กลับบ้านเก่า!! ผลสอบแข้ง "หงส์" เกมบุกโดน "ค้อน" สอยร่วงนาทีสุดท้าย

ซิมง มิโญเล่ต์ 6

     เพิ่งโดนวิจารณ์ถล่มเละมาอย่างหนัก หลังทำพลาดในเกมเสมอ ซันเดอร์แลนด์ วันนี้จอมหนึบเบลเยี่ยม กลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง เขาโชว์การปัดลูกยิงฟรีคิกของ ดีมิทรี ปาเยต ได้อย่างยอดเยี่ยม และออกมาตัดบอลได้ดี แต่กระนั้นก็ยังมีความผิดพลาดให้เห็นในการรับมือลูกโยนอยู่ตลอด และลูกโหม่งของ อ็อกบอนน่า ก็เหมือนว่าเขาไม่ได้เตรียมพร้อมเซฟลูกเท่าไร รวมทั้งการใช้เท้าเตะก็ยังดูมีปัญหาเสมอ

จอน ฟลานาแกน 7

     เป็นค่ำคืนที่แข็งแกร่งของ ฟลานาแกน หลังต้องพยายามอย่างหนักกว่าจะกลับมาฟิตได้ในรอบ 2 ปี เขาอาจจะเสียบอลง่ายไปหน่อย แต่เกมรับยังแกร่งไว้ใจได้ และเต็มไปด้วยจิตวิญญานตั้งแต่ต้นจนจบเกม เชื่อว่าถ้าได้เล่นต่อเนื่อง ก็จะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ จนกลับสู่ฟอร์มเก่งในอดีตได้

ติอาโก้ อิลอรี่ 7.5

     เล่นได้น่าประทับใจตลอดคืนที่ผ่านมา สำหรับการรับมือแนวรุกของ เวสต์แฮม ที่อันตรายยกแผง ดาวรุ่งโปรตุกีส ทรงอาจจะดูปวกเปียกๆ ตั้งแต่ต้นเกม แต่เขาก็มีจุดเด่นเรื่องการอ่านเกมที่ดีมาก และแข็งแกร่งในการสู้ลูกกลางอากาศ เริ่มแสดงให้เห็นคุณค่าแล้วว่าทำไม สโมสรจึงซื้อเขามาร่วมทีมตั้ง 7 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2013

ลูคัส เลว่า 8.5

     จัดว่าเป็นฟอร์มการเล่นระดับเทพเจ้าของ ลูคัส เลยก็ว่าได้ สำหรับการรับบทกัปตันทีมและเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ อัพตัน พาร์ค เขาแสดงถึงความเป็นผู้นำที่แท้จริงตลอด 120 นาที ทั้งการเข้าปะทะ, การผ่านบอล และการกระตุ้นลูกทีมที่ยอดเยี่ยม หลายคนมองว่าเขาคือตัวการทำให้ทีมเสียฟรีคิก และนำไปสู่ประตูชัย เวสต์แฮม แต่ก็ต้องยอมรับว่าวันนี้ ลูคัส เล่นได้ดีมากจริงๆ

แบร็ด สมิธ 6.5

     แบ็คขาลุยชาวออสซี่โชว์คุณภาพในเกมรุกอีกครั้ง ด้วยความเร็วที่ทรงพลัง และการตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายทางฝั่งซ้ายที่แน่นอน โชคร้ายที่เกมรับของเขาบกพร่อง และทำให้ มิคาอิล อันโตนิโอ ได้โอกาสพังประตู มองดูแล้วเขามีความคล้าย โมเรโน่ อยู่เหมือนกัน ตรงที่ว่าน่าจะจับมายืนปีก มากกว่าจะเป็นฟูลแบ็ค แต่โดยรวมพัฒนาการของเขาน่าสนใจมาก

เปโดร ชิริเบย่า 7.5

     ชิริเบย่า ได้โอกาสลงประเดิมตัวจริง และยืนครบ 90 นาทีให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ และก็ทำได้ดีเกินคาดเสียด้วย ดาวรุ่งสแปนิชมีจุดเด่นที่ช่วยให้ทีมได้ครองบอล และแกร่งเอาเรื่องเมื่อต้องเล่นเกมรับ คืนนี้เขาน่าจะภูมิใจได้เลยสำหรับฟอร์มในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ที่ดีที่สุดตั้งแต่ได้โอกาสลงสนามมา

เควิน สจ๊วร์ต 8

    แฟนบอลส่วนใหญ่รู้จัก สจ๊วร์ต น้อยมากๆ ใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่เขาก็โดดเด่นจนใครๆ ตกตะลึง โดยเฉพาะเกมกับ เอ็กเซเตอร์ ใน เอฟเอ คัพ รอบที่ผ่านมา คืนนี้เขาเล่นได้น่าชื่นชมมากๆ สำหรับการทำงานทั้งหมด ทั้งยังมีร่างกายที่แข็งแกร่งดุดัน และคอยปั้นเกมในแดนกลาง เชื่อว่าเขาจะยังได้โอกาสเพิ่มขึ้นทั้งในเกมลีก และ ยูโรป้า สำหรับมิดฟิลด์อนาคตไกลคนนี้

ชูเอา คาร์ลอส เตเซร่า 6.5

     เตเซร่า นับเป็นผู้เล่นคนหนึ่งที่เล่นได้น่าผิดหวัง แต่ก็ยังมีจังหวะสวยๆ ให้เห็นอยู่บ้าง ทั้งช็อตประสานงานกับ คูตินโญ่ 2-3 หน แต่นอกนั้นก็ไม่ดีเท่าไร ยังมีปัญหาในเรื่องทัศนคติความทุ่มเทในเกมที่แย่ แต่ก็น่าจะดีขึ้นหากมีประสบการณ์มากกว่านี้

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ 7

     เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ ที่ได้เห็น คูตินโญ่ คืนสนาม การกลับมาครั้งนี้ของเพลย์เมกเกอร์ วัย 23 ปี ยอดเยี่ยมมากในแง่ของการสร้างสรรค์เกม หลังบาดเจ็บตั้งแต่เดือนที่แล้ว คืนนี้เขาซัดฟรีคิกที่เฉียบขาด ตีเสมอให้ทีมก่อนหมดครึ่งแรก ด้วยความฟิตที่ยังไม่เต็มที่เลยถูกถอดออกไปพัก ยังคงเป็นคีย์แมนของ ลิเวอร์พูล เช่นเคย

จอร์ดอน ไอบ์ 5

     ผิดหวังและยอดแย่คงเป็นคำที่ต้องมอบให้ ไอบ์ ท่ามกลางผู้เล่นคนอื่นๆ ที่เล่นกันได้ดี ก็มีเขาที่ทำได้ห่วยมาก และเป็นส่วนหนึ่งของการเสียประตูแรกให้ อันโตนิโอ เขายังตัดสินใจจังหวะสุดท้ายได้แย่เช่นเคย ทำให้คำถามเดิมยังคงกลับมาว่า ไอบ์ จะพัฒนากว่านี้ได้หรือไม่ แม้เขาจะยังอายุน้อยก็ตามที

คริสติย็อง เบนเตเก้ 5

     เกมนัดก่อนๆ ที่ได้ลงสนาม ใครๆ ก็ว่าเขาเล่นได้แย่ แต่วันนี้ต้องเรียกว่าเลวร้ายที่สุด เขาคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบชัดเจน เพราะจบสกอร์ไม่ได้เลยจากโอกาสที่มากมาย และมั่นใจได้เลยว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ คงไม่เอาเขาไว้แน่ หากวัดจากฟอร์มในเกมนี้ เขาทำเสียโอกาสมากเกินไป โดยเฉพาะช็อตดวล 1 ต่อ 1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แม้ว่าเขาจะทำได้ดีในแง่ของการประสานงานกับ สเตอร์ริดจ์ แต่ไงก็ตามนี่ก็รวมเป็นเวลากว่า 600 นาทีแล้วที่ เบนเตเก้ ยิงไมได้ ทั้งๆ ที่ได้ลงสนามครบทุกนาทีจาก เอฟเอ คัพ 4 เกมที่ผ่านมา

สำรอง

ดิว็อค โอริกี (แทน เตเซร่า นาที 59) 6

     ถูกส่งลงมาป่วนเจ้าบ้าน และเล่นได้อันตรายใช้ได้ แต่ก็น่าผิดหวังกับการจบสกอร์ 1 หนในช่วงต่อเวลาพิเศษ ที่ควรทำได้ดีกว่านั้น

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (แทน คูตินโญ่ นาที 59) 8

     ทันที่ที่ได้ลงมา ดาวยิงวัย 26 ปีก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขามันคนละเกรดกับคนอื่นๆ ในสนาม ทั้งการจับบอล, ความครบเครื่อง และการเล่นในพื้นที่สุดท้ายของเขตโทษที่อันตรายเกินใครๆ แน่นอนว่าถ้าเขาฟิต เขาจะเป็นคนที่สามารถเปลี่ยนโฉมหน้า ลิเวอร์พูล ได้อย่างแน่นอน

เจมส์ มิลเนอร์ (แทน ชิริเบย่า นาที 101) ไม่มีคะแนน

     ไม่มีเวลามากพอที่จะสร้างผลกระทบต่อเกมได้ แม้จะลงมาขยันวิ่งพล่านก็ตาม