สมบูรณ์แบบ!! ผลสอบแข้ง "หงส์" เกมสอนบอล "เปรตแดง" ครบวงจร 2-0

ซิมง มิโญเล่ต์ 6.5

     นี่น่าจะเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ในศึกแดงเดือด ที่ มิโญเลต์ แทบไม่มีอะไรต้องทำเลยตลอดทั้งเกม เขารับมือได้ดีกับลูกครอสของ ยูไนเต็ด ในครึ่งหลัง ด้วยการชกทิ้ง และเซฟลูกยิงไกลของ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน อีก 1 หน เห็นได้ชัดว่าฟอร์มของเขาในระยะหลัง ดูมั่นคงและมีความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะการเล่นในบิ๊กแมตช์เช่นนี้

นาธาเนี่ยล ไคลน์ 8 (แมน ออฟ เดอะแมตช์)

     ปกติก็รักษามาตรฐานของตัวเองได้ทุกเกม แต่เกมนี้น่าจะเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดในสีเสื้อหงส์แดงแล้ว ในบทบาทแบ็กขวาที่ท็อปฟอร์มตลอด 90 นาที เขาดุดันในจังหวะเข้าปะทะและรักษาตำแหน่งได้อย่างน่าประทับใจ และบุกลุยดันสูงเป็นพิเศษยิ่งกว่าเกมไหนในฤดูกาลนี้ และนำมาซึ่งจังหวะฟาล์วช่วยให้ทีมได้ลูกโทษ ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่ามากๆ ของปี

เดยัน ลอฟเรน 7

     แนวรับโครแอตวัย 26 ปี กลับมาจากอาการบาดเจ็บ ก็ดูกลายเป็นคนละคนกับจอมเฟอะฟะเมื่อต้นฤดูกาลนี้ เขาสุดยอดในการเล่นลูกกลางอากาศ, อ่านเกมได้ดีมาก และมั่นใจเมื่อต้องดวลลูกโขก ทั้งหมดนี้ แสดงออกมาให้เห็นถึงผลตอบแทน จากเงินก้อนโตที่ซื้อเขามาเมื่อปี 2014 บ้างแล้ว

มามาดู ซาโก้ 7

     ไม่ต่างกันกับ ลอฟเรน แม้จะไม่โดนแผงแนวรุก ยูไนเต็ด ทดสอบมากนัก แต่เขาก็แข็งแกร่งเอาเรื่อง และเล่นบอลด้วยลีลาเก้ๆ กังๆ ตามสไตล์ ซาโก้ แต่ก็มีจังหวะเคลียร์บอลที่พลาด จนเกือบถวายพานให้ ฆวน มาต้า ได้ลั่นไก แต่มองข้ามช็อตนี้ ก็นับว่าเป็นเกมที่ดีเกมหนึ่งของเขาเลย ซาโก้ และ ลอฟเรน ดูจะเริ่มต้นในการเป็นคู่หูที่แข็งแกร่งให้ทีมต่อจากนี้

อัลแบร์โต้ โมเรโน่ 7.5

     โดนวิจารณ์มาตลอด โดยเฉพาะฟอร์มในปี 2016 นี้ แต่เกมนี้ดู โมเรโน่ แบ็กสเปนจะลบล้างคำตำหนิได้ ด้วยความเร็วในการเล่นเกมสวนกลับ 2-3 ครั้ง และยังทำหน้าที่เกมรับของตัวเองได้ดูดีขึ้นด้วย ตลอด 90 นาที เป็นเกมออฟเดอะเยียร์ของเขาอีกคนเช่นกัน

เอ็มเร่ ชาน 7

     ชาน คือหนึ่งในผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล ที่กำลังถูกจับตาว่าฟอร์มกำลังพุ่งที่สุดในตอนนี้ และเขาก็ดูจะเป็นเช่นนั้นอีกครั้ง กับการยืนบทบาทมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกม ด้วยสภาพร่างกายที่ใหญ่โตทรงพลัง ทำให้เอาชนะในการแย่งบอลจังหวะสองได้แทบทุกครั้ง และเห็นได้ชัดว่าเขาเล่นบอลง่ายขึ้น แม้อาจจะไม่ถึงกับสุดยอดเหมือนเกมแซงชนะ คริสตัล พาเลซ ก็ตามที

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 7

     กัปปิตันคลับหงส์ก็ยังไม่ทีท่าจะคืนฟอร์มเก่ง ในช่วงก่อนบาดเจ็บเมื่อต้นฤดูกาลกลับมาได้เสียที แต่เกมนี้ เฮนเดอร์สัน ก็เล่นได้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ด้วยการเพรสซิ่งและความขยันคอยบีบไล่บอลถือว่าโอเค แต่ข้อเสียคือการผ่ายบอลยังขาดความแม่นยำ ห่างไกลจากที่เคยทำได้ในอดีต แถมยังมีจังหวะยิงที่ควรเป็นประตูที่ข้ามคานอย่างน่าเสียดาย แต่อย่างไรก็ตาม ประตูที่สองจาก ฟีร์เมียโน่ ก็เริ่มต้นมาจากเขานั่นเอง

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ 7

     คูตินโญ่ ไมได้เล่นได้โดดเด่นมากนักให้ทีม แต่ประสิทธิภาพในเกมรุกก็ยังยอดเยี่ยมเช่นเคย เกมนี้เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กปล่อยทีเด็ดทั้งทริคหลอกล่อต่างๆ ออกมาหมด และทำงานอย่างหนักในสนาม ช่วยกดดันและสร้างโอกาสให้ ลิเวอร์พูล คุกคามแนวรับทีมผีแดงได้อย่างอันตราย แม้มีบางครั้งที่เหมือนจะครองบอลไว้กับตัวนานเกินไปบ้าง

อดัม ลัลลาน่า 8

     พริ้วไหวและลื่นไหลมากๆ ในแดงเดือดครั้งนี้ ด้วยฟอร์มการเล่นที่สูสีสุดๆ กับ ไคลน์ จนจะนับว่าเป็นแมนออฟเดอะแมตช์อีกหนึ่งคนก็ว่าได้ ด้วยสเต็ปเท้าลากเลื้่อยที่คล่องแคล่วและว่องไว ยากที่จะแย่งได้ และเอาตัวรอดได้ดีในที่แคบๆ ความสามารถของเขาทำให้เราได้รู้ว่า ทำไม เจอร์เก้น คล็อปป์ จึงไว้วางใจส่งเขาเล่นเป็นประจำ เกมนี้เขาแอสซิสต์ให้ ฟีร์เมียโน่ ซัดประตูฝัง 2-0 นี่คือค่ำคืนที่ ลัลลาน่า โดดเด่นถึงขีดสุดที่ แอนฟิลด์

โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ 8

     ฟีร์เมียโน่ อดีตดาวเตะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ โชว์ลีลาที่ชวนให้ละสายตาไม่ได้เลยตลอดทั้งเกม ด้วยการเล่นที่ชาญฉลาดมากขึ้น รู้จักยืนตำแหน่งได้ถูกต้อง และตัดสินใจได้ดี มีหลายครั้งเลยที่ผู้เล่น ยูไนเต็ด ไม่อาจจะแย่งบอลจากเขาได้ ด้วยการลากหลบและพลิกบอลสวยๆ ประตูในแมตช์นี้ย่อมส่งผลต่อความมั่นใจของเขาอย่างมาก หลังยิงไม่หยุดตั้งแต่เริ่มต้นปี 2016 เป็นต้นมา

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 6.5

     แม้ว่าเจ้าเต้ยโศก จะมีชื่อทำสกอร์ได้จากลูกโทษขึ้นนำในครึ่งแรก ที่ เด เกอา เซฟไม่ได้ แต่เขาก็ดูจะไม่ค่อยมีบทบาทกับเกมมากนัก และไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับทีม ท้ายที่สุด สเตอร์ริดจ์ โดนถอดออกไปพักในกลางครึ่งหลัง นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ คล็อปป์ ที่มองเห็นได้ว่าเขา ยังต้องการเกมเคาะสนิท เพื่อเรียกความเฉียบคมกลับมาอีกเยอะ

สำรอง

โจ อัลเลน (แทน สเตอร์ริดจ์ นาที 64 ) 7

     เวลส์ปิร์โล่ ทำหน้าที่ได้ดีมาก ทันทีที่ลงสนาม เขาแสดงออกมาทั้งชั้นเชิง, ความมีระดับในการเล่นบอล และไหวพริบในการเชื่อมเกมแดนกลางที่ครบเครื่อง คงน่าเสียดายมากๆ หากเราจะต้องปล่อยเขาไปในช่วงซัมเมอร์นี้จริงๆ

ดิว็อค โอริกี (แทน ฟีร์เมียโน่ นาที 83) ไม่มีคะแนน