พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- เลสเตอร์ ซิตี้ (22.00น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- เลสเตอร์ ซิตี้

วันอาทิตย์ 26 ธันวาคม 2015 เวลา 22.00 น.

สนาม แอนฟิลด์

ถ่ายทอดสดช่อง Stadium 2(57)

     เกมลีกนัดประเดิม บ็อกซิ่งเดย์ในคืนนี้ ทัพ "เร้ดส์ แมชชีน" จะเจอศึกใหญ่จากการต้องเปิดเปิดบ้านรับการมาเยือนจ่าฝูงที่กำลังเข้าฝักแบบสุด ๆ อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้ คล็อปป์ จำเป็นต้องคว้าชัยให้ได้เพื่อกู้สถานการณ์ของทีมกลับมา ผลจะเป็นเช่นไรห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ!!

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้ มิโญเล่ต์ กลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง ส่วนในรายของ มิลเนอร์ ยังคงต้องพลาดเกมนี้อีกนัดเพราะอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขายังไม่หายขาด ส่วนนักเตะที่ถือว่าส่งผลเสียอย่างยิ่งของหนีไม่พ้น สเคอร์เทล ที่ต้องพลาดโอกาสลงสนามถึง 6 สัปดาห์ เพราะได้รับอาการบาดเจ็บจากเกมลีกนัดที่ผ่านมา

สภาพทีมล่าสุด : เลสเตอร์ ซิตี้

     ส่วนทีมของ รานิเอรี่ ค่อนข้างจะพร้อมสมบูรณ์ จะขาดก็เพียงแต่นักเตะตัวเก่งอย่าง แดนนี่ ดริ๊งค์วอเทอร์ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่ผ่านมา ส่วนในรายของ โรเบิร์ต ฮูธ จะพ้นโทษแบนกลับคืนสนามได้พอดิบพอดี

คีย์แมน

ลิเวอร์พูล : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

     ที่พึ่งที่พอจะฝากผีฝากไข้คงหนี้ไม่พ้น คูตินโญ่ แน่นอน แม้เกมนัดที่แล้วเจ้าตัวแทบจะสร้างความน่ากลัวให้คู่แข่งแทบไม่ได้ แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเพื่อนร่วมทีมนัดกันฟอร์มตกถึงเป็นเช่นนั้น ดูแล้วทางเจ้าถิ่นจะหวังลูกทีเด็ดทีขาด ก็ต้องภาวนาให้เขาระเบิดฟอร์มเก่งช่วยทีมให้ได้อีกครั้ง

เลสเตอร์ ซิตี้ : เจมี่ วาร์ดี้

     คนที่ฮอตที่สุดในลีกตอนนี้เห็นจะไม่มีใครเกิน วาร์ดี้ อีกแล้ว เพราะดาวยิงทีมชาติอังกฤษรายนี้ถือเป็นคนสำคัญอับหนึ่งของทีมที่พา เลสเตอร์ ทะยานขึ้นจ่าฝูงชนิดที่ทีมใหญ่ได้แต่มองตาปริบ ๆ จากการซัลโวในลีกไปแล้ว 15 ตุง เจ้าถิ่นมีหนาวแน่

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทีม

เจอเก้น คล็อปป์

     "มันเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับผมและถือเป็นเกียรติมาก เพราะ รานิเอรี่ เป็นหนึ่งในโค้ชที่มีประสบการณ์มากที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก"

     "มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจเสมอที่ได้พูดคุยกับคนที่ชอบเขาและนั่นคือสิ่งที่เราทำ เรามีความเคารพซึ่งกันและกัน เขามักจะประสบความสำเร็จในอาชีพก็เพราะการบริหารจัดการของเขา"

     "ผมให้ความเคารพอย่างยิ่งสำหรับ เคลาดิโอ และสโมสร เลสเตอร์ เพราะพวกเขากำลังทำได้ดีจริง ๆ หากพวกคุณไม่ได้เล่นกับพวกเขามันเป็นอะไรที่ง่ายมากที่จะเพลิดเพลินนะ"

เคลาดิโอ รานิเอรี่

     "ผมคิดว่าถ้าเราผ่านได้มันจะเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมเลยนะ เพราะตอนนี้เราต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งก่อนหน้านี้เราไปเยือน แมนเชสเตอร์ บอร์นมัธ และยังทำผลงานได้ดีกับ สเปอร์ส"

     "บางทีถ้าเรายังอยู่บนหัวตารางไม่ใช่เพียงแต่แฟน ๆ เลสเตอร์ ที่จะคอยหนุนหลังเราเท่านั้นแต่จะรวมถึงแฟนบอลในอังกฤษอีกจำนวนมาก ผมคิดว่า เลสเตอร์ เป็นทีมที่ใครหลายคนชอบนะ"

ผลการพบกันของทั้งสองทีม
01/01/15 ลิเวอร์พูล เสมอ เลสเตอร์ 2 - 2
03/12/14 เลสเตอร์ แพ้ ลิเวอร์พูล 1 - 3
28/03/04 เลสเตอร์ เสมอ ลิเวอร์พูล 0 - 0
20/09/03 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ 2 - 1
30/01/02 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ 1 - 0
20/10/01 เลสเตอร์ แพ้ ลิเวอร์พูล 1 - 4
03/03/01 เลสเตอร์ ชนะ ลิเวอร์พูล 2 - 0
21/10/00 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ 1 - 0
03/05/00 ลิเวอร์พูล แพ้ เลสเตอร์ 0 - 2
18/09/99 เลสเตอร์ เสมอ ลิเวอร์พูล 2 - 2

ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
ลิเวอร์พูล
20/12/15 แพ้ วัตฟอร์ด 0-3 (เยือน)
13/12/15 เสมอ เวสต์บรอมวิช 2-2 (เหย้า)
11/12/15 เสมอ ซิยง 0-0 (เยือน) ยูโรป้า ลีก
06/12/15 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-2 (เยือน)
03/12/15 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 6-1 (เยือน) ลีก คัพ

เลสเตอร์ ซิตี้
19/12/15 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-2 (เยือน)
15/12/15 ชนะ เชลซี 2-1 (เหย้า)
05/12/15 ชนะ สวอนซี 3-0 (เยือน)
29/11/15 เสมอ แมนยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า)
21/11/15 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-0 (เยือน)

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลว่า, เอ็มเร่ ชาน - อดัม ลัลลานา, ดิว๊อค โอริกี้, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
เลสเตอร์ ซิตี้(4-4-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - แดนนี่ ซิมป์สัน, เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, คริสเตียน ฟุคส์ - ริย้าด มาห์เรซ, โกคาน อินเลอร์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์ก อัลไบรจ์ตัน - ชินจิ โอกาซากิ, เจมี่ วาร์ดี้

ทรรศนะ Siamliverpool

     เกมนี้ถือการพบกันที่ไม่พอเหมาะพอเหมาะเจาะสำหรับ ลิเวอร์พูล เท่าไหร่ เมื่อต้องมาเจอ "จิ้งจอกสยาม" ในช่วงกำลังมาแรงจนทีมใหญ่ ๆ ต้องขยาด บวกกับปัญหาในตำแหน่งมิดฟิลด์และแนวรับที่ต้องปรับแก้กันยกใหญ่ ดูแล้ว คล็อปป์ มีปวดหัวแน่!! เกมนี้ลุ้นให้ทีมเก็บแต้มได้ถือว่าโอเคแล้วครับ

ฟันธง : ลิเวอร์พูล เสมอ 1-1