พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- ซันเดอร์แลนด์ (22.00 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- ซันเดอร์แลนด์

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2016 เวลา 22.00 น.

สนาม แอนฟิลด์

ผู้ตัดสิน โรเบิร์ต แมดเลย์

     เกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 25 ประจำซีซั่นนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ "เดอะ เร้ดส์" จะกลับมาคว้าชัยอีกครั้งหลังทำผลงานได้น่าผิดหวังจากเกม เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ผ่านมา ยิ่งเกมนี้พวกเขาได้เปิด แอนฟิลด์ ต้อนรับทีมทีมโซนท้ายตารางอย่าง ซันเดอร์แลนด์ ถือว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่งสำหรับเกมค่ำคืนนี้

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     ดูเหมือน ลิเวอร์พูล เริ่มจะได้นักเตะตัวหลักกับมาแล้ว ล่าสุดหัวหอกกระดูกยุงอย่าง สเตอร์ริดจ์ สามารถกลับมาซ้อมเต็มที่กับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว แต่ยังคงหมดสิทธิ์สำหรับเกมนี้ ส่วนในรายของ คูตินโญ่ และ โอริกี ใกล้เคียงกับการลงสนามเช่นเดียวกัน เกมนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะเน้นผู้เล่นจากเกมที่แพ้ เลสเตอร์ ลงสนามเป็นหลัก แต่อาจดร็อป เอ็มเร่ ชาน และส่ง โจ อัลเลน ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแทน

สภาพทีมล่าสุด : ซันเดอร์แลนด์

     ส่วนทีมเยือน ซันเดอร์แลนด์ จะขาดเพียงแค่ เซบาสเตียน ลาร์สสัน เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่มีปัญหาที่เข่ารายเดียวเท่านั้น คาดว่าเกมนี้ อัลลาร์ไดซ์ จะเปลี่ยนแปลงนักเตะเพียงตำแหน่งเดียวจากเกมล่าสุดที่ แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยการดร็อป เยเรเมน เลนส์ และส่ง วาห์บี้ คาซรี่ ลงมาแทนที่ โดยมี เจอร์เมน เดโฟ รับหน้าที่เป็นหัวหอกตัวเป้า

คีย์แมน

ลิเวอร์พูล : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

     เฮนเดอร์สัน จะได้ลงสนามลงบู๊กับทีมเก่าในถิ่น แอนฟิลด์ อย่างไม่ต้องสงสัย เกมนี้ เฮนเดอร์สัน จะกลายเป็นหัวใจหลักในแดนกลางโดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โจ อัลเลน และ ลูคัส เลว่า เป็นตัวสนับสนุน หากเกมนี้ เฮนโด้ จัดการกับแผงมิดฟิลด์คู่แข่งได้อยู่หมัดแล้วล่ะก็ มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะปิดเกมนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา

ซันเดอร์แลนด์ : ยานน์ เอ็มวีล่า

     นักเตะที่ถือเป็นหัวใจหลักของ "แมวดำ" คงหนีไม่พ้นมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสอย่าง เอ็มวีล่า แน่นอน มิดฟิลด์รายนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเล่นเกมรุกของ ซันเดอร์แลนด์ หาก ลิเวอร์พูล ปล่อยให้เขาเล่นได้ง่ายและมีโอกาสได้ทำเกม นับเป็นเรื่องอันตรายเลยทีเดียวกับปัญหาแนวรับที่ ลิเวอร์พูล เป็นอยู่ ณ ขณะนี้

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์ :

     "มันไม่เคยมีเรื่องราวอะไรกับ แซม หรอก เรื่องที่เขาแซวผมว่าหน่อมแน้ม ผมไม่มีปัญหาเลย คนส่วนใหญ่เคยพูดเรื่องแย่ๆ เกี่ยวกับตัวผมเยอะแยะ ไม่มีปัญหาเลยจริงๆ และผมให้ความเคารพ แซม อัลลาไดซ์ อย่างสูง"

     "ตอนที่เราเจอกับ ซันเดอร์แลนด์ ครั้งแรก ผมเคยพูดว่าพวกเขาจะอยู่รอดใน พรีเมียร์ ลีก เพราะว่า แซม ยังคุมอยู่ที่นั่น เราจะได้จับมือกันในวันเสาร์นี้"

แซม อัลลาไดซ์ :

     "ผมเพียงแค่ออกมาแสดงความเห็น บางทีผมอาจไม่ควรทำ นักข่าวทำให้เรื่องมันใหญ่โตไปเองจากสิ่งที่ผมพูด ด้วยความสัตย์จริง อลัน บราซิล (พิธีกรจาก ทอล์ค สปอร์ต) ได้ออกมาขอโทษผมแล้วตอนที่เราได้เจอกัน ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระมาก"

     "ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยนะ ถือเป็นข่าวครึกโครมเลยที่เห็นเขาที่นี่และคาแรคเตอร์เขาก็สุดยอดด้วย ในเกมวันเสาร์ผมไม่สามารถคาดหวังได้ว่าเขาจะปฎิบัติดีกับผม แต่แน่นอนล่ะ ผมจะทำเช่นนั้น"

ฟอร์มการเล่น

     ลิเวอร์พูล ชนะคู่แข่งได้เพียง 2 จาก 5 นัด (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2) แถม 3 เกมล่าสุดพวกเขาแพ้คู่แข่งไปถึง 2 ครั้งด้วยกัน ส่วนทัพ "แมวดำ" ผลงานดูจะย่ำแย่กว่าหลังแพ้คู่แข่งไปถึง 3 จาก 5 เกมหลังสุด (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3)

ประวัติการพบกัน

     ซันเดอร์แลนด์ ยังไม่สามารถบุกเอาชนะ ลิเวอร์พูล ที่สนาม แอนฟิลด์ ได้เลย จากความพยายามทั้งหมด 16 ครั้งในลีก นับตั้งแต่ที่เคยเฉือนชนะ 1-0 เมื่อเดือนตุลาคม 1983 (เสมอ 8, แพ้ 8)

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลว่า, โจ อัลเลน - เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, อดัม ลัลลานา

ซันเดอร์แลนด์ (4-2-3-1) : วิโต้ มานโนเน่ - บิลลี่ โจนส์, ลามีน โคเน่, จอห์น โอเช, พาทริค ฟาน อันโฮลท์ - วาห์บี้ คาซรี่, ยานน์ เอ็มวิล่า, ยาน เคิร์ชฮ็อฟฟ์, ลี แค็ตเตอร์โมล, ฟาบิโอ บอรินี่ - เจอร์เมน เดโฟ

ทรรศนะ Siamliverpool

     ชั่วโมงนี้ ขอบอกตามตรงว่าลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แทบหมดลุ้นกับโอกาสติดท็อปโฟร์แล้วในซีซั่นนี้ จากการตามหลังอันดับ 4 อย่าง อาร์เซนอล ถึง 11 แต่หากเจาะลึกลงไปในเกมที่พวกเขาจะต้องเปิดบ้านต้อนรับลูกทีม แซม อัลลาไดซ์ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเรียกความมั่นใจให้แก่ทีมอีกครั้ง ยิ่งสถิติในบ้าน ลิเวอร์พูล ยังไม่เคยแพ้ให้กับ ซันเดอร์แลนด์ ตลอด 7 เกมหลังสุดในลีกด้วย ดูแล้วไม่น่ามีปัญหา เกมนี้สองเม็ดน่าจะมี!!

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0