หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / คุยกับ ไมเคิล บีล ผู้เปลี่ยนแปลง สจ๊วร์ต จากฟูลแบ็ก สู่มิดฟิลด์ตัวรับ

คุยกับ ไมเคิล บีล ผู้เปลี่ยนแปลง สจ๊วร์ต จากฟูลแบ็ก สู่มิดฟิลด์ตัวรับ

คุยกับ ไมเคิล บีล ผู้เปลี่ยนแปลง สจ๊วร์ต จากฟูลแบ็ก สู่มิดฟิลด์ตัวรับ

     เควิน สจ๊วร์ต มิดฟิลด์ดาวรุ่งผู้ครั้งหนึ่งเคยถูกเฉดหัวมาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส กำลังพบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตการค้าแข้ง หลังการเล่นย้ายมายัง แอนฟิลด์ ในเวลาเพียง 1 ปีครึ่ง

     ไม่น่าเชื่อว่าตลอดช่วงเวลา 19 เดือนที่ผ่านมา สจ๊วร์ต จะพลิกชีวิตได้มากขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2014 เขาหมดอนาคตที่ สเปอร์ส แต่กลับได้รับโอกาสจาก ลิเวอร์พูล ให้ย้ายมาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว ในฐานะฟูลแบ็ก

     แต่เพียงเพราะการเปลี่ยนตำแหน่งในการเล่น ชีวิตของ สจ๊วร์ต ก็เปลี่ยนไปทันที จากนักเตะโนเนม กลายมาเป็นตัวจริงในเกม เอฟเอ คัพ ตลอด 4 นัดที่ผ่านมา

     วันนี้เราจะมาฟังที่มาในเรื่องนี้จากคำให้การของ ไมเคิล บีล โค้ชทีม ลิเวอร์พูล ยู 21 ที่ตัดสินใจมอบบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับให้เขาได้เล่น จะด้วยเหตุผลอะไรนั้น เราไปติดตามพร้อมๆ กัน

     "เควิน มาร่วมทีมของเราในฐานะฟูลแบ็ก เหมือนอย่าง จอน ฟลานาแกน เขาต้องการจะเป็นแบ็กซ้ายที่เล่นเท้าขวา" บีล เอ่ยถึงเรื่องราว 1 ปีครึ่งที่แล้ว

     "เขาสามารถเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟได้ด้วย แต่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสเล่นตำแหน่งนี้"

     "เขารู้สึกยากลำบากมากที่ สเปอร์ส ในช่วง 2-3 เดือนแรกที่เขาซ้อมที่ เมลวู้ด และเล่นให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ช่วงปรีซีซั่น"

     "ในการซ้อม 2-3 เซสชั้นแรกกับเรานั้น ผมได้พูดคุยกับ อเล็กซ์ อิงเกิลธอร์ป (ไดเรกเตอร์ทีมอคาเดมี่) และเราเห็นตรงกันว่า เขามีคุณภาพที่จะเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ เขาเล่นได้ 2 เท้า และมีร่างกายที่ดีมาก"

     "ในช่วงเวลานั้น จอร์แดน วิลเลี่ยมส์ และ จอร์แดน รอสซิเตอร์ ต่างเล่นที่ เมลวู้ด ในตำแหน่งหมายเลข 6 (กลางตัวรับ) ดังนั้นเราจึงโฟกัสอยู่ที่พวกเขา เควิน เลยต้องเล่นฟูลแบ็กต่อไป"

     "ทีมชุด ยู 21 มีคิวออกไปเยือน นอริช ก่อนวันคริสต์มาส เมื่อฤดูกาลที่แล้ว คอนนอร์ แรนดัลล์ ที่กำลังจะได้ลงเล่นในแดนกลาง เกิดป่วยก่อนการแข่งขัน"

     "ผมเลยปิ๊งมาที่ เควิน เราไม่เคยทำงานในการซ้อม แต่ผมจับเขาเล่นมิดฟิลด์ และเขาโดดเด่นมากในคืนนั้น"

     "มันทำให้เรายอมรับ และเราคิดว่า ว้าว เราน่าจะสานต่อได้ในเรื่องนี้ เขาเลยได้เล่นมิดฟิลด์ ต่อจากนั้น 4-5 เกม ก่อนจะโดนปล่อยยืมตัว"

     สจ๊วร์ต ใช้เวลาอยู่ที่ เชลท์แน่ม 1 เดือน ก่อนจะย้ายไปเล่นให้ เบอร์ตัน จนจบฤดูกาล และเขาช่วยให้ทีมได้เลื่อนชั้นจาก ลีก ทู สำเร็จ

     "ประเด็นมีอยู่ว่า ครั้งแรกที่เขาออกไปเล่นแบบยืมตัว ปรากฎว่าสไตล์ของฟุตบอลที่อื่น
ไม่เหมือนอย่างของเรา"

     "เขาได้เล่นมิดฟิลด์ แต่เขาจับบอลจังหวะสองมากเกินไป นั่นไม่ใช่การเรียนรู้ระดับมือ
อาชีพ ในการรับ-ส่งบอล"

     ต่อมาในเดือนกรกฎาคม เขาก็ถูกยืมตัวไปเล่นให้ สวินดอน และมีโอกาสเล่นเกมลีกถึง
7 นัด ในเวที ลีกวัน ก่อนที่จะต้องหลุดจากทีม เพราะเจ็บเอ็นไขว้หลังเข่าในช่วงเดือน
กันยายน ทำให้เขาถูกส่งตัวกลับ ลิเวอร์พูล ทันที และต้องพักยาวร่วม 4 เดือน

     สจ๊วร์ต ได้กลับมาเล่นอีกครั้งในวันที่ 5 มกราคม 2016 กับทีมชุด ยู 21 ในเกมกับ มอร์แคมบ์ และแล้ว 3 วันต่อจากนั้น เขาก็ได้โอกาสเซอร์ไพรส์ประเดิมเป็นตัวจริงให้ ลิเวอร์พูล ในเกมที่บุกเสมอ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ 2-2
 ทั้งๆ ที่สโมสรเพิ่งประกาศยกเลิกสัญญายืมตัวของเขาจาก สวินดอน ไปหมาดๆ ด้วยซ้ำ

     "วันพฤหัสที่เขากลับมายังอคาเดมี่นั้น เขาได้ลงเล่น 60 นาทีในแดนกลาง และก็อีก 30 นาที ในบทบาทเซนเตอร์ฮาล์ฟ เพื่อให้ได้รีแลกซ์ร่างกาย" บีล รำลึก

     "พอวันศุกร์ เขาก็ได้ลงเล่น เอฟเอ คัพ และมีคนนับล้านดูเขาทางทีวี คุณไม่มีทางรู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น"

     มุมมองคนส่วนใหญ่มองว่า เพราะวิกฤติปัญหานักเตะเจ็บล้นทีม ทำให้ สจ๊วร์ต ได้รับโอกาสครั้งนี้ แต่ บีล กลับมองว่ามันคือรางวัลตอบแทนในความพยายามมากกว่า

     เขายังได้โอกาสต่อเนื่องในเกมนัดรีเพลย์ เอ็กเซเตอร์ ที่ แอนฟิลด์ และล่าสุดก็คือเกมดวล เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทั้งสองนัด ฟอร์มการเล่นของเขาก้าวหน้ามาก ด้วยการยืนปักหลังคอยปกป้องแผงแบ็กโฟร์ และมีจุดเด่นที่ลูกนิ่งและการผ่านบอล

     "สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกเกี่ยวกับตัวเขา นับตั้งแต่ เควิน มาร่วมทีม เขาคือผู้เล่นที่ทำงานหนักที่สุดเท่าที่เรามีอยู่"

     "เราถึงขนาดต้องเตะเขาออกจากโรงยิมเลยละ เขาคือคนที่เราต้องดูแลอย่างใกล้ชิด"

     "เขาอยู่ที่่ เมลวู้ด ตลอดทั้งวัน เขาอาศัยห่างไกลจากบ้าน และครอบครัวของเขาที่ลอนดอน เขาก็เลยไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไร"

      "แต่เขาคือคนที่โปรดปรานฟุตบอลอย่างแท้จริง และเป็นดาวรุ่งที่เป็นมืออาชีพสุดๆ ผม พอใจกับสิ่งทีเขาได้รับในตอนนี้"

     "เขาเล่นในตำแหน่งที่มีการแข่งขันสูงมาก แต่การที่ รอสซิเตอร์ และ วิลเลี่ยมส์ บาดเจ็บ ก็เลยทำให้เขาได้ก้าวหน้าต่อไป และเขาไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง"

     "ผมคิดว่าฟอร์มการเล่นของเขาในเกมกับ เวสต์แฮม แข็งแกร่งมาก เควิน โชว์ให้เห็นถึงระดับของเขา ตลอด 2 เกมที่ผ่านมา ผมคิดว่าเขากำลังคุ้นเคยกับมัน"

     "มันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นเร็วมาก เขาเป็นแฟนพันธฺุ์แท้ ลิเวอร์พูล มาทั้งชีวิต ผมรู้ว่ามีหลาย คนที่เซ็นสัญญากับทีมแล้วพูดแบบนั้น แต่เขามีรูปภาพของทีมเพียบตั้งแต่ยังเด็กๆ เป็นข้อพิสูจน์"

     "จอห์น บาร์นส์ คือแรงบันดาลใจสำคัญในการเติบโตของเขา"

     "มันยอดเยี่ยมที่เขาเล่นได้ดีในการเจอ เวสต์แฮม และผมรู้ว่ายังมีอะไรอีกมายมายในตัวเขา"

ADS