5 เหตุผลที่จะทำให้ หงส์แดง คว้าชัยในศึกแดงเดือดเสาร์นี้

5 เหตุผลที่จะทำให้ หงส์แดง คว้าชัยในศึกแดงเดือดเสาร์นี้

     แม้ในเกมแดงเดือดสุดสัปดาห์นี้ พลพรรคนักเตะ "หงส์แดง" จะไม่มี ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ติดโทษแบน ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่พอสมควร แต่นักเตะที่เหลือในทีมก็มีเครดิตดีพอที่จะเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมนี้

     มาดูกันว่า 5 เหตุผลที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายกำชัยในสุดยอดบิ๊กแมตช์ของเกาะอังกฤษนัดนี้ มีอะไรบ้าง ติดตามได้ข้างล่างนี้

1. เกิดความไม่สงบในแคมป์ของยูไนเต็ด

     ทุกอย่างไม่ค่อยจะดีนักที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด มีรายงานออกมาเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีว่า หลุยส์ ฟาน กัล และนักเตะซีเนียร์จำนวนหนึ่ง มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ความขัดแย้งดังกล่าว สามารถลุกลามไปถึงเกมวันเสาร์นี้ได้ และลิเวอร์พูลควรใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นคงนั้น โดยเฉพาะเมื่อนักเตะยูไนเต็ดกำลังสิ้นหวังกับการถูกจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก ถ้า "ปีศาจแดง" ถูกขึ้นนำก่อน ความคิดของพวกเขาอาจแย่ตามไปด้วย

2. คริสเตียน เบนเตเก้ จะเพลิดเพลินกับการท้าชนความแข็งแกร่งกับ คริส สมอลลิ่ง และ ดาลีย์ บลินด์

     ในวันที่เข้าฟอร์ม ไม่มีใครเอาเบนเตเก้อยู่ เกมกับอาร์เซนอลไม่กี่สัปดาห์ก่อน เขาทำให้ คาลัม แชมเบอร์ส และ กาเบรียล เจอกับช่วงเวลาที่ร้อนระอุ และกับ สมอลลิ่ง และ บลินด์ ห่างไกลจากการนักเตะที่แข็งแกร่งที่สุด เบนเตเก้จะต้องเลียปากรอดวลกับพวกเขาในเกมวันเสาร์นี้แน่ๆ ถ้าเบนเตเก้เกิดฟอร์มเข้าฝักขึ้นมา ลิเวอร์พูลจะต้องแฮปปี้ดี๊ด๊าอย่างแน่นอน

3. ลิเวอร์พูลเล่นเกมเยือนได้ดีกว่าเกมเหย้าในซีซั่นนี้

     ถูกต้องแล้วที่พรีเมียร์ ลีก เพิ่งเปิดฤดูกาลได้ 4 นัด แต่รูปแบบของผลการแข่งขัน ก่อให้เกิดการถกเถียงที่แปลกประหลาด พวกเขาพบว่าตัวเองเล่นเกมเยือนได้ดีกว่าเกมเหย้างั้นเหรอ? เพียง 9 จาก 40 เกมจนถึงตอนนี้ ที่ลิเวอร์พูลเอาชนะในบ้าน และล่าสุดก็เพิ่งแพ้แบบยับเยินให้กับเวสต์ แฮม ในเกมล่าสุด ฟอร์มของ "หงส์แดง" ในเกมกับอาร์เซนอล อาจจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าพวกเขาทำผลงานเมื่อออกนอกบ้านได้ดีกว่า ด้วยรูปแบบการเล่นแบบโต้กลับ แทนที่จะกดดันไล่แย่งบอลจากคู่แข่ง แฟนบอลของยูไนเต็ดจะเรียกร้องให้ทีมรักของพวกเขาบุกแบบเต็มสูบ ซึ่งอาจทำให้เปิดช่องโหว่เข้าทางผู้มาเยือน

4. ยูไนเต็ดขาดความสามัคคีในเกมรุก

     เกมรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเหมือนหมุดสี่เหลี่ยมในรูที่เป็นทรงกลม "ปีศาจแดง" ต้องดิ้นรนในการสร้างสรรค์ทุกๆอย่าง พวกเขาไม่เคยทำประตูได้มากกว่าหนึ่งลูกเลยในพรีเมียร์ ลีกซีซั่นนี้ และ เวย์น รูนีย์ ก็ต้องลงลึกและลึกกว่าเดิมเพื่อมีส่วนร่วมกับเกม ขณะที่แนวรับของลิเวอร์พูลก็ห่างไกลจากความน่าเชื่อถือ ยูไนเต็ดจะไม่ได้ยิงทุกครั้งที่บุกไปถึงหน้าประตู ดังนั้น มาร์ติน สเคอร์เมล และเพื่อนร่วมแดนหลังจึงไม่มีอะไรให้กังวลใจมากนักในเกมนี้

5. โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่มีความน่าเกรงกลัวอีกต่อไป

     แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติเกมเหย้าอันน่าประทับใจในซีซั่นก่อน มีเพียง สวอนซี, เซาท์แฮมป์ตัน และ เวสต์ บรอม เท่านั้น ที่บุกไปเอาชนะพวกเขาได้ แต่มันดูเหมือนว่าความน่าเกรงกลัวในโอลด์ แทรฟฟอร์ดได้เสื่อมลงในไม่กี่ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่ามันไม่ใช่โอกาสที่น่ากลัวเหมือนเคย ด้วยเกมลีกในซีซั่นนี้ที่ผู้เล่นของยูไนเต็ดต้องดิ้นรนพิสูจน์ตัวเองให้ได้ตามความต้องการของทั้งผู้จัดการทีมและแฟนบอล ลิเวอร์พูลจะไม่ถูกข่มขู่มากนักในการไปเยือนครั้งนี้ และอาจจะผ่อนคลายแม้จะรู้ว่าพวกเขาเป็นทีมรองบ่อนกว่าเล็กน้อยในเกมนี้