จองตั๋วนัดชิง!! ผลสอบแข้ง "หงส์" เกมพิฆาต สโต๊ค 6-5 หลังดวลโทษระทึก

ซิมง มิโญเล่ต์ 7.5

     โดนยิงตรงกรอบครั้งแรก ก็กลายเป็นประตูทันที สำหรับเกมนี้ของโกล์เบลเยี่ยม แต่ภาพรวม การตัดสินใจออกมาตัดบอลของเขาดูมั่นใจดี ไม่มีข้อผิดพลาดเมื่ออยู่ในเขตโทษของตัวเอง ที่สำคัญเขาควรได้รับเครดิตมากจากจังหวะเซฟลูกโทษ 2 ช็อตสำคัญจาก ปีเตอร์ เคร้าช์ และ มาร์ก มูเนียซ่า ที่ทำให้หงส์แดงกรุยทางเข้านัดชิงได้ในที่สุด

จอน ฟลานาแกน 6.5

     ลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกให้ทีมนับตั้งแต่พฤษภาคม ปี 2014 เด็กปั้นเลือดสเก๊าเซอร์พันธุ์แท้ ลงเล่นนัดแรกก็ต้องเจอเกมสำคัญทันที ยังมีข้อตำหนิในจังหวะปะทะตลอดครึ่งแรกที่ควรทำได้ดีกว่านี้ รวมไปถึงการประกบ อเนาโตวิช ที่นำไปสู่การเสียประตู ภาพรวมเขาทำได้ดีกว่าที่คิดไว้ สำหรับแมตช์แรกในรอบ 20 เดือน

โคโล่ ตูเร่ 6

     แม้จะไม่โดดเด่น แต่ตลอด 85 นาทีที่ลงเล่นในเกมนี้ เขาใช้ประสบการณ์ที่มีอยู่ในตัว คุมเกมรับจนกลายเป็นศูนย์กลางของกองหลัง ตูเร่ เข้าปะทะและตัดสินใจเคลียร์บอลได้ดี แม้ว่าจะผิดพลาดไปบ้างในการรับมือกับ อเนาโตวิช ในประตูที่เสียให้ สโต๊ค ซึ่งไลน์แมนสมควรเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้าด้วยซ้ำไป

มามาดู ซาโก้ 7

     ปราการหลังเฟร้นซ์แมน ยังคงควานหาฟอร์มเก่งของตัวเองต่อไป แต่วันนี้เขากลับเล่นได้แกร่งมากๆ สำหรับแนวรับของ ลิเวอร์พูล ถ้าไม่นับความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวที่ปล่อยให้ลูกจ่ายของ โบยาน นำไปสู่การเสียประตู นอกนั้นเขาไว้ใจได้ทั้งการเล่นลูกกลางอากาศ, การครองบอล และบล็อกลูกยิงสวยๆ

อัลแบร์โต้ โมเรโน่ 5

     ฟูลแบ็กสเปนเล่นด้วยความกดดัน หลังโชว์ฟอร์มไม่ดีในพักหลัง และวันนี้เขาก็ยังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้ กับการเล่นของตัวเองอีกครั้ง เกือบเสียท่าให้ จอน วอลเตอร์ส ที่ได้หลุดไปดวล 1 ต่อ 1 บางทีอาจต้องถึงเวลาดร็อป โมเรโน่ บ้างแล้วก็เป็นได้ในนัดต่อๆ ไป

ลูคัส เลว่า 5.5

     ไม่ใช่ค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมสำหรับฮาร์ดแมนบราซิลเลี่ยน ที่ประสบความยากลำบากเมื่อเจอเกมที่รวดเร็ว มีโอกาสได้โยกมาเล่นเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟเคียงข้าง ซาโก้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยเกมรับเท่าที่ควร และโดนคู่แข่งผ่านง่ายเกินไป กระนั้นจุดโทษที่เขายิงก็ยอดเยี่ยมกว่าที่ใครๆ คิดไว้

เอ็มเร่ ชาน 5.5

     ยังคงห่างไกลจากวันที่ท็อปฟอร์มของ ชาน ในสีเสื้อหงส์แดง สำหรับการเล่นที่แสนราบเรียบทั้งๆ ที่เป็นเกมที่มีความหมายมากขนาดนี้ มีโอกาสยิงตรงกรอบ 1 หน แต่ส่วนใหญ่การจ่ายบอลมักเสียซะเยอะ และดูจะปรับตัวกับเกมที่เร็วไม่ได้ พร้อมทั้งยังดูอ่อนล้าจากการบด 120 นาทีอย่างยากลำบาก นี่ยังไม่รวมที่พลาดจุดโทษด้วยนะ

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 5

     เป็นเกมที่ดูยากลำบากสำหรับกัปตันทีมรายนี้ ดูจะขาดแคลนพลังและอิทธิพลในเกมอีกครั้ง และมีปัญหากับการผ่านบอลตลอด 55 นาทีที่อยู่ในสนาม ชัดเจนว่าเขาดูจะยังโดนอาการบาดเจ็บที่ส้นเท้ารบกวนอยู่ และทำให้ เฮนเดอร์สัน มีอาการพะวงตลอดเวลา ส่งผลให้จำกัดการเล่นของตัวเองไปด้วย

เจมส์ มิลเนอร์ 5.5

     ขยันขันแข็งไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในฐานะรองกัปตัน และยังโดนจับมาเล่นแบ็กขวาอีก หลัง ฟลานาแกน โดนเปลี่ยนตัว กระนั้นเขาดูจะขาดคุณภาพในการเล่นเกมรุก, การจ่ายบอล และการประสานงานกับ ฟีร์เมียโน่ และ ลัลลาน่าน่า อย่างไรก็ตาม มิลเนอร์ ก็สมควรได้รับคำชมสำหรับความตั้งใจตลอด 120 นาที และจุดโทษที่ซัดได้อย่างเยือกเย็น

อดัม ลัลลาน่า 6

     กลับมาเป็นตัวจริงให้ทีมจนได้ ลัลลาน่า โชว์การเลี้ยงที่ทรงพลังออกมาให้เห็นอีกครั้ง แต่ก็ยังปั้นเกมได้ไม่มากพอเท่าไร อาจจะดูว่าขยันมากในสนาม แต่ก็ไม่ได้สนับสนุน ฟีร์เมียโน่ เท่าที่ควร และยังคงขาดความเป็นเพชรฆาตเมื่อได้จังหวะยิง แต่วันนี้เขาก็ทำหน้าที่ได้ดีกับบทบาทการยิงลูกโทษ

โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ 6.5

     หัวหอกบราซิลเลี่ยนเจองานหินอย่างหนักในแดนหน้า เมื่อขาดการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีม และกลายเป็นต้องมาปั้น เบนเตเก้ แทนด้วยซ้ำ เขามีพัฒนาการมากขึ้นในเรื่องความขยัน และยังโชว์คุณภาพในการจับบอล, การสร้างสรรค์เกม ซ้ำยังได้ยิงชนเสาไปอีก 1 หน

คริสติย็อง เบนเตเก้ (แทน เฮนเดอร์สัน นาที 58) 5.5

     ดาวยิงเบลเยี่ยมยังคงเล่นอย่างน่าผิดหวังต่อไป แม้ว่าจะได้โอกาสสวยๆ ในหลายจังหวะก็ตาม คำชมเดียวที่มีคงเป็นการซัดลูกโทษที่เขายิงแบบไม่กดดัน แถมเป็นการเล่นทริค หลอกให้โกล์หลงทางอย่างเหนือชั้น ส่งผลให้ทีมตบเท้าเข้าสู่ เวมบลีย์ อย่างสวยงาม

โจ อัลเลน (แทน ตูเร่ นาที 85) 7.5 (แมนออฟเดอะแมตช์)

     เกมนี้เดอะเวลส์ปิร์โล่เวลส์ น่าจะถูกส่งมาเล่นเป็นตัวจริงด้วยซ้ำ ทันทีที่ลงสนาม เขาก็โชว์ความนิ่งและสร้างอิทธิพลได้เลย เขาช่วยให้ทีมครองบอลได้มากขึ้นอย่างชัดเจน สำคัญที่สุดคือคืนนี้เขาคือฮีโร่ หลังซัดลูกโทษเป็นประตูตัดสินการเข้ารอบ แถมเป็นการยิงมุมบนอย่างมั่นใจ ทั้งๆ ที่ต้องแบบความกดดันอย่างมหาศาล ให้ทีมในช่วงเวลาดังกล่าว

จอร์ดอน ไอบ์ (แทน ฟลานาแกน นาที 105) ไม่มีคะแนน

     ปีกดาวรุ่งผิวสีถูกส่งลงมากระชากลากเลื้อยในช่วงต่อเวลาพิเศษ และก็ล้มเหลวในการคุมคาม เอริก ปีเตอร์ส แม้จะมีสบโอกาสง้างซัดด้วยเท้าซ้ายไป 1 หนก็ตามที