หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / สัมภาษณ์พิเศษ โอริกี : ผมพร้อมเซฟฤดูกาลที่เหลืออยู่ของ ลิเวอร์พูล

สัมภาษณ์พิเศษ โอริกี : ผมพร้อมเซฟฤดูกาลที่เหลืออยู่ของ ลิเวอร์พูล

armada28 2016-02-13 11:06:27 โอริกี
สัมภาษณ์พิเศษ โอริกี : ผมพร้อมเซฟฤดูกาลที่เหลืออยู่ของ ลิเวอร์พูล

     ดิว็อค โอริกี ศูนย์หน้าร่างโย่งทีมชาติเบลเยี่ยมของ ลิเวอร์พูล ออกมาให้สัมภาษณ์พิเศษกับทาง เอ็คโค่ หลังจากหายเจ็บหัวเข่า และเพิ่งได้ลงสนามในเกม เอฟเอ คัพ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

     โอริกี เจ้าของค่าตัว 10 ล้านปอนด์ หายหน้าจากทีมไปร่วม 6 สัปดาห์ และได้กลับสู่ทีมพร้อมๆ กับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีของทีมในช่วงเวลานี้

     อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ยังคงมีลุ้นแชมป์ แคปิตอล วัน คัพ และ ยูโรป้า ลีก ในสัปดาห์หน้า ซึ่ง โอริกี เชื่อมั่นว่าทีมยังสามารถสร้างฤดูกาลที่ดีได้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่เกม พรีเมียร์ ลีก ที่จะออกไปเยือน แอสตัน วิลล่า ในวันเสาร์นี้

     "เราทุกคนต่างเจ็บปวดที่ตกรอบ เอฟเอ คัพ ทั้งๆ ทีมที่เราไม่ได้เล่นแย่เลย เรามีโอกาสของเรา และควรจะปิดเกมชนะได้ ประตูวินาทีสุดท้ายนั้นน่าผิดหวังจริงๆ"

     "แต่เมื่อผมมองไปที่สมาชิกในทีม ผมยังมองโลกในแง่ดี ผมเห็นสิ่งต่างๆ เชิงบวกมากมาย"

     "ผมรู้สึกดีที่ได้กลับมาเล่นนัดแรกหลังจากบาดเจ็บ ผมมีความสุขทีได้กลับมาลงสนาม และมันเยี่ยมที่มี 2 ผู้เล่นคุณภาพอย่าง สเตอร์ริดจ์ และ คูตินโญ่ กลับมาด้วยเช่นกัน"

     "เรามีการแข่งขันแย่งตำแหน่งอย่างแท้จริงในตอนนี้ และนั่นจะทำให้เกิดยกระดับในทีม มันเป็นสิ่งที่ดี พร้อมกับเกมนัดสำคัญมากมายที่จะเข้ามา"

     "เรายังมีเกมมากมายเหลืออยู่ในการปรับปรุงอันดับของเรา รวมทั้ง ยูโรป้า ลีก และ ลีก คัพ นี่คือส่วนหนึ่งของฤดูกาลที่สำคัญยิ่ง และเราจำเป็นต้องทำให้ดีที่สุดในการแข่งขัน"

     โอริกี ยังเผยถึงความตื่นเต้นในการที่จะชิงดำถ้วย แคปิตอล วัน คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ เวมบลีย์ อีกด้วยว่า

     "มันคือแรงจูงใจชั้นยอด ยามที่คุณย้ายมาเล่นให้ทีมใหญ่ คุณย่อมต้องการคว้าแชมป์ต่างๆ เราใกล้เคียงกับการชนะรางวัลครั้งใหญ่ อีกแค่นัดเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้"

     "เราต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์นี้ในการทำให้แน่ใจว่าเราจะพร้อมลุยในเกมชิงชนะเลิศ"

Divock Origi leaves the field injured as Jurgen Klopp looks on

     โอริกี วัย 20 ปี ยังเผยถึงเหตุการณ์ ตอนที่เขาบาดเจ็บหัวเข่าในแมตช์พบ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ส่งผลให้เขาต้องรับการผ่าตัดในเวลาต่อมา

     "ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนตะคริวขึ้นที่แฮมสตริง ดังนั้นผมต้องหยุดเล่น มันเป็นอาการเล็กๆ น้อยๆ แต่ในระหว่างสัปดาห์เดียวกัน ผมก็ได้ลงเป็นตัวจริงต่อและก็รู้สึกผิดปกติที่หัวเข่า"

     "มีอาการบิดที่กระดูกอ่อน และมีของเหลวอยู่ในหัวเข่า ดังนั้นมันจึงไม่โอเค"

     "เราตัดสินใจว่ามันจะดีกว่า ถ้าผมได้พักฟื้นแฮมสตริง มันเป็นกระบวนการเล็กๆ จากผู้เชี่ยวชาญพิเศษ และมันหายดีแล้วในตอนนี้"

     เมื่อเดือนธันวาคม โอริกี สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ด้วยการระเบิดแฮททริคเหมา 3 ลูกในแมตช์บุกถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน 6-1 ที่ เซนต์ แมรี่ส์ ในถ้วย แคปิตอล วัน คัพ ซึ่งเขาภูมิใจมากกับฟอร์มในวันนั้น

Divock Origi celebrates scoring Liverpool's second goal

     "มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากสำหรับผม เพราะผมทำงานอย่างหนักเพื่อให้กลับมาคืนฟอร์ม ผมได้รับโอกาสให้เป็นตัวจริงในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน และการยิงได้ 3 ประตูก็น่าอัศจรรย์"

     "ลูกบอลในเกมนั้นโดนเพื่อนๆ เซ็นลายเซ็นให้ ผมได้บอลลูกนั้นกลับบ้านอีกลูก หลังจากเคยได้มาครั้งหนึ่ง ตอนยิงแฮททริคให้ ลีลล์ ดังนั้น นั่นจึงเป็นสนามที่ผมจะบันทึกความทรงจำทั้งหมดเอาไว้"

     "การยิงประตู เวสต์บรอม ได้ก็เป็นอะไรที่พิเศษเช่นกัน เพราะมันคือประตูแรกของผมใน พรีเมียร์ ลีก และเป็นประตูแรกของผมที่ แอนฟิลด์ ความจริงนั้นมันคือลูกตีเสมอในนาทีสุดท้าย มันยิ่งสุดยอดเข้าไปใหญ่"

     "แม้กระทั่งกับเกมเจอ เลสเตอร์ ผมก็รู้สึกดีก่อนจะมาเจ็บแฮมสตริง ผมสนุกมากๆ ในเกมของผม"

     "ผมทำงานหนักเพื่อจะได้กลับมา และตอนนี้ผมพร้อมสำหรับฤดูกาลที่เหลือ"

     นอกจากนี้ โอริกี ผู้เคยไปลุยบอลโลกที่บราซิล เมื่อปี 2014 มาแล้ว ยังยอมรับเขาต้องปรับตัวพอสมควร ในการเล่นที่อังกฤษในช่วงต้นฤดูกาล

     "มันเป็นอะไรที่แตกต่างจากฟุตบอลฝรั่งเศสมากๆ และแตกต่างจากเกมระดับทีมชาติเช่นกัน อังกฤษคือประเทศใหม่ของผม เป็นสไตล์ใหม่ของการเล่น คุณต้องปรับตัว คุณต้องทำงานหนัก"

     "ผมต้องเรียนรู้คุณค่าและสภาพจิตใจในแบบฟุตบอลอังกฤษ สิ่งเหล่านี้สำคัญมากที่จะทำให้เกมของคุณฟิต มันต้องใช้เวลา โดยเฉพาะเมื่อคุณยังอายุน้อย"

     "เกมที่นี่เล่นกันด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ๋มากสำหรับทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะบุก, ป้องกัน แม้กระทั่งการซ้อม"

     "ที่ฝรั่งเศสเน้นเทคนิคมากกว่า สิ่งที่ผมชอบเสมอในฟุตบอลอังกฤษ ก็คือความตรงไปตรงมา มันเยี่ยมสำหรับผู้เล่นที่มีความเร็วและแข็งแกร่ง สิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่ทำให้ผมรักในการอยู่ที่นี่"

     "คุณพ่อคุณแม่ของผมเดินทางมาเยี่ยมบ่อยมาก เพื่อนๆ ของผมมาเยี่ยมที่ ลิเวอร์พูล พวกเขาพูดเสมอถึงความอบอุ่นและเป็นมิตรของคนเมือง ลิเวอร์พูล"

     ความจริงนั้น ผู้ที่เซ็นสัญญาคว้าตัว โอริกี มาก็คือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการไอร์แลนด์เหนือคนก่อน แต่ก็ถูกปลดจากตำแหน่งไปเมื่อเดือนตุลาคม และ โอริกี เชื่อว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะสามารถพัฒนาการเล่นของเขาได้

     "คล็อปป์ เป็นผู้จัดการที่แตกต่างมากๆ คุณสามารถเห็นแรงขับเคลื่อน, ประสบการณ์ และพลังที่เขานำมาสู่สโมสร เขาเป็นส่วนสำคัญของสโมสร"

     "ผมได้เรียนรู้อย่างมากจากการทำงานกับเขา ไม่ใช่แค่แทคติก แต่ยังรวมถึงมุมมองความคิดที่มีต่อเกมการเล่น ผมสนุกมากที่ได้เล่นให้เขา"

     "ไม่มีใครสงสัยในตัวผู้จัดการทีม เรามีความสุขมากที่ได้ร่วมงานกับเขา"

     "ผมสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนหน้า ผมพร้อมเล่นได้หมดถ้าโค้ชต้องการ"

     "การเล่นด้านข้างแตกต่างไปจากการเล่นกองหน้า แต่งานของผมยังเป็นการทำประตู หรือการแอสซิสต์ให้เพื่อน รวมทั้งการสร้างอันตรายเพื่อทีม"

     "ยิ่งได้เล่นมากเท่าไร ความมั่นใจยิ่งมากเท่านั้น เพราะคุณจะเข้ากับจังหวะของเกมการเล่น"

     "แต่คุณต้องได้รับเวลาเหล่านั้น และเริ่มต้นด้วยการทุ่มทุกอย่างลงไปในการซ้อม ผมต้องแสดงให้เห็นว่าผมสมควรได้ลงสนาม"

     "สิ่งต่างๆ ในฤดูกาลนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้เร็วมาก และผมรู้ว่าสิ่งที่ดีๆ กำลังรอคอยเราอยู่"

     เขายังเชื่อมั่นอีกด้วยว่า เบนเตเก้ เพื่อนร่วมชาติเบลเยี่ยมของเขาจะผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ไปได้ เพราะรู้ดีถึงสถิติถล่มประตูของเขากับ วิลล่า

Christian Benteke and Divock Origi (left to right) stand dejected after Watford's Odion Ighalo (not pictured) scores their third goal of the game during the Barclays Premier League match at Vicarage Road, Watford. Andrew Matthews/PA Wire.

     "คริสติย็อง เป็นเพื่อนที่ดีของผม และเราสนับสนุนซึ่งกันและกัน การพลาดโอกาสในการจบสกอร์ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน"

     "เราต่างรู้ดีว่า คริสติย็อง เป็นผู้เล่นที่ดีมากๆ เขาสามารถยิงประตูได้มากๆ เขาแสดงมันออกมาเมื่อในอดีต"

     "นี่คือช่วงเวลาที่เขากำลังจะผ่านมันไป ผมรู้ว่าเขาจะผ่านมันได้ เขายังมองโลกในแง่ดี และนั่นคือสิ่งที่ผมชื่นชมในตัวเขา"

     "ทุกเซสชั่นของการซ้อม ทุกนาทีของทุกเกมการแข่งขัน เขายังคงเป็นนักสู้ เขายังยิ้มได้"

     "ในห้องแต่งตัวคุณสามารถเห็นไฟในตัวเขา และนั่นคือเรื่องที่ดี"

     "บางครั้งถ้าคุณเล่นหลายๆ เกมติดๆ กัน คุณย่อมรู้สึกเหนื่อยล้า จิตใจคุณก็ย่อมอ่อนแอตาม ความมั่นใจของคุณจะถูกกระหน่ำ และคุณจะยิงได้น้อยลง มันเกิดขึ้นได้กับทุกคนและทุกเวลา"

ADS