หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว ลีก คัพ ลิเวอร์พูล -vs- สโต๊ค ซิตี้ (02.45)

พรีวิว ลีก คัพ ลิเวอร์พูล -vs- สโต๊ค ซิตี้ (02.45)

BaBaOK 2016-01-26 15:04:33 ลีกคัพ , สโต๊ค
พรีวิว ลีก คัพ ลิเวอร์พูล -vs- สโต๊ค ซิตี้ (02.45)

พรีวิว ลีก คัพ ลิเวอร์พูล -vs- สโต๊ค ซิตี้

วันอังคารที่ 26 มกราคม 2016 เวลา 02.45 น.

สนาม แอนฟิลด์

ผู้ตัดสิน จอน มอสส์

     หลังเป็นฝ่ายบุกไปชนะ 1-0 จากประตูของจอร์ดอน ไอบ์ กุมความได้เปรียบตุนไว้ก่อนในเลกแรกเมื่อสามสัปดาห์ก่อน "หงส์แดง" ของเจอร์เกน คลอปป์ ก็มองหาหนทางปิดจ็อบให้ได้ในเกมนี้ ล่าสุดเพิ่งเก็บชัยได้ต่อเนื่องสองนัดที่ผ่านมาในศึกเอฟเอ คัพและพรีเมียร์ ลีก แน่นอนว่าเกมนี้ต้องสร้างสถิติต่อเนื่องเป็นนัดที่สามจากทีมของมาร์ค ฮิวจ์ส ในค่ำคืนนี้

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     "หงส์แดง" มีข่าวดีคือจะได้ จอน ฟลานาแกน กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 ในเกมนี้ ในเลกแรกลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเอาชนะได้ก่อน 1-0 ที่บริแทนเนีย แต่มีข่าวร้ายคือนาธาเนียล ไคลน์ แบ็คขวาตัวเก่ง อาจไม่มีชื่อในเกมนี้เพราะมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ขณะที่เดยัน ลอฟเรน กองหลังชาวโครแอต ยังฟิตไม่พอที่จะลงสนาม และสุดท้ายคือสตีเว่น คอลเกอร์ ที่ติดคัพไท เพราะเคยลงเล่นกับเซาท์แฮมป์ตันไปแล้วในรอบก่อนหน้านี้

สภาพทีมล่าสุด : สโต๊ค ซิตี้

     ทางด้านทีมเยือน "ช่างปั้นหม้อ" จะไม่มีกองหลังกัปตันทีม ไรอัน ชอว์ครอสส์ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่หลัง แต่มีข่าวดีคือจะได้ตัว มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช และ โบยาน เกร์กิช ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้ สุดท้ายคือ เจฟฟ์ คาเมรอน ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ยังไม่ฟิตพอที่จะลงเล่นในเกมนี้

คีย์แมน
ลิเวอร์พูล : โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่

     ดาวเตะชาวบราซิลเลียน ที่ฟอร์มกำลังบินฉิวติดลมบนแบบใครก็ดึงลงไม่ได้ ล่าสุดเพิ่งยิงประตูเปิดหัวให้ทีมขึ้นนำในเกมสุดระทึกใจที่เอาชนะนอริช ซิตี้ ไปได้ 5-4 แม้จะทำได้แค่ลูกเดียว แต่ฟอร์มโดยรวมทั้งเกมต้องบอกว่าไม่มีใครเทียบเคียงได้ จนคว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง นอกจากตอนนี้จะซัดไป 5 ลูก แล้ว จากการลงสนาม 20 นัด ยังสร้างสรรค์โอกาสทำประตูให้เพื่อนได้อีกถึง 4 แอสซิสต์ เป็นตัวอันตรายของคู่แข่งอย่างไม่ต้องสงสัย

สโต๊ค ซิตี้ : มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช

     หัวหอกชาวออสเตรียวัย 26 ปี ที่กำลังฟอร์มฮ็อตปรอทแตก ซัดไปแล้ว 7 ประตู จากการลงสนาม 21 นัด ให้ "ช่างปั้นหม้อ" ซีซั่นนี้ แต่ยังไม่ได้ยิงประตูแรกของตัวเองในศึกลีก คัพเลย เขาเป็นผู้จุดประกายชัยชนะให้ทีมอยู่เป็นประจำ ประตูของเขาในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วยให้ทีมเก็บชัยนัดสำคัญได้ซีซั่นนี้ และถ้าหากสโต๊คจะหวังพึ่งใครสักคนให้นำชัยมาสู่ทีม จะมองข้ามนักเตะอย่างอาร์เนาโตวิชไม่ได้เลย

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทีม
เจอร์เกน คลอปป์ :

     "ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับบรรยากาศที่แอนฟิลด์ในรอบรองชนะเลิศมาบ้าง และผมก็เฝ้ารอมันอยู่ มารวมพลังทั้งหมดของลิเวอร์พูลและไปสู่รอบชิงชนะเลิศกันเถอะ"

     "การไปเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้นั้นมันยอดเยี่ยมมาก แต่ในตอนจบมันเป็นเพียงแค่ความทรงจำเมื่อคุณเอาชนะมันได้และนั่นคือสิ่งที่คุณต้องทำ คุณไม่ควรใช้ทิ้งขว้างโอกาสในการเอาชนะบางสิ่ง และผมรู้ว่าสำหรับนักเตะแล้วมันสำคัญมากจริงๆ พวกเขาอยากเข้ารอบชิงชนะเลิศแบบสุดๆ"

มาร์ค ฮิวจ์ส :

     "เราจะพยายามผลักดันไปให้ถึงรอบชิงให้ได้ คุณจะจดจำเรื่องราวในรองรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศของบอลถ้วยได้เสมอ เพราะความตื่นเต้นและบรรยากาศและเราต้องการทำมันให้เป็นค่ำคืนที่น่าจดจำ"

     "หวังว่าในเกมวันอังคารนี้เราจะไปถึงรอบชิงชนะเลิศของรายการนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี และเราจะรำลึกถึงนักเตะเหล่านั้นก่อนเริ่มการแข่งขัน"

ฟอร์มการเล่น

     เจ้าบ้านลิเวอร์พูล เริ่มกลับเข้าสู่เส้นทางที่ดีอีกครั้ง นับตั้งแต่พ่ายในศึกแดงเดือด หลังจากจัดการเก็บชัยได้ 2 นัดติดต่อกัน จาก 2 นัดล่าสุดในทุกรายการ รวมถึงเกมระดับ 10 ดาวกับนอริช ที่เอาชนะได้ 5-4 ทางด้านทีมเยือนสโต๊ค ซิตี้ ก่อนหน้าที่ชนะสองนัดติด แต่ทว่าสองนัดที่ผ่านมายังไม่เจอกับคำว่าชัยชนะสองนัดต่อเนื่องเข้าไปแล้ว เริ่มจากการเสมอกับอาร์เซนอล ตามด้วยบุกไปพ่ายเลสเตอร์ ซิตี้ 0-3 ในเกมล่าสุด

ประวัติการพบกัน

     การพบกันของทั้งสองทีมในทุกรายการ แทบจะเรียกได้ว่า "หงส์แดง" เป็นฝ่ายเก็บกินเกือบทั้งหมด 10 นัดล่าสุดที่เจอกัน เป็นชัยชนะของลิเวอร์พูลถึง 7 ครั้ง เสมอกันไป 1 และทีม "ช่างปั้นหมอ" คว้าชัยได้แค่ 2 นัดเท่านั้น

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - จอน ฟลานาแกน, โคโล ตูเร่, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - เอ็มเร่ ชาน, ลูคัส เลว่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - อดัม ลัลลานา, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, จอร์ดอน ไอบ์

สโต๊ค ซิตี้ (4-2-3-1) : แจ็ค บัตแลนด์ - เกล็น จอห์นสัน, ไรอัน ชอว์ครอส, ฟิลิปป์ วอลส์ไชด์, เอริค ปีเตอร์ส - อิบราฮิม อเฟลลาย, เกล็น วีแลน - เซอร์ดาน ชากิรี่, โบยาน เกอร์กิซ, มาร์โก อาร์เนาโตวิช - โฆเซลู

ทรรศนะ Siamliverpool

     ลิเวอร์พูลดูดีกว่าทั้งสภาพจิตใจและสถานการณ์ล่าสุดของทีม เพราะเกมล่าสุดที่เพิ่งจะเอาชนะ นอริช ซิตี้ สุดระทึก 5-4 น่าจะทำให้ความมั่นใจพุ่งทะลุปรอทและชี้ให้เห็นถึงเกมรับที่ต้องระมัดระวังตัวมากกว่านี้ ส่วนทีมเยือนสโต๊ค ซิตี้ เพิ่งโชว์ฟอร์มออกทะเลในช่วง 2 นัดหลังสุด ด้วยการไม่ชนะใครเลยและทำประตูคู่ต่อสู้ไม่ได้อีกด้วย น่าจะทำให้เกมนี้พวกเขาไม่น่ามีทางเลือกและต้องเดินหน้าลุยทำประตูลูกเดียว นัดแรก "หงส์แดง" มีประตูตุนไว้ ชิงความได้เปรียบไปก่อน หากตั้งรับดีๆ และรอจังหวะสวนกลับสวยๆได้ เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ๆ มั่นใจว่าเจ้าบ้านจะย้ำชัยและพาตัวเองเข้าไปรอเล่นที่เวมบลีย์ได้สำเร็จ

ฟันธง : ลิเวอร์พูล เฉือน 1-0

ADS