หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / Exclusive : สัมภาษณ์พิเศษของ เจอร์เกน คลอปป์ ครั้งแรกกับ ลิเวอร์พูล

Exclusive : สัมภาษณ์พิเศษของ เจอร์เกน คลอปป์ ครั้งแรกกับ ลิเวอร์พูล

BaBaOK 2015-10-09 18:46:34 ดอร์ตมุนด์ , คลอปป์
Exclusive : สัมภาษณ์พิเศษของ เจอร์เกน คลอปป์ ครั้งแรกกับ ลิเวอร์พูล

     เจอร์เก้น คลอปป์ ให้สัมภาษณ์พิเศษครั้งแรกกับทาง LFCTV GO เผยให้เห็นถึงการวางแผนคุมทีมที่ออกมาจากวิสัยทัศน์ของเขา สำหรับอนาคตของ "หงส์แดง"

     ท่ามกลางภารกิจแรกของเขาในฐานะผู้จัดการทีม คือการนั่งลงให้สัมภาษณ์กับสื่อของสโมสรเป็นเวลาถึง 25 นาที พูดถึงการตัดสินใจกุมบังเหียนที่แอนฟิลด์ และปรัชญาของเขาที่จะมาพร้อมกับการเป็นผู้นำที่มีสเน่ห์

เจอร์เก้น, ยินดีต้อนรับสู่สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลครับ

     ขอบคุณมากครับ

คุณรู้สึกยังไงบ้าง?

     มันยอดมาก! ผมไม่มีคำพูดอื่นใดสำหรับสิ่งนี้ มันเป็นวันที่บ้ามากกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเยอรมันและที่เกิดขึ้นที่นี่เมื่อเราลงจอดที่สนามบิน แน่นอนว่ามันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดสำหรับผมและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้อยู่ที่นี่ ผมต้องขอบอกว่ามันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของผม ผมมาที่นี่พร้อมกับครอบครัว ไม่ใช่ทั้งครอบครัวนะ ลูกชายของผมคนหนึ่งยังอยู่ที่บ้าน แต่เราอยู่ที่นี่ด้วยกันและมันรู้สึกเหมือนกับความฝันเลยหล่ะ

อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดคุณมายังสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล?

     ทุกอย่างเลย ทั้งหมดที่ผมเคยได้ยิน ทั้งหมดที่ผมเคยอ่าน ทั้งหมดที่ผมรู้สึกเมื่อได้เห็น แม้จะไม่ใช่หลายๆแมตช์ในชีวิตผม แต่บางเกมมันสำคัญมาก ผมรักฟุตบอลและความเข้นข้นของฟุตบอลในลิเวอร์พูลมันดีสำหรับผมมากๆ ผมคิดเสมอเกี่ยวกับการทำงานในอังกฤษ เพราะสไตล์การเล่นและความเข้มขนของฟุตบอล และลิเวอร์พูลก็เป็นตัวเลือกแรก ตอนนี้ผมได้รับโอกาสทำงานที่นี่แล้ว มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมจะสามารถจินตนาการได้

อะไรคือสิ่งจำเป็นในการตัดสินใจ หรือคุณอาจพูดได้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ง่าย?

     มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ยากที่สุด ผมหมดสัญญากับดอร์ตมุนด์เมื่อสี่เดือนก่อน และผมคิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำในอนาคต ผมพัฒนาตัวเอง คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา แต่จากนั้นผมก็ได้หยุดพักเป็นเวลากว่า 4 เดือน และนั่นมันก็มากพอแล้ว มันยอดเยี่ยมมาก แต่มันมากพอแล้ว เจ้าของทีมมีความฝันและผมก็มีความฝัน และดั้งนั้นไม่มีอะไรที่พวกเขาต้องพูดให้มากความเพื่อให้ผมมาอยู่ที่นี่

เรารู้ว่าคุณตัดสินใจพักจากวงการฟุตบอล สิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากช่วงเวลานั้นมีอะไรบ้าง?

     หลายๆสิ่งเลยหล่ะ หลังจากสี่สัปดาห์ที่วันหยุดเริ่มขึ้น ในสี่สัปดาห์แรก มันเป็นเหมือนเช่นเคย ผมเหนื่อยเพราะผมทำงานยาวๆมา 15 ปี ในฐานะผู้จัดการทีม ตลอดจนกระทั่งวันสุดท้ายของฤดูกาล ผมต้องทำงานเพราะคุณมองไปที่ประวัติเล็กๆน้อยๆในวงการฟุตบอลของผม มันเป็นเหมือนเดิมจนกระทั่งวันสุดท้าย ผมถูกมองเป็นผู้ชายสำหรับ 34 หรือ 38 แมตช์การแข่งขัน แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากจริงๆ แต่จากนั้นผมพยายามผ่อนคลายและผมรู้สึกเหมือนว่าผมไม่ได้เป็นแค่ผู้ชายสำหรับฟุตบอลเท่านั้น ผมสนใจในหลายๆสิ่งที่แตกต่างออกไป และมีการพบปะพูดคุยที่สมบูรณ์แบบเกียวกับฟุตบอลกับบางคนที่ฉลาดและสมาร์ทมากๆ พูดคุยเกี่ยวกับโภชนาการและพูดคุยเกี่ยวกับหลายๆสิ่ง จากนั้นผมรู้สึกว่าถ้ามีบางคนสนใจโทหาผม ผมเตรียมตัวพร้อมแล้ว ตอนนี้ผมผ่อนคลายมากจริงๆ หลังจาก 15 ปีที่ผ่านมา มันเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมาก ผมมีช่วงเวลา 6 ปีที่เจ๋งมากๆๆๆที่ดอร์ตมุนด์ และหนึ่งปีที่ยากลำบากในปีสุดท้าย แต่โดยรวมแล้วมันเพอร์เฟ็คต์ แต่ผมต้องการทำสิ่งใหม่ๆและตอนนี้ผมก็อยู่ที่นี่แล้ว

พูดเกี่ยวกับแอนฟิลด์กันหน่อย คุณเฝ้ารอแค่ไหนที่จะทำให้มันเป็นเหมือนบ้านของคุณและกลายเป็นผู้จัดการทีมสำหรับแฟนบอล?

     ภาษาอังกฤษของผมไม่ดีพอจะอธิบายสิ่งนี้หรอก! ไม่ใช่ในช่วงเวลานี้ คุณจะต้องถามผมเกี่ยวกับสิงนี้เมื่อไม่กี่เดือนข้างหน้าอีกครั้ง แต่แน่นอน ผมตื่นเต้นมากๆ ผมต้องการเห็นมัน ผมต้องการรู้สึกถึงมัน ผมต้องการได้กลิ่นของมัน ผมต้องการทำทุกอย่าง เมื่อตอนผมมาที่นี่กับดอร์ตมุนด์เมื่อปีก่อน ผมตื่นเต้นจริงๆ มาเข้ามาข้างในและมองเห็นห้องแต่งตัวของทีมเยือนและถามตัวเองว่า ถ้าผมจำเป็นต้องระบายสีบางอย่างหรืออะไรแบบนี้ว่า "ดาร์บี้แมตช์เริ่มขึ้นแล้วตอนนี้!" คุณเข้าไปในห้องแต่งตัวและคุณคิด "โอเค พวกเขาต้องการเตะพวกเรา!" สำหรับผม มันเรื่องของประวัติศาสตร์ มันเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยม ผมเคยไปหลายๆที่บนโลกนี้กับวงการฟุตบอล แต่นี่คือสถานที่ที่พิเศษที่สุดที่ผมเคยเจอ สนามของโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค เป็นสนามที่ยอดเยี่ยมและผมมีอีกความเพอร์เฟ็คต์เล็กๆ อย่างเช่นสนามเล็กๆของไมนซ์ 05 แต่ที่นี่ (แอนฟิลด์) มันสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์มากที่สุด ผมเฝ้ารอที่จะไปที่นั่นและในช่วงเวลานี้ผมไม่รู้ว่าผมจะรู้สึกอะไร แต่มันจะต้องเป็นเรื่องดีแน่นอน

มันจะต้องพิเศษมากๆที่ได้เข้าไปในห้องแต่งตัวของทีมเหย้า...

     ใช่เลย แน่นอน ผมหวังแบบนั้น...ผมแน่ใจ!

มันสำคัญแค่ไหนที่คุณจะมีหรือสร้างการสัมพันธ์พิเศษกับกองเชียร์?

     ผมเข้าใจฟุตบอลดี ถ้าผู้คนที่ไม่ได้สนใจในฟุตบอล เราสามารถวางแท่งไม้ในสนามและเล่นฟุตบอลได้ มันยังคงเป็นเกมการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ มันยังคงเป็นเกมเดิมเสมอ แต่มันเป็นเพียงเกมนี้เท่านั้น(ระดับมืออาชีพ)เพราะแฟนบอล นั่นคือสิ่งที่ผมรู้ สิ่งที่ผมคิด สิ่งที่ผมรู้สึก เราต้องเอนเตอร์เทนพวกเขา เราต้องสร้างชีวิตพวกเขาให้ดีขึ้น นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำเพราะฟุตบอลไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญ เราไม่ได้ช่วยชีวิตหรือหลายๆสิ่งแบบนั้น เราไม่ใช่หมอ มันเป็นงานของเราที่จะปล่อยให้พวกเขาลืมปัญหาในเกมการแข่งขัน 90 นาที และจากนั้นพวกเขาสามารถพูดคุยต่อได้อีกสามวันเกี่ยวกับเกมที่ผ่านมาและพูดคุยเกี่ยวกับเกมต่อไปในอีกสองวัน นั่นคือวิธีที่เราต้องการใช้ชีวิต ถ้าผมไม่ได้เป็นผู้จัดการทีม ก็มีหนทางให้ผมมีชีวิต เพราะผมรักเกมการแข่งขันนี้มาก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงพยายามใกล้ชิดกับแฟนบอลให้มากที่สุด แต่ก็ไม่เสมอไปที่จะใกล้ชิดกับแฟนๆได้เพราะงาน ผมต้องทำงานและจำเป็นต้องใช้เวลา ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งที่แฟนบอลต้องการเสมอไป แต่มันก็มักจะเป็นไปได้เสมอ

แต่คุณรู้สึกว่าคุณเข้าใจว่ามันคืออะไรในการเป็นแฟนบอล?

     ผมเข้าใจเสมอ บางทีในวันศุกร์ผมสามารถไปได้ทุกสถานที่ในสนามและบางคนจะบอกผมว่า "มันเกิดขึ้นแล้วที่นี่และเกิดขึ้นตรงนั้น...สตีวี่ จี ยิงจากตรงนี้, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ หรือใครก็ตาม" นั่นมันเจ๋งมากๆเลย

คุณสามารถไปมี่ไหนก็ได้ที่คุณต้องการในตอนนี้ คุณเป็นผู้จัดการทีมของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล!

ใช่เลย นั่นคือสิ่งที่สุดยอดมาก! แต่ไม่ใช่ในช่วงเวลา 90 นาทีนะ นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดของผม ซุ้มม้านั่งทั้งสองมันใกล้กันมาก มันแตกต่างกับที่เยอรมัน คุณอาจไปชนกับโค้ชหรือผู้จัดการทีมคนอื่นได้โดยอุบัติเหตุ ผมมีอารมณ์ร่วมกับเกมนิดหน่อยน่ะ!

คุณคิดว่าคุณจำเป็นต้องปรับอะไรให้เขากับฟุตบอลอังกฤษ คุณคิดว่าคุณจะปรับมันยังไง?

     แน่นอนว่าผมต้องปรับ บางทีผมจากต้องปรับ ไม่รู้สิ! แต่ในตอนนี้ผมไม่คิดเกี่ยวกับมันเลย เพราะมันคือฟุตบอล และผมรู้จักฟุตบอลอังกฤษดี ผมได้ดูหลายเกมและเคยเจอกับทีมจากอังกฤษ บางสิ่งแตกต่างแต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไรในเวลานี้ เพราะมันคือฟุตบอลเท่านั้น อย่าลืมว่ามันคือเกมและเราทั้งหมดอยู่ในกฏเดียวกัน สนามก็ขนาดคล้ายๆกัน ดังนั้นมันไม่ยาหรอก ประสบการณ์ของผมคือ ฟัง, เห็น รู้สึก และจากนั้นก็คิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเปลี่ยน ตอนนี้ผมต้องทำสามสิ่งนั้นและคิดเกียวกับสิ่งที่ต้องเปลี่ยนหรือสิ่งที่ต้องปรับหรืออะไรก็ตามแต่

อะไรคือความท้าทายที่คุณคิดว่าจะต้องเจอที่นี่ ที่ลิเวอร์พูล ซึ่งคุณเคยเจอมาแล้วที่ดอร์ตมุนด์?

     บางทีนี่อาจจะเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอลเวลานี้ (หัวเราะ) นี่เป็นงานที่น่าสนใจที่สุดในวงการฟุตบอล เพราะมันไม่เลวเลย ผมแตกต่างออกไปเพราะผมมาจากเยอรมัน ทุกอย่างเลยยังใหม่และทุกอย่างคือสิ่งที่เราต้องมีสมาธิ

คุณประเมินนักเตะในทีมที่คุณมาสานงานต่อที่นี่ ที่ลิเวอร์พูลอย่างไรบ้าง?

     มันดี มันดี ผมมาที่นี่เพราะเชื่อในศักยภาพของทีม ถ้าลิเวอร์พูลขอร้องผม และผมเห็นสภาพทีมและคิดว่า "โอ้พระเจ้า" ไม่ ไม่ ไม่ ในช่วงเวลานี้ พวกเราไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดในโลก ใครสนล่ะ? ใครต้องการเป็นทีมที่ดีที่สุดของโลกในทุกวันนี้? เราต้องการเป็นทีมที่ดีที่สุดในวันพรุ่งนี้และวันอื่นๆข้างหน้า นั่นคือทั้งหมด สิ่งที่ผมเห็นจากภายนอกมันโอเคทีเดียว ผมเห็นบางแมตช์ที่ดีและบางแมตช์ที่ไม่ดี แต่นั่นก็เป็นธรรมดาของวงการฟุตบอลที่คุณมีปัญหาบางอย่าง คุฯต้องแก้ไขมัน สิ่งสำคัญคือเรามีความเร็ว เรามีทักษะ เรามีแท็คติก เรามีกองหลังที่ดี กองกลางที่ดี ศูนย์หน้าที่ดี และปีก ตอนนี้เราต้องดูว่าใครเหมาะสำหรับสำหรับเกมแรกกับท็อตแน่ม ผมไม่ใช่นักฝัน ผมไม่ต้องการที คริสเตียโน (โรนัลโด้) หรือลิโอเรล (เมสซี่) และผู้เล่นเหล่านั้นทั้งหมดในทีม ผมต้องการชายพวกนี้ (ทีมปัจจุบัน) มันเป็นการตัดสินใจสำหรับชายพวกนี้ ตอนนี้เราเริ่มทำงานกันแล้ว

คุณสามารถบอกถึงสไตล์การเล่นที่เราคาดหวังได้มั้ย?

     เยี่ยงสัตว์ป่า (หัวเราะ) สิ่งแรกเลย ตลอดชีวิตของผม คุณจำเป็นต้องมีเกมรับที่มั่นคง เพราะคุณต้องยืนหยัดอย่างมั่นใจในเกม เมื่อคุณรู้ว่าคู่ต่อสู้จะบุกเข้ามาทำประตู นั่นคือสิ่งแรกเลยเมื่อคุณเริ่มพัฒนา ไม่มีใครเริ่มจากหัวตารางหรอก เราเริ่มกันตั้งแต่วันนี้, พรุ่งนี้ เลยก็ได้ เมื่อนักเตะกลับมา มันดีสำหรับผมที่ได้มาที่นี่ และได้มีเวลาเล็กน้อยที่ได้เข้ามาในสโมสร แต่ก็ไม่ดีที่ไม่สามารถเริ่มการซ้อมได้ทันที ผมคิดว่าเราอาจจะสามารถเริ่มกันได้ในวันพุธหน้าเมื่อพวกเขากลับมากันหมดแล้ว และเราจะได้เห็นว่าเราต้องทำอะไรบ้าง สไตล์ของผมคือมีอารมณ์ร่วม ผมชอบแบบนี้ ผมชอบที่จะมีอารมณ์ร่วมในเกม ผมชอบความเร็วในเกม คุณต้องเป็นคนจริงในเกม ถ้าพูดถึงความแข็งขัน ผมจะพูดถึงแค่ว่าต้องแข็งขันกับตัวเอง ต้องแข็งแกร่ง ไม่รู้สึกเจ็บหรืออะไรบางสิ่งแบบนั้น และต้องไม่แข็งขันใส่คู่ต่อสู้ เพราะผมไม่ชอบการทำฟาวล์ ผมจะได้เห็นว่าอะไรเป็นไปได้กับทีมนี้ และจากนั้นเราจะตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไรและเมื่อไหร่ อันดับแรกเลยเราทั้งหมดต้องพูดคุยกับแฟนบอลทั้งหลายเกี่ยวกับเรื่องความคาดหวัง เพราะความคาดหวังสามารถเป็นปัญหาใหญ่ได้ มันเหลือกับแบกเป้หนัก 20 กิโล มันไม่เท่เลยถ้าจะวิ่งในสภาพแบบนั้น เราต้องพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจากนั้นเราสามารถเริ่มกันได้เลย

คุณคิดว่าจำเป็นต้องใช้เวลามากมั้ยในการสร้างสไตล์และปรัชญาของคุณให้สำเร็จ

     แน่นอนมันต้องใช้เวลามากในตอนสุดท้าย แต่ไม่ใช่ตั้งแต่เริ่ม ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อสัญญาว่าจะเห็นลิเวอร์พูลโฉมใหม่ในเกมกับท็อตแน่ม แต่ลิเวอร์พูลโฉมใหม่ต้องเจ๋งแน่นอน นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามทำ ทุกอย่างในชีวิตต้องใช้เวลา ถ้าบางคนรู้สึกว่าพวกเขารอไม่ไหวที่จะประสบความสำเร็จ เริ่มมันใหม่และจากนั้นทุกอย่างจะเกิดขึ้น

มีหลายสื่อพูดถึงโครงสร้างการซื้อขายในสโมสรแห่งนี้ อะไรคือสิ่งที่คุณต้องรับมือและการสนทนาอะไรที่คุณได้คุยกับเจ้าของทีม?

     มันเป็นเรื่องตลกมากจริงๆ มันไม่มีปัญหาเลนจริงๆระหว่างผมกับ FSG เราคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันไม่มีอะไรเลย เมื่อชายสองคนที่สมาร์ท, มีความรู้ และฉลาด นั่งด้วยกันบนโต๊ะ และคุณต่างก็ต้องการในสิ่งเดียวกัน มันจะมีปัญหาได้ยังไง? เราทุกคนต่างก็ต้องการประสบความสำเร็จ ผมไม่ต้องการใช้เงินถ้าสโมสรไม่มีให้ ผมไม่ต้องการรั้งตัวถ้าเขาไม่อยากอยู่ต่อ ผมทำงานทั้งวันกับคนพวกนี้ ไม่มีใครจะขายนักเตะที่ผมต้องการทำงานด้วย แม้มันจะเป็นดีลที่ดี ไม่มีใครอยากซื้อนักเตะถ้าไม่มีคำว่า "ใช่" จากผม ดังนั้นทุกอย่างมันโอเค ผมไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้

คุณจะนำทีมงานของคุณมาทำงานด้วยมั้ย?

     แน่นอน สองพี่น้องของผมอย่าง เซลจ์โก้ และ ปีเตอร์ เป็นคนที่ยอดมาก คุณจะรู้สึกได้เมื่อได้เห็นพวกเขา พวกเขาเจ๋งมาก พวกเขาเป็นพวกบ้าบอลเข้าเส้น พวกเขาทำงานหนักและเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบในงานของผม แต่ผมต้องการคนที่ดีมากมาทำงานด้วยกัน ไม่ใช่แค่สองคนนี้ ผมเฝ้ารอที่จะพบกับทีมงานของลิเวอร์พูล ผมต้องการเรียนรู้และใช้พลังจากพวกเขาเช่นกัน

สิ่งที่คุณหวังจะประสบความสำเร็จที่นี่ในระยะสั้นและระยะยาวคืออะไร?

     แฟนบอลต้องการเห็นทีมเป็นเหมือน 5 ปี, 10 ปี, 20 ปีก่อน ประวัติศาสตร์มันยอดเยี่ยม แต่มันมีเอาไว้ให้จดจำเท่านั้น เรามีสิทธิ์ที่จะเขียนเรื่องราวขึ้นใหม่ถ้าเราต้องการ สำหรับสิ่งนั้น เราต้องสะสางบางอย่าง บางทีเราสามารถทำสิ่งนั้นได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เ(ราต้องการ) ประสบความสำเร็จถ้าเราทำได้ ผมไม่ใช่คนที่จะมาบอกว่า "ปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล" ถ้ามันเกิดขึ้น เราสามารถฉลองได้ แต่ถ้าไม่ เราต้องทำงานกันต่อไป

สุดท้ายนี้ อะไรคือสิ่งที่คุณอยากบอกกับกองเชียร์ลิเวอร์พูล?

     เราต้องเปลี่ยนจากผู้ที่สงสัยเป็นผู้ศรัทธาให้ได้ตอนนี้เลย

ADS