดยอดตลอด 90 นาที เรียกว่าพลิกความมั่นใจจากคนเฟอะฟะตั้งแต่ซีซั่นก่อน ตอนนี้เขาดูจะกลายเป็นคนใหม่แล้ว

มามาดู ซาโก้ 90 (แมน ออฟ เดอะแมตช์)

     แฟนๆ สงสัยมาตลอด ว่ากองหลังเก้ๆ กังๆ รายนี้ มันจะควรจะอยู่ หรือควรขายทิ้งดี และคืนนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ ซาโก้ ทำให้ทุกคนหายคาใจว่า ตำแหน่งทีมชาติฝรั่งเศสไม่ได้มาแบบมั่วๆ เขาสุดยอดมากตั้งแต่ต้นจนจบเกม ตัดบอลแบบเนียนกริบ โหม่งบอลสกัดเด็ดขาด ผ่านบอลก็เป๊ะๆ เล่นสุดยอดแบบนี้ แมนออฟเดอะแมตช์จะเป็นคนอื่นได้อย่างไร

เจมส์ มิลเนอร์ 7.5

     รับบทแบ็กซ้ายจำเป็น เนื่องจาก อัลแบร์โต้ โมเรโน่ เจ็บ และ มิลเนอร์ ท่านรองผู้เล่นได้ทุกอย่าง ก็ทำผลงานได้ดีมากๆ เขาไล่บี้ ลินการ์ด อยู่หมัด ใช้พละกำลังเข้าสู้ และเห็นได้ว่าประสบการณ์ของเขามีประโยชน์มากๆ แก่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในเกมที่บีบคั้น ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบแล้วในเกมนี้

เอ็มเร่ ชาน 8.5

     ชาน ดูจะระเบิดฟอร์มเก่งได้ต่อเนื่องมากๆ และเป็นเกมที่มหัศจรรย์พอสมควร มิดฟิลด์วัย 22 ปี ฝีเท้าพุ่งมากตั้งแต่ขึ้นปี 2016 ด้วยส่วนผสมของความเร็ว, พละกำลัง และการสร้างสรรค์ ดูอันตรายในการคุมและปั้นเกมให้ทีมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะลูกตอกส้นในครึ่งหลังที่สวยงาม

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 6.5

     พ่อกัปตันของเราก็ยังฟอร์มไม่ดีขึ้นเสียที และเป็นอีกครั้งที่เขาไม่ค่อยมีอิทธิพลในเกม แม้ว่า เฮนเดอร์สัน จะขยันไล่บอล ผ่านบอลตามสไตล์ปกติ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่มีส่วนร่วมกับเกมเท่าไร แล้วยังมีจังหวะยิงหลุดกรอบในครึ่งแรก แบบดูไม่จืด เขายังต้องปรับปรุงเรื่องการจบสกอร์อีกมาก

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ 8

     ตลอด 44 นาทีในครึ่งแรก คูตินโญ่ ดูแย่มากๆ ไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเสียการครองบอล, เล่นบอลยาก และมีส่วนที่ทำให้ ยูไนเต็ด ได้จุดโทษขึ้นนำ 1-0 แต่ทุกอย่างมาลบล้างไป เพียงเพราะลูกชิพตีเสมอข้ามหัว ดาบิด เด เกอา ที่ทำให้ ลิเวอร์พูล น้อกเอ้าท์ ยูไนเต็ด แทบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ทันที เขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ถึงเล่นไม่ดี แต่ขอโอกาสเดียว ก็พร้อมจะปล่อยเวทมนตร์ตัดสินเกมได้เสมอ นี่ยังไม่นับช็อตสวยๆ ในการกระชากลากเลื้อยๆ คู่แข่งได้แบบสวยๆ อีก

อดัม ลัลลาน่า 7

     นัดก่อนที่ แอนฟิลด์ เล่นได้สุดยอด แต่วันนี้ค่อนข้างน่าผิดหวัง เขายังลากเลื้อยบอลได้ดี แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือการครองบอลกับตัวไว้นานเกินไป และยังมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายที่บอบบาง สู้แรงปะทะคู่แข่งยังไม่ค่อยไหวอีกด้วย

โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ 6.5

     ฟีร์เมียโน่ มีอิทธิพลในแนวรุกของทีมตลอดทั้งปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตูหรือแอสซิสต์ แต่เกมนี้เขาดูจะเงียบเชียบผิดปกติ กองหน้าวัย 24 ปี ยังคงโชว์คลาสในการเล่น และพริ้วไหวเช่นเคย แต่กระนั้นเขาก็ไม่ค่อยมีส่วนร่วมในเกมนัก เหมือนกับ ลัลลาน่า ขณะที่อีกมุมหนึ่ง เขาก็มีประโยชน์ในแง่ของการช่วยทีมเพรสซิ่ง ช่วยเล่นเกมรับได้ดี

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 5

     ฟอร์มหล่นมาตลอด 2 สัปดาห์นี้ ถ้าไม่นับลูกฟรีคิกที่ยิงไปชนคานดังสนั่นในครึ่งแรก วันนี้เขาดูหงอยๆ เหงาๆ ยังไงชอบกล ไม่ว่าจะตอนได้บอลหรือไม่ได้บอล ซึ่ง สเตอร์ริดจ์ ก็คงรู้ตัวเองดี จนแสดงสีหน้าผิดหวังที่โดน คล็อปป์ เปลี่ยนให้ ดิว็อค โอริกี ลงมาแทน ยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะเพื่อเรียกมาตรฐานการเล่นของตัวเองกลับมาอีกครั้ง

สำรอง

ดิว็อค โอริกี (แทน สเตอร์ริดจ์ นาที 83) 7

     กองหน้าเบลเยี่ยมลงมาพร้อมโชว์ความเร็วจี๊ด และมีชีวิตชีวา คอยทะลุทะลวงฉีกแนวรับเจ้าบ้าน จัดว่ามีอนาคตไกลอีกคนของทีมชุดนี้

โจ อัลเลน (แทน เฮนเดอร์สัน นาที 71 ) 6.5

     ถูกส่งลงมาปิดเกมในสถานการณ์ที่ทีมเข้ารอบแทบจะ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว และ อัลเลน ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลย และยังเก็บบอลให้ทีมได้ดีอีกด้วย

คริสติย็อง เบนเตเก้ (แทน ฟีร์เมียโน่ นาที 84) ไม่มีคะแนน