"เฮียเจิด" รีเทิร์น!! ประกาศผลสอบเกม "ตำนานหงส์" บุกยำ "ออสซี่" 4-0

"เฮียเจิด" รีเทิร์น!! ประกาศผลสอบเกม "ตำนานหงส์" บุกยำ "ออสซี่" 4-0

ซานเดอร์ เวสเตอร์เฟลด์ 7

     นายด่านวัย 41 ปีโชว์ซูเปอร์เซฟหยุดลูกยิงของ คอริก้า และ ซดริลิช เรียกว่า ซิมง มิโญเลต์ มีหนาวแน่ถ้าเจอฟอร์ม เวสเตอร์เฟลด์ ในวันนี้

เจมี่ คาร์ราเกอร์ 7.5

     ยังคงสมราคาหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ยืนตระหง่านเป็นกำแพงค่อยหยุดยั้งเกมรุกของออสเตรเลียได้หมดจด

สเตฟาน อองโชซ์ 6

     อาจจะปล่อยให้ตัวรุกของออสซี่ได้หลุดเข้ามาทำเกมบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องทำมากนักในช่วงเวลาของตัวเอง ก่อนจะถูกเปลี่ยนออกในครึ่งหลัง

ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ 6

     ไม่ได้โดนทดสอบเกมรับเลยสักนิด แถมกลายเป็นว่าได้บุกตะลุยไปเปิดบอลเป็นชุดๆ เหมือนสมัยเล่น พรีเมียร์ ลีก และวันนี้ก็ถวายพาน 2 ครั้งให้ รัช และ อัลดริดจ์ได้เข้าฮอสงามๆ

เจสัน แม็คคาเทียร์ 6

     เล่นประมาทมากเกินไป และปล่อยให้คนอื่นต้องมาคอยปะคองในบางจังหวะ ไม่มีประโยชน์กับทีมเท่าไรตลอด 20 นาทีแรก ก่อนจะให้ ออเรลิโอ มาแทนที่

ดีทมาร์ ฮามันน์ 6.5

     คอยซ้อนในจังหวะสุดท้าย และเป็นตัวโฮลด์ดิ้งบอลในจังหวะได้ครองเกม ฟอร์มไม่โดดเด่นเท่าไรนัก

สตีเว่น เจอร์ราร์ด 8

     กองกลางหัวขิงเจ้าของปลอกแขนกัปตัน ยังพาทีมคว้าชัยชนะดังเดิม เกมนี้คอนโทรลเกมทุกจังหวะ วันนี้โยนบอลแบบสวยๆ ให้ การ์เซีย ได้โหม่งบอลในประตูที่ 2 สำเร็จ

แพทริค แบร์เกอร์ 8.5

     รับบทเป็นตัวจ่ายคิลเลอร์พาสในพื้นที่สุดท้ายให้ทีม ประตูแรกของ การ์เซีย ก็มาจากเขา วันนี้บงการเกมและมีอิทธิพลกับทีมโดยรวมมาก ตั้งแต่นาทีแรกจนนาทีสุดท้าย

หลุยส์ การ์เซีย 9 (แมนออฟเดอะแมตช์)

     ฟิตที่สุดของทีมพอๆ กับ เจอร์ราร์ด ฉีกแนวรับออสเตรเลียเป็นว่าเล่นด้วยความเร็วที่มี โชว์การจบสกอร์ได้อย่างหมดจดทั้งจากการยิงและการโหม่งที่สมบูรณ์แบบ ยังคงเหนือชั้นเหมือนในอดีตไม่มีผิด

วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ 5.5

     จากที่เคยหุ่นผอมบางพริ้วกลายเป็นฝรั่งอ้วนพุ้ยไปแล้ว สำหรับปีกเช็ก หลังพลาดจังหวะฝังสกอร์ในระยะ 18 หลา และก็หายไปจากเกม จนกระทั่ง แม็คอัลลิสเตอร์ แทนในนาที 34

ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ 7

     ยังคงมีพิษสงอยู่บ้างสำหรับหัวหอกจอมพเนจร มีโอกาสได้ยิงจะๆ เหมือนกัน แต่ถูกปฎิเสธจาก คาลัซ โกล์ออสซี่

สำรอง

แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ 5.5

     ถูกส่งลงมาคุมเกมแดนกลางให้ตำนานหงส์ แต่ก็ได้แค่เสมอตัว ไม่มีอะไรเป็นพิเศษและเงียบสนิทสำหรับน้าแม็ค

ฟาบิโอ ออเรลิโอ 5.5

     ทำหน้าที่คอยประกบปีกเจ้าบ้านอย่าง สเลเตอร์ แต่ก็ไม่ได้มีหน้าที่อะไรต้องทำมากนัก เลยกลายเป็นว่าไม่มีผลงานอะไรให้ทีม นอกจากจังหวะแลบไปยิงครั้งเดียว

อิกอร์ บิสคาน 6.5

     โชว์การเช็กล้ำหน้าดักใส่ ซดริลิช ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นจังหวะสำคัญของเกมทั้ง 2 ครั้ง

ฟิล บ๊าบบ์ 6

     ปักหลักเล่นแบ็กขวาตามถนัด ก่อนจะพา ลิเวอร์พูล รักษาคลีนชีทไปในที่สุด

บรู๊ซ กร็อบเบลาร์ 6

    ลงมาปุ๊บ ก็เจอเจ้าถิ่นปล่อยทีเด็ดโยก คาลัซ โกล์ส่วนสูง 202 เซนติเมตรมาเล่นหน้าเป้า หวังพังประตู แต่ก็ไม่ได้มีอะไรใกล้เคียง

เอียน รัช 7

     ถูกส่งลงมาสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจให้แฟนหงส์รุ่นเก่าได้เฮกัน และก็ทำประตูจนได้ในนาที 73 จากการเข้าฮอสเผาขนด้วยลีลาเหมือนสมัยยังหนุ่มๆ

จอห์น อัลดริดจ์ 7

     นี่ก็เป็นอีกคนที่ลงมาก็พังประตูได้ทันที ทั้งที่โดนบอลเพียงครั้งแรก เมื่อได้ชาร์ทหน้าปากประตูเข้าไปในนาทีสุดท้ายของเกม