คุยสบายๆ กับ เจอร์ราร์ด : ความคาดหวังที่มีต่อทีมในฐานะแฟนหมายเลข 1

คุยสบายๆ กับ เจอร์ราร์ด : ความคาดหวังที่มีต่อทีมในฐานะแฟนหมายเลข 1

     สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตจอมทัพระดับตำนานชาวอังกฤษ มุ่งมั่นรอคอยที่จะได้เฉลิมฉลองคริสต์มาส แบบจัดเต็มเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี หลังจากเขาได้กลับมายัง ลิเวอร์พูล บ้านเกิดในระหว่างที่ เมเจอร์ ลีก ปิดฤดูกาล และเขาได้วางแผนที่จะได้สนุกสนานไปกับช่วงเวลาแห่งความสุข พร้อมกับครอบครัวให้จุใจเสียที

เปิดใจไม่เคยได้ผ่อนคลายกับครอบครัวเต็มๆ

     "ผมกำลังจะได้ทำอะไรที่อยากทำบ้าง การทานอาหารเยอะๆ, จิบไวน์เพลินๆ ผมกำลังจะได้สนุกกับตัวเอง มันเป็นคริสต์มาสแรกที่ผมจะได้พักสักทีนับตั้งแต่เป็นเด็กอคาเดมี่ ดังนันผมจึงรอคอยที่จะได้อยู่สนุกกับครอบครัว หลังไม่ได้รับอนุญาตให้ทำแบบนี้มาหลายปี"

เจอร์เก้น คล็อปป์ คือกุนซือที่ประทับใจมานาน

     "พูดถึง คล็อปป์ ความประทับใจของผมจากมุมมองคนภายนอกคือผมชอบเขามาก ผมชอบความน่าดึงดูดใจเวลาที่เขาปรากฎบนกล้อง ผมชอบแท็คติกของเขาและผมชื่นชม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาตลอด เขาเป็นคนที่ผมจับตาดูอย่างใกล้ชิดใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ผมเป็นแฟนตัวยงของเขาเลย แต่ตอนนี้ผมได้เจอและทำงานกับเขาแล้ว"

     "ผมเคยได้ทานกาแฟกับเขาและเมื่อเสร็จสิ้น ก็ทำให้ผมมีความสุขมาก ผมรู้สึกดีจริงๆ และผมไม่ใช่ผู้เล่นในทีมแล้ว ดังนั้นผมจึงได้แต่จินตนาการเท่านั้นในสิ่งที่เขาทำกับผู้เล่นภายในห้องแต่งตัว"

     "บรรยากาศในสโมสรยอดเยี่ยมมาก ผู้เล่นดูคึกคักเสียงดังไปทั่วสนามซ้อม และมีรอยยิ้มทั่วทุกแห่งหน ผมคิดว่าเขาเข้ามายกระดับทีม เขาต้องการให้ผู้เล่นรอบตัวเขาสนุกไปด้วยกัน เขาไม่ต้องการให้เครียด, กังวล หรือหนักใจ เขาต้องการจะรับความกดดันทั้งหมดไว้ที่ตัวเอง"

     "ผมชอบแนวทางที่เขาใช้รับมือกับผู้เล่นแต่ละคน ผมชอบวิธีการที่เขาใช้กับทีม และผมยอมรับในแท็คติกของเขา ผมได้แค่มองเขาจากด้านนอก แต่ก็ได้ทำงานร่วมกับเขา ดังนั้นมันจึงเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม ในฐานะแฟนบอล ลิเวอร์พูล ผมพอใจมาก"

เสียดายตัวเองอายุเยอะเกินกว่าจะเล่นให้ทีม

     "ถ้าผมยังเป็นผู้เล่นที่ ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะตอนเป็นเยาวชนหรือช่วงที่พีก แล้วจู่ๆ เจอร์เก้น คล็อปป์ เดินมาเคาะประตู ผมคงต้องเลียริมฝีปากตัวเองด้วยความสุข"

     "ผู้เล่นในทีมควรจะต้องตื่นเต้น ผมคิดถึงตัวเองว่าถ้ายังอายุสัก 25-26 ผมคงมีความสุขและตื่นเต้นจริงๆ ที่จะได้ทำงานกับเขา ดังนั้นผู้เล่นในทีมคงต้องตระหนักว่านี่คือโอกาสที่พวกเขาจะได้ประสบความสำเร็จใน 2-4 ปีข้างหน้า ตราบที่เขายังอยู่ที่นี่ ถ้าไม่มีใครคิดแบบนี้ก็คงจะผิดปกติเกินไปแล้ว"

ทำใจหนักมากกับการทำได้เพียงแค่ดูทีมเล่น

     "ผมยอมรับแบบแมนๆ เลยว่ามันฆ่าผมทั้งเป็น ตอนที่ต้องมานั่งดู ลิเวอร์พูล เล่นในฐานะแฟนบอลเป็นครั้งแรก มันเกลียดมาก ผมรู้สึกอึดอัดท้องไปหมด แต่ตอนนี้ผมคุ้นเคยแล้วและผมมีความสุขดี"

     "ชัดเจนว่าเราต่างต้องการประสบความสำเร็จในการเป็นแชมป์ลีก แต่การหวังสูงขนาดนั้นไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ผมไม่คิดว่าการพูดคุยเรื่องการคว้าแชมป์จะยุติธรรมกับผู้จัดการทีมหรือผู้เล่น พวกเขาทำได้เพียงแค่สู้กันแบบนัดต่อนัด และพื้นที่ท็อปโฟร์ยังคงเป็นเป้าหมายหลัก"

เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาระเบิดความตึงเครียด

     "ย้อนมองไปในช่วงท้ายๆ ที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังคุมทีม คุณจะเห็นความผิดหวังมากมายจากแฟนบอล และผมคิดว่ามันส่งผลต่อผลงานในสนาม ผู้เล่นต่างพากันเครียดและกังวลใจ ผมรู้สึกแบบนั้นในช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว มันเป็นเรื่องปกติยามที่ผลการแข่งขันไม่เป็นไปด้วยดี"

     "สิ่งที่ เจอร์เก้น ทำนั้นคือสิ่งที่ เบรนแดน เคยได้ทำเมื่อตอนที่เขามาคุมทีมในตอนแรก นั่นคือการพยายามและปลดปล่อยความกดดันและความคาดหวังออกไปจากตัวนักเตะ และปล่อยให้ทีมเล่นฟุตบอลอย่างเป็นตัวของตัวเอง"

ไม่มีทีมไหนเป็นเต็งแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ปีนี้

     "ถ้ามีใครสักคนเสนอถ้วยรางวัลให้ผมและพื้นที่ท็อปโฟร์ในตอนนี้ ผมก็อาจจะรับไว้ แต่ผมคิดว่าเรามีโอกาสที่จะได้ลุ้นแชมป์ลีกเพราะไม่มีใครทิ้งห่างใครในซีซั่นนี้ ปกติช่วงเวลานี้คุณมักเห็นว่า เชลซี หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มักจะยังไม่แพ้ใครเลย"

     "ไม่มีสักทีมที่จะแพ้เพียงแค่ 2 เกมก่อนจบฤดูกาลนี้ ไม่ใช่แค่ ลิเวอร์พูล แต่รวมทั้ง อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม นี่เป็นฤดูกาลแรกในรอบ 2-3 ปีที่ เชลซี และ ซิตี้ ไม่ใช่ตัวเต็ง ดังนั้นนี่คือโอกาสดีที่เราจะได้ขับเคี่ยวแชมป์ลีก"

อยู่อเมริกาต้องแหกขี้ตาเชียร์ทีมรักตั้งแต่เช้า

     "การติดตามข่าวใน พรีเมียร์ ลีก ที่อเมริกาดูจะง่ายกว่าที่สหราชอาณาจักร ที่นั่นคุณมีทางเลือกในการรับชมเกมที่คุณต้องการ คิดเดียวที่ผิดหวังคือผมต้องตื่นแต่เช้ามาดูเกมตั้งแต่ 6 หรือ 7 โมง แต่ผมก็ต้องทำ ในฐานะแฟนบอลผมหวังว่า ลิเวอร์พูล จะก้าวต่อไปและมีลุ้นให้มากที่สุดในซีซั่นนี้"