พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- สวอนซี ซิตี้ (23.15 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- สวอนซี ซิตี้

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2015 เวลา 23.15 น.

สนาม แอนฟิลด์

ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์

     คืนวันอาทิตย์นี้ ลิเวอร์พูล จะเตรียมทำศึก พรีเมียร์ ลีก แมตช์ซูเปอร์ซันเดย์ด้วยการรอพบ สวอนซี ซิตี้ ที่สนาม แอนฟิลด์ พร้อมความหวังก้อนใหญ่ที่ปราถนามองที่ 3 คะแนนเท่านั้น เพื่อเพิ่มความหวัง ในการขยับอันดับบนตารางไปสู่พื้นที่ท็อปโฟร์ให้เร็วที่สุด หลังตอนนี้ทีมกำลังมั่นใจสุดขีด จากวีรกรรมบุกไปกระทืบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 ถึง เอติฮัด สเตเดี้ยม รวมทั้งการผ่านเข้ารอบ ยูโรป้า ลีก จากการเอาชนะ บอร์กโดซื มา 2-1 เมื่อคืนวันพฤหัส ดังนั้นเกมนี้แฟนๆ มีโอกาสได้เห็นเกมสนุกๆ ในสไตล์ คล็อปป์ อีกเช่นเคย อย่าพลาดชมกันนะครับ 5 ทุ่ม 15 นาที

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     ลิเวอร์พูล ยังต้องประเมินความฟิตของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เกี่ยวกับอาการเจ็บที่เท้า ลงสนามไม่ได้มาตั้งแต่เกมกลางสัปดาห์ ส่วน ลูคัส เลว่า จะถูกแบน มี โจ อัลเลน สแตนด์บาย ขณะที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ มีอาการเจ็บเอ็นร้อยหวาย แม้จะกลับมาซ้อมได้แต่โอกาสลุ้นเล่นยัง 50-50 นอกจากนั้นยังมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาซ้อมแล้ว แต่ยังคงไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ ขณะที่ มาร์ติน สเคอร์เทล ยังมีอาการป่วยอยู่ จะเป็น โคโล่ ตูเร่ ที่รับหน้าที่แทน

สภาพทีมล่าสุด : สวอนซี ซิตี้

     ด้าน สวอนซี จะไม่มี จอนโจ้ เชลวี่ย์ ที่พลาดการกลับมาเยือนทีมเก่าเนื่องจากติดโทษแบน ขณะที่ เฟเดริโก เฟร์นานเดซ, แจ็ค คอร์ก, กิลฟี่ ซิกูรด์สัน, เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ และ บาเฟติมบี้ โกมิส มีแววได้กลับคืน 11 ตัวจริงทั้งหมด หลังพลาดลงสนามจากเกมเสมอ บอร์นมัธ 2-2 เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา

คีย์แมน

ลิเวอร์พูล : โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่

     จอมเทคนิคชาวบราซิลเลี่ยนดูจะร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่กับ ลิเวอร์พูล ฟีร์เมียโน่ ซัดไปแล้ว 1 ประตู และทำอีก 2 แอสซิสต์ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาประสานงานกับ คูตินโญ่ ได้อย่างน่าประทับใจ หากเกมนี้ คูตินโญ่ ไม่ได้ลงเล่น ฟีร์เมียโน่ ก็จะได้โอกาสสร้างอิทธิพลด้วยตัวคนเดียว แต่หากอยู่พร้อมหน้าท้ง 2 คน เชื่อว่านี่จะเป็นงานยากสำหรับแนวรับ สวอนซี ที่โหดหินแน่นอน

สวอนซี ซิตี้ : อังเดร อายิว

     อายิว สร้างผลงานได้น่าอัศจรรย์นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ สวอนซี ทั้งๆ ที่ย้ายมาแบบไร้ค่าตัวด้วยซ้ำ แต่ก็ยิงได้มากถึง 6 ประตูพร้อม 1 แอสซิสต์ แมตช์เยือน แอนฟิล์ หนนี้ เขามีสิทธิ์สร้างปัญหาให้กับ เดยัน ลอฟเรน ที่มักก่อความสะเพร่าได้เสมอ แม้ว่าจะเล่นได้รัดกุมในเกมที่ผ่านๆ มา ดังนั้นเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ต้องจำกัดพื้นที่การเล่นให้ดีที่สุดในการดวลกับ อายิว เพราะดาวเตะกานาคนนี้พร้อมล่อเป้าทำประตูได้ทุกเมื่อ

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์ : 

     "เราต้องเล่นเกมรับให้ดี และถ้าเราเล่นฟุตบอล เราสามารถหาที่ว่างได้ ก็ย่อมสร้างอันตรายแก่คู่แข่งได้ ถ้าทุกคนเตรียมตัวเพื่อมาสู้ตาย เกมนี้ย่อมเป็นเกมที่ดี"

แกร์รี่ มังค์ :

    "สำหรับเราในสัปดาห์นี้ คือการมุ่งมั่นให้ผู้เล่นทำในสิ่งที่ดีที่สุดและปรับปรุงในทุกพื้นที่ เมื่อคุณอยู่ในช่วงเวลานี้ คุณจำเป็นต้องเล่นให้สมบูรณ์แบบ เรารู้ว่านักเตะของเราสามารถทำได้"

ฟอร์มการเล่น

     เจ้าบ้านหงส์แดงผลงานในรังไม่ถึงกับดีมากนัก แต่ก็แพ้ยาก โดย 9 นัดหลังสุด แพ้เพียงแค่เกมเดียว (ชนะ 3 เสมอ 5) แต่นับทุกรายการแพ้เพียง 1 จาก 15 เกม ขณะที่ฟากหงส์ขาว อาการกำลังโคม่า 5 เกมเยือนหลังสุด แพ้ไปถึง 4 เกมและเสียประตูทุกนัดอย่างน้อย 1 ประตู

ประวัติการพบกัน

     ในแง่สถิติที่พบกันมา เป็นทาง ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ดีกว่า ชนะ 4 จาก 5 ครั้งที่พบกัน โดยผลงานที่ยับเยินที่สุดของ สวอนซี ซิตี้ ในการมาเยือน แอนฟิลด์ เกิดขึ้นในปี 1990 ที่ทีมหงส์ขาวบุกมาโดยถล่มแหลก 9-0 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 นัดรีเพลย์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ซิมง มิโญเลต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, โลโล่ ตูเร่, อัลแบร์โต้ โมเรโน่ - โจ อัลเลน, เอ็มเร่ ชาน - เจมส์ มิลเนอร์, อดัม ลัลลาน่า, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่

สวอนซี ซิตี้ (4-2-3-1) : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้, ไคลน์ นอห์ตัน, ไคท์ บาร์ทลี่ย์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, นีล เทย์เลอร์, ลีออน บริทตัน, คี ซุง-ยอง, อังเดร อายิว, แจ็ค คอร์ก, เวย์น เราท์เลดจ์, เอแดร์

ทรรศนะ Siamliverpool

     สถานการณ์ตอนนี้ ลิเวอร์พูล กำลังคึกมั่นใจมาต่อเนื่องนับตั้งแต่ถล่ม แมน ซิตี้ ในสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยรูปเกมที่ยอดเยี่ยม ตามติดด้วยการเชือด บอร์กโดซ์ มาในถ้วย ยูโรป้า จึงนับว่าเป็นงานง่ายในการเจอทีมอย่าง สวอนซี ที่เล่นนอกบ้านได้ย่ำแย่มาต่อเนื่อง และยังมีที่ท่าจะเมาหมัดดังเดิม วัดจากความกระหายของลูกทีม คล็อปป์ ที่อยากจะปลดล็อกหา 3 แต้มใน แอนฟิลด์ ในเกมลีกให้ได้เสียที จึงเชื่อว่านี่คือโอกาสดีที่สุดสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่จะเริ่มต้นในการสร้างมาตรฐานเกมในบ้านของตัวเอง

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0