วันของเทพฟีโน่!! ไปดูคะแนนความสามารถเกมเชือด บอร์นมัธ 1-0 กัน

วันของเทพฟีโน่!! ไปดูคะแนนความสามารถเกมเชือด บอร์นมัธ 1-0 กัน

อดัม บ็อกดาน 7/10

     โชว์ฟอร์มสั่งการได้น่าประทับใจมากสำหรับนายด่านฮังการี เขาเซฟประตูสวยๆ ได้จากจังหวะยิงของ จูเนียร์ สตานิสลาส และลูกยิงไกลอีก 2 หนจากมิดฟิลด์ทีมเยือนอีก 2 หนในครึ่งแรก แม้ว่า บ็อกดาน จะยังไม่พร้อมแทนที่ ซิมง มิโญเลต์ ในเวลานี้ แต่ฟอร์มในเกมนี้ของเขาแจ๋วจริงๆ ไม่ก่อความผิดพลาดใดๆ เลย

นาธาเนี่ยล ไคลน์ 7.5/10

     ค่ำคืนนี้ ไคลน์ รับบทแบ็กซ้าย และฉายฟอร์มที่ยอดเยี่ยมออกมาในบทบาทที่ไม่คุ้นตา ดาวเตะวัย 24 ปี ซัดให้ทีมออกนำในนาทีที่ 17 และครองบอลได้ดี คุมเกมรับก็เด่นด้วยความจัดจ้านตั้งแต่นาทีแรกจนวินาทีสุดท้าย

โคโล่ ตูเร่ 5.5/10

     กองหลังไอวอเรี่ยนอุตส่าห์ได้ลงสนามทั้งทีก็มีเวลาน้อยเหลือเกิน เพราะเกิดบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย ทั้งที่ๆ นาฬิกาเพิ่งจะขยับไปแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง ซวยจริงๆ น้าโคโล่ของพวกเรา

เดยัน ลอฟเรน 6.5/10

     เริ่มต้นเกมก็ทำท่าจะเล่นไม่ค่อยดีเท่าไรในแง่การเข้าปะทะ แต่พอเวลาผ่านไป ลอฟเรน ก็เร่งฟอร์มสู่การเป็นหัวใจในเกมรับอย่างแท้จริง แมตช์นี้เขาพิสูจน์ให้เห็นว่าเขารับมือกับจังหวะอันตรายๆ จากคู่แข่งได้ดีกว่าที่ใครๆ คิด

คอนเนอร์ แรนดัลล์ 6.5/10

     เกมนี้ แรนดัลล์ ดูจะประหม่ากับเกมไม่ใช่น้อยในการประเดิมตัวจริงครั้งแรกให้ ลิเวอร์พูล แต่แม้ว่าเขาจะล้มเหลวในแง่การเติมเกมรุกในบทบาทแบ็กขวา แต่อีกด้านเขาก็พยายามเล่นบอลแบบง่ายๆ และไม่พยายามดันสูงเพื่อหลุดจากตำแหน่งมากนัก

โจ อัลเลน 6.5/10

     อัลเลน ดูจะยังต้องพัฒนาฟอร์มอีกมากถ้ายังหวังจะเล่นให้ ลิเวอร์พูล ในระยะยาว เพราะภาพรวมในเกมนี้เขาเล่นได้ธรรมดามาก จัดว่าน่าผิดหวังถ้าเทียบกับดีกรีนักเตะทีมชาติเวลส์รายนี้ ดูสับสนและไม่ค่อยสร้างประโยชน์ในแดนกลาง อีกทั้งระดับความขยันและความมุ่งมั่นก็ต่ำมากกว่าที่เคยเป็นมา

คาเมร่อน บรานนาแกน 6/10

     เล่นด้วยความเงียบเชียบเหลือเกินสำหรับ 1 ใน 3 ดาวรุ่งของคืนนี้อย่าง บรานนาแกน เกมนี้ เขาดูจะเล่นด้วยความยากลำบาก กระท่อนกระแท่นและไม่ค่อยอยู่ในเกมเท่าไร แต่หน้าที่อื่นๆ ก็ไม่บกพร่องนักในแง่ของการครองบอลที่เยือกเย็นและไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้ทีม

ชูเอา คาร์ลอส เตเซร่า 7/10

     แม้ว่าเกมนี้จะเป็นครั้งแรกที่ เตเซร่า ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้ทีม แต่ภาพรวมที่ออกมา จับว่าน่าพึงพอใจมากๆ ถ้าเทียบกับความคาดหวังที่ไม่ได้มากมายจากแฟนบอล ดาวรุ่งโปรตุเกสเกือบได้เฮแล้วจากจังหวะตอกส้นทำประตู แต่ติดตัวคุมเส้น ก่อนจะเป็น ไคลน์ ที่ซ้ำดาบสองเป็นประตูชัย นอกจากนั้นยังฉลาดมากยามที่ครองบอล ทำงานหนัก และดูจะมั่นใจได้มากกว่านี้ถ้าได้เล่นต่อเนื่องในสัปดาห์ต่อๆ ไป

จอร์ดอน ไอบ์ 7/10

     โดนกองเชียร์ด่ามาเยอะสำหรับ ไอบ์ ในซีซั่นนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าแมตช์นี้ เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำเกมรุกได้ดุดันที่สุดคนหนึ่งในพื้นที่กราบขวา ไอบ์ วัย 19 ปี โชว์ให้เห็นถึงการตัดสินใจที่เฉียบขาดมากขึ้นเมื่อลุยไปถึงพื้นที่สุดท้าย ด้วยความเร็วและพละกำลังของเขา ถ้าเล่นได้แบบนี้ต่อเนื่องในนัดต่อๆ ไป เชื่อว่าแฟนๆ ยิ้มออกและพร้อมให้อภัยแน่

โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ 8/10 (แมนออฟเดอะแมตช์)

     ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในที่สุดเทพฟีโน่ก็ปล่อยของจนได้ เกมนี้ ฟีร์เมียโน่ จี๊ดจ๊าดสมราคา 29 ล้าน ด้วยชั้นเชิงและเทคนิคที่แตกต่างจากทุกคนในสนาม ทั้งยังโชว์การจับบอลที่นิ่มนวล, การเคลื่อนที่หาช่อง และมุ่งมั่นขยันทำเกมชวนให้เพลินตาในฐานะผู้ชม และเชื่อได้เลยว่านับจากนี้เขาจะกลายเป็นคีย์แมนคู่ใจของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แน่ ถ้าวัดจากคำสัมภาษณ์ที่ชื่นชมหลังเกม

ดิว็อค โอริกี 5/10

     โอริกี ยังไงก็ยังแย่วันยังค่ำ เกมนี้เขาไม่มีอะไรดีพอสักอย่าง ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลยให้ทีม จริงอยู่ว่าดาวรุ่งเบลเยี่ยมอาจจะทำได้ดีในจังหวะกดดันที่ช่วยให้ ไคลน์ ได้ซัดประตูชัย แต่นอกจากนั้นมีแต่ความน่าผิดหวังที่สุด บทบาทตัวพักบอลเขาทำไม่ได้อย่างที่ คล็อปป์ คาดหวังไว้ ไม่นับการครองบอลการลากเลื้อย ที่ดูมุมไหนก็สอบตกไปเสียหมดเลย

สำรอง

มาร์ติน สเคอร์เทล (แทน ตูเร่ นาที 33) 6.5/10

     สเคอร์เทล ลงมาทำหน้าที่เกมรับได้ดีตลอด 60 นาทีในสนาม และมีช็อตสำคัญที่โหม่งสกัดสวยๆ ช่วยให้ทีมไม่ต้องเจอเรื่องยากลำบากที่ แอนฟิลด์

ลูคัส เลว่า (แทน บรานนาแกน นาที 65) 6.5/10

     มหาเทพบราซิลเลี่ยนถูกส่งลงมาใช้ความเก๋าเพื่อสร้างความนิ่งในแดนกลาง เกมนี้ ลูคัส ได้แอบส่องไกลไปติดเซฟ อดัม เฟเดอริซี่ ไป 1 ดอกซะด้วย ร้ายจริงๆ

อดัม ลัลลาน่า (แทน ฟีร์เมียโน่ นาที 86) ไม่มีคะแนน

เจอร์เก้น คล็อปป์ 7/10

     กุนซือเยอรมันคงต้องพึงพอใจมากๆ สำหรับผลชนะนัดแรกของตัวเองในคืนนี้ เขาตัดสินใจถูกต้องที่เลือกปล่อยเด็กๆ อย่าง แรนดัลล์, บรานนาแกน และ เตเซร่า ลงมาเล่น และใช้ ฟีร์เมียโน่ เป็นตัวจริงซึ่งทั้งหมดล้วนสร้างแรงบันดาลใจและความแตกต่างจากไลน์อัพชุดใหญ่เสียด้วยซ้ำ แม้จะมีบททดสอบใหญ่กับ เชลซี รอคอยในวันอาทิตย์นี้ แต่ คล็อปป์ ก็ย่อมภูมิใจได้เลยที่เขายังไม่เสียสถิติแพ้ให้ใครใน แอนฟิลด์