อัลดริดจ์: คล็อปป์ กับแทคติกที่ไม่น่าเชื่อ - เขาคือนักเตะคนที่ 12 ของ ลิเวอร์พูล

อัลดริดจ์: คล็อปป์ กับแทคติกที่ไม่น่าเชื่อ - เขาคือนักเตะคนที่ 12 ของ ลิเวอร์พูล

     เราชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี้ และเราชนะในพื้นที่ที่พวกเขาเล่น ความจริงที่ผู้รักษาประตูของพวกเขาคือชายที่ทำให้ผลการแข่งขันไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้สำหรับเจ้าถิ่น

     มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนมันเป็นเพราะการวางหมากของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และเขาทำได้เหลือเชื่อมาก

     ผมรู้ว่าเขาใช้รูปแบบเดียวกับที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ และดูเหมือนว่าทีมงาน ซิตี้ อาจคาดการณ์ว่าพวกเขาต้องเจอกับการเน้นรับของคู่ต่อสู้ นั่นคือสิ่งที่ผมคิด

     จริงอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเจอปัญหาการขาดผู้เล่นเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่เป็นตัวหลักก็ไม่อยู่ในสนามเหมือนกัน

     คล็อปป์ เป็นผู้จัดการที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงทีมงานของเขา เขาต้องการให้ทุกคนแล่นในแนวทางที่เขาอยากให้เป็น เขามักจะมีอารมณ์ร่วมสูงจากข้างสนาม ผมชื่นชอบในความกระตือรือร้นที่เขาแสดงออกมา เขาเปรียบเสมือนผู้เล่นคนที่ 12 ของ ลิเวอร์พูล เลยล่ะยามยืนอยู่ตรงนั้น

     พวกเขาได้เก็บทุกอย่างที่ควรจะทำใส่ลงไปในงานและมันได้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่เขาวางเอาไว้ นักเตะทุกคนรู้ดีว่าต้องทำอะไรหลังดึงถุงเท้าขึ้นแล้วก้าวลงไปในสนาม นั่นคือแนวทางที่ผมทำเสมอตอนที่ผมยังเล่นที่ ลิเวอร์พูล เขาทำให้ทุกคนกลัวที่จะต้องบาดเจ็บหรือหลุดฟอร์มเพราะนั่นหมายความว่าคุณอาจต้องหลุดออกจากทีมในที่สุด

     เอาจริง ๆ นะผมไม่เคยเห็น ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ทำงานหนัก รวมไปถึง อดัม ลัลลานา ที่ดูเหมือนผู้เล่นที่ต่างไปจากเดิมอย่างงั้น ลัลลานา ก็แค่ขาดการจบสกอร์เพิ่มมากขึ้นที่จะช่วยให้เขาเป็นผู้เล่นที่รอบจัดในทุก ๆ ด้าน หากเขาเพิ่มจินตนาการไปอีกสักนิด เชื่อเหอะ เขาจะกลายเป็นผู้เล่นอย่างที่เราต้องการเลยล่ะ

     ผมดีใจอยู่เหมือนกันที่เราไม่เร่งส่ง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงในเกมนี้ ซึ่งผมคิดว่าเขาต้องเริ่มต้นจากม้านั่งสำรองหลังเพิ่งหายเจ็บกลับมา บางทีเกมกลับ บอร์กโดซ์ น่าจะเป็นโอกาสเหมาะสำหรับเขาและผมหวังว่าจะได้เห็นเขาในเกมนี้ เขาต้องการลงเล่นเช่นเดียวกับ เบนเตเก้ และ จอร์ดอน ไอบ์ แต่เมื่อโอกาสมาถึงเขาต้องฉกฉวยมันไว้

     เกมนี้มันสำคัญมากที่เราต้องนำความสำเร็จไปต่อยอดความเชื่อมั่นในเกมถัด ๆ ไป ซึ่งไอ้ความเชื่อมั่นที่ว่าเราสามารถเอาชนะใครก็ได้ที่เราเจอ จะทำให้เราทะยานไปยังหัวตารางได้ในที่สุด

ถ้า "เดอะ เร้ดส์" ยกระดับเกมในบ้านได้ทุกอย่างก็จะเปิดกว้างสำหรับเรา

     ปัญหา ลิเวอร์พุล ในตอนนี้คือการจัดการกับเกมในบ้านเพื่อโกบแต้มเป็นกอบเป็นกำ เราเคยเล่นได้อย่างน่ากลัวยามเฝ้าถิ่นและเก็บแต้มได้เป็นว่าเล่นจากคู่แข่ง ด้วยความสัตย์จริงผมเชื่อว่าเราเปลี่ยนมันได้

     ถ้าเราเรียนรู้ที่จะสร้างความน่าหวั่นเกมในบ้านได้ มันก็จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับที่จะผลักดันทีมไปยังตำแหน่งท็อปโฟร์

     นับตั้งแต่ทีมงานได้เข้ามายังถิ่นแอนฟิลด์พวกเขาได้เริ่มสร้างสิ่งที่แตกต่างเกิดขึ้น และ เจอร์เก้น คล็อปป์ รู้ดีว่าจะหาทางออกจากปัญหานี้ได้อย่างไร

     เขาเชื่อว่า ฟีร์เมียโน่ สามารถเล่นหน้าได้ แล้วทำไมเขาจะทำให้ เบนเตเก้ เล่นร่วมกับ สเตอร์ริดจ์ ไม่ได้ถ้าทั้งคู่ฟิตเต็มถัง นักเตะทั้งสองคนมีสไตล์การเล่นและการเคลื่อนไหวที่ต่างกัน คล็อปป์ ชาญฉลาดพอที่จะดึงจุดเด่นของพวกเขามาใช้ได้อย่างไร

สเคอร์เทล กับประตูปิดชีพ ซิตี้ ในเกมนี้

     เดยัน ลอฟเรน ได้โอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งในยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ เขามักก่อความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงตลอดขวบปีที่ผ่านมา นั่นเป็นเหตุผลง่าทำไมเขาถึงตกอยู่ที่ม้านั่งสำรอง

     ไม่มีใครหรอกที่จะเป็นผู้เล่นที่แย่ในชั่วข้ามคืน เราทุกคนจำได้ว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีเพียงใดตอนอยู่กับ "นักบุญ" เขายังต้องพยายามอีกมากเพื่อเรียกความเชื่อมั่นเหล่านั้นกลับคืนมา แต่เกมวันเสาร์มันช่วยเขาได้นะ

     ในฐานะที่เขาเป็นพาสเนอร์ในแนวรับร่วมกับ สเคอร์เทล ไม่ใครคิดว่า ซิตี้ จะยากเย็นกับการผ่านสองแนวรับคู่นี้ไปได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกันไม่มีใครคาดคิดว่า สเคอร์เทล จะซัดประตูใส่เจ้าถิ่นคืนเสียด้วย!!  

     ในใจใครหลายคนอาจรู้สึกว่า ประตูที่เราเสียให้กับความเวิลด์คลาสของ อเกวโร่ เป็นสิ่งที่อยากเกินจะป้องกันจนต้องปล่อยให้พวกเขาคิดไปว่ามีโอกาสกลับสู่เกม