หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / 5 เหตุผลที่ทำให้"หงส์แดง"กลับขึ้นมาผงาดอีกครั้งในยูซีเอล

5 เหตุผลที่ทำให้"หงส์แดง"กลับขึ้นมาผงาดอีกครั้งในยูซีเอล

StevieG 2014-05-22 16:35:19
5 เหตุผลที่ทำให้หงส์แดงกลับขึ้นมาผงาดอีกครั้งในยูซีเอล

          จากผลงานอันสุดยอดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยการจบอันดับที่สองของพรีเมียร์ลีกและคว้าตำแหน่งรองแชมป์ในที่สุด ทำให้ "หงส์แดง" คว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาล 2014-15 ในทันที โดยไม่ไปต้องไปลุ้นอันดับที่ 4 เหมือนกับหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งงานนี้คงต้องยกเครดิตให้กับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือจอมแทคติกที่สามารถพาทีมไปลุยถ้วยใหญ่ยุโรปได้อีกครั้ง นับตั้งแต่ปี 2009-10 หรือเมื่อ 5 ฤดูกาลก่อน

          นักเตะในทีมปัจจุบันที่เคยอยู่ในชุดลุยถ้วยยุโรปเมื่อ 5 ปีก่อน มีเพียงแค่ 6 คนเท่านั้น - นำโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เกล็น จอห์นสัน, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, มาร์ติน เคลลี่, มาร์ติน สเคอร์เทล และ ลูคัส เลว่า ซึ่งเชื่อว่าเหล่าบรรดารุ่นพี่ ๆ น่าจะเป็นเสาหลักสำคัญในประคองทีมให้เดินทางสู่ความสำเร็จได้ต่อไป คราวนี้เราจะไปดูว่า 5 เหตุผลที่จะทำให้ "หงส์แดง" กลับขึ้นมาผงาดอีกครั้งในรายการนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง (ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก AstralFootball ครับ)

1. DNA - "มันอยู่ในพันธุกรรม"

          ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์และมรดกที่เป็นความภาคภูมิใจของเหล่าบรรดาแฟนบอลทั่วโลก พวกเขาเองเป็นทีมที่มีชื่อเสียงกว้างไกลระดับนานาชาติ และทัวนาเม้นท์ใหญ่ ๆ ต้องมีชื่อของพวกเขาติดอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าความยิ่งใหญ่ของพลพรรค "เครื่องจักรสีแดง" ในยุคทศวรรษที่ 80 ยังคงถูกจดจำอยู่ในใจของ "เดอะ ค็อป" ไปตลอดกาล ซึ่งหันกลับมาสู่ยุคปัจจุบัน เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนคงจะคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะสามารถกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่และยึดครองบัลลังค์ได้อีกครั้ง

          ประวัติศาสตร์สมัยใหม่แสดงให้เห็นว่า ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่พวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จ และคงไม่มีใครที่จะลืมคำคืนแห่งความทรงจำที่อีสตันบูลได้อย่างแน่นอน ซึ่งการนำทีมโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผู้ที่ทำให้พวกเขาได้กลับมาเล่นในรายการนี้อีกครั้งในฐานะแชมป์เก่า ได้สร้างปาฏิหาริย์ เมื่อพวกเขาตกเป็นรอง 0-3 ในช่วงครึ่งแรก ก่อนจะไล่ตีเสมอเป็น 3-3 ต้องต่อเวลาและดวลจุดโทษตัดสินชี้ขาด ซึ่งก็เป็นทางด้าน ลิเวอร์พูล ที่คว้าถ้วยอันทรงเกียรตินี้ไปครอง ทำให้แฟน ๆ ได้แต่หวังว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

2. A Stronger Defence - "การป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าเดิม"

          "หงส์แดง" ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับเกมรับที่อ่อนปวกเปียก จนทำให้พวกเขาหวืดแชมป์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งการจับคู่กันของสองเซ็นเตอร์แบ็คระหว่าง มาร์ติน สเคอร์เทล กับ มามาดู ซาโก้ ยังคงไม่ลงตัวเท่าที่ควร แถมผู้เล่นที่อยู่บนม้านั่งสำรองอย่าง แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ และ โคโล ตูเร่ ก็ยังมีศักยภาพไม่เพียงพอที่จะสามารถทดแทนกันได้

          งานนี้แฟน ๆ ได้แต่หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแผงหลังครั้งยิ่งใหญ่ ในขณะที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เองก็กำลังเร่งแก้ไขจุดอ่อนของทีมอย่างจริงจัง คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าตลาดซื้อ-ขายในช่วงซัมเมอร์นี้ เขาจะมองหาปราการหลังที่ประสบการณ์สูงมาเสริมทีมอย่างแน่นอน เพื่อส่งลงสนามมาเผชิญหน้ากับเหล่าบรรดาตัวรุกพรสวรรค์สูงระดับโลกที่กำลังจะมาถึงนี้

3. The 12th Man - "ผู้เล่นคนที่ 12"

          จากการกล่าวถึงสนามแข่งขันของหลายสโมสร คงจะบอกได้ว่าสนาม แอนฟิลด์ เปรียบเสมือนป้อมปราการอย่างแท้จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เคยกล่าววลีเด็ดที่ว่า "ปลดปล่อยมันออกมาแฟน ๆ ทั้งหลาย" หรือ "unleash the supporters" หลายต่อหลายครั้งในช่วงท้ายของฤดูกาล และนั่นเป็นวลีที่เขาเลือกให้เป็นที่สุด

          สาวก "เดอะ ค็อป" เป็นพวกที่มีความคลั่งไคล้และความคิดที่สูงมาก ซึ่งมากกว่าหลาย ๆ ทีมในยุโรปอย่างไม่ต้องสงสัย สนามเหย้า แอนฟิลด์ ถูกเรียกว่าเป็น "นรกของผู้มาเยือน" ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ง่ายสำหรับทีมที่จะมาเยือน และสถานการณ์ในคืนยุโรปที่มีความตึงเครียดสูง ๆ จะทำให้พวกเขาน่ากลัวมากยิ่งขึ้น

4. Suarez - "เพชฌฆาตฟันล้ำหน้า"

          ความหวังสูงสุดของ ลิเวอร์พูล คงจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งนี่จะเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง ในการฟาดแข้งกับพวกผู้เล่นระดับแถวหน้าของผืนปฐพีนี้ ซึ่งหัวหอกตัวเก่งชาวอุรุกวัยได้ทำตามความปรารถนาของเจ้าตัวแล้ว นั่นคือการไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก และในฤดูกาลหน้าเขากำลังจะได้ไปทำสิ่งนั้น

          ซัวเรซ เป็นนักเตะที่คุณสามารถพึ่งพาได้ตลอดทั้งเกมที่เขาลงสนาม หากเขาพยายามอย่างหนักเหมือนในเกมที่ออกไปเยือน ฟูแล่ม คิดว่าศักยภาพของเขาคงจะป่วนแนวรับของคู่ต่อสู้ได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด หรือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็ตาม

5. No qualification - "ไม่เหนื่อยรอบคัดเลือก"

          ลิเวอร์พูล ไม่เพียงแต่พวกเขาจะได้สิทธิ์ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังสามารถหลบเลี่ยงรอบคัดเลือกที่แสนจะน่าเบื่อได้อีกด้วย ซึ่งมันจะเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่งสำหรับลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่พวกเขาจะลุ้นคว้าแชมป์ในฤดูกาลหน้า

          ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก มักจะจัดการแข่งขันกันก่อนที่ฤดูกาลจะเริ่มขึ้น โดยหลังจากช่วงซัมเมอร์นี้ ลูกทีมของเขาหลายคนต้องกลับมาจากการรับใช้ทีมชาติในศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศบราซิล และสิ่งสุดท้ายที่ผู้จัดการทีมต้องทำก็คือพานักเตะออกไปลุยรอบคัดเลือก ดูเหมือนว่าโชคยังเข้าข้าง ร็อดเจอร์ส อยู่นิดนึง เพราะว่าเขาจะไม่ต้องทำสิ่งนั้น

ADS