บทวิเคราะห์ มาร์ค ลอว์เรนสัน : ได้เวลาโชว์ฟอร์มของ เอ็มเร่ จัน แล้ว

บทวิเคราะห์ มาร์ค ลอว์เรนสัน : ได้เวลาโชว์ฟอร์มของ เอ็มเร่ จัน แล้ว

เอ็มเร่ จัน คือมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีสุดของทีม

     ตอนนี้ถึงเวลาสำหรับ เอ็มเร่ จัน ในการโชว์คุณค่าในตัวของเขาให้เราดู จัน ได้โอกาสลุกจากม้านั่งสำรองใน 2 นัดที่ผ่านมาของฤดูกาลนี้ และสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในแดนกลางของ ลิเวอร์พูล

     และยิ่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่อแววว่าจะพลาดเกมไปเยือน อาร์เซน่อล ในวันจันทร์ มิดฟิลด์เยอรมันคงคาดหวังจะได้ลงเป็นตัวจริง แถม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าเขาไม่คิดใช้งาน ลูคัส เลว่า แล้ว

     ผมคิดมาเสมอว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับ จัน คือมิดฟิลด์ตัวรับ มันดีกว่าการที่จะให้เขาไปเล่นแบ็กขวา ซึ่งอาจจะเล่นดีเป็นบางครั้ง หรือแม้แต่กองหลังตัวขวาในระบบหลัง 3 ตัว

     ต่อให้ เฮนเดอร์สัน จะพร้อมลงสนาม เอ็มเร่ จัน ก็สามารถลงเล่นด้วยกันได้โดยให้ยืนลึกกว่า เพื่อทำให้กัปตันทีมและ เจมส์ มิลเนอร์ จะได้บุกมากขึ้น มันดีกว่าจะให้ 2 คนนี้ยืนจับคู่กัน เราอยากให้ เฮนเดเฮนเดอร์สัน มีบทบาทในเกมรุกมากกว่านี้

     ผมได้ชมฟอร์ม คริสติย็อง เบนเตเก้ ในเกมกับ บอร์นมัธ เขาเอาชนะตลอดในการปะทะและลูกกลางอากาศ แต่กลับเป็น ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่เล่นไม่ดีสักเท่าไรทั้งที่ยืนตำแหน่งใกล้กองหน้ามากกว่าใครๆ ดังนั้น เฮนเดอร์สัน ต้องมีบทบาทในจุดนั้น เขาต้องขยับสูงไปใกล้ เบนเตเก้ ให้มากขึ้น อ้างอิงจากสถิติการทำประตูในซีซั่นที่แล้ว พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถทำประตูจากบริเวณนั้นได้

     เกมกับ อาร์เซน่อล คือบททดสอบแรกที่แท้จริงของเรา มันชัดเจนว่าเราจะต้องเน้นเกมรับมากขึ้นในนัดนี้ เพราะ ซิมง มิโญเลต์ ก็ยังไม่ได้ถูกทดสอบฝีมือสักเท่าไร

     เราจำเป็นต้องรัดกุมและจัดการแนวรับให้ดี แต่ที่จริงพื้นที่ของมิดฟิลด์คือจุดชี้เป็นชี้ตายของเกม เพราะ อาร์เซน่อล มีตัวทะลุทะลวงจากแดนกลางที่จะคอยสอดหนีกองหลัง ลิเวอร์พูล ซึ่ง สโต๊ค และ บอร์นมัธ ต่างพยายามทำมาแล้ว ถ้าคุณคุมเกม อาร์เซน่อล ไม่ได้ พวกเขาก็จะผ่านบอลไปมาทั้งเกม

     ในการไปเยือน เอมิเรตส์ คุณจำเป็นต้องมีฟูลแบ็กรัดกุมคอยปกป้องเซนเตอร์ฮาล์ฟ และยังต้องมีมิดฟิลด์ที่รักษาตำแหน่งชัดเจน ถ้าคุณจำกัดโอกาสของ อาร์เซน่อล ในช่วง 30 นาทีแรก แฟนๆ ย่อมมีหวังแน่ในเกมนี้

     ใครจะคิดไงก็ช่างหากต้องเสมอ 0-0 แบบจืดชืด แต่มันก็คือ 7 จาก 9 แต้ม มันจะเป็นการสตาร์ทที่น่าประทับใจสำหรับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้

ไม่มีเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนแปลงแผนในตอนนี้

     ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ลิเวอร์พูล เล่นฟุตบอลไม่ได้น่าดูเท่าไรในตอนนี้ แต่เราก็เพิ่งผ่านไปแค่ 2 นัดเท่านั้น อย่าลืมว่าเรามีมีผู้เล่นใหม่รายหลายในทีม คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในสนาม เราลงเล่นไป 2 เกม ชนะทั้ง 2 เกม และไม่เสียประตูเลย

     ผมยังจำปรัชญาการทำทีมของ บิลค์ แชงค์ลีย์ ได้ นั่นคือการยึดทีมชุดเดิมจากฤดูกาลที่แล้ว เพียงแค่การเจอทีมแกร่งนัดเดียว ไม่มีเหตุผลพอที่จะต้องคิดอะไรให้มากมาย

     แน่นอนว่า โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ ก็สามารถลงมาเปลี่ยนเกมจากม้านั่งสำรองได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ต้องเปลี่ยนอะไรหรอก เบรนแดน ใจเย็นไว้

ทีมควรซื้อแบ็กซ้ายเสริมอีกสักคน

     นาฬิกากำลังหมุนไปเรื่อยๆ และตลาดซื้อขายใกล้ปิดตัวลง ผมคิดว่า ลิเวอร์พูล ยังมีธุรกิจซื้อขายที่ต้องทำอีกนิดหน่อย ดูเหมือน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะพอใจที่จะปล่อยตัว ลูคัส เลว่า ออกไป ซึ่งผมพูดมาเสมอว่าเราควรจะเก็บเขาไว้ในทีมก่อน แต่ถ้าเขาต้องไปจริงๆ ผมก็เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องซื้อกองกลางมาเพิ่ม เพราะเรามีมากพอแล้ว

     ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากได้แบ็กซ้ายมากกว่า ผมเคยพูดเมื่อ 2 วีคก่อน และผมก็จะไม่เปลี่ยนแปลงความคิดนี้ จริงอยู่ว่า โจ โกเมซ เล่นได้ดีแม้ไม่ใช่ตำแหน่งถนัด แต่เขาคงไม่ได้เล่นตรงนี้ไปตลอดหรอก

     และชัดเจนว่า โฆเซ่ เอ็นริเก้ ก็ไม่มีอนาคตแล้ว ผมคงจะไว้ไจเด็กอายุ 18 ปีไม่ได้รวมทั้ง อัลแบร์โต้ โมเรโน่ ด้วย ผมไม่ได้หมายความให้ขายเขาทิ้งนะ แต่เขาแสดงออกในเกมกับ บอร์นมัธ ว่าเขาจะเป็นทางเลือกใหม่แก่ ร็อดเจอร์ส นั่นคือตำแหน่งปีกซ่้ายที่น่าจะไปได้สวยกว่าการเล่นแบ็กซ้าย

     และยิ่งหากเราปรับแผนมาเล่นหลังสามตัว โมเรโน่ จะเหมาะยิ่งขึ้นในการเป็นวิงแบ็กซ้ายมากกว่าใครๆ ในทีมชุดนี้

     เราควรพอใจที่ชนะ บอร์นมัธ มาได้ในสัปดาห์ก่อน แม้มันจะเป็นงานที่หนักของเรา ใช่แล้ว เพราะประตูชัยนั้นมันล้ำหน้า แม้ว่า บอร์นมัธ อาจต้องลำบากใจกับการตัดสินใจดังกล่าว แต่คุณก็จำเป็นต้องมีโชคด้วย

ชนะต่อไปเพื่อรอการกลับมาของ สเตอร์ริดจ์

     แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กลายเป็นคนที่ถูกลืมของ ลิเวอร์พูล ดังนั้นมันจึงดีมากทีได้รู้ข่าวว่าเขาจะกลับมาซ้อมกับทีมใน 2-3 วันข้างหน้า มันเป็นกรณีที่คลาสสิคจริงๆ ที่ทีมกำลังชนะ และผู้เล่นที่เจ็บไปนานก็กลับมาฟิตได้อย่างรวดเร็ว

     ดังนั้นคุณคงไม่ต้องประหลาดใจเลยหากจะได้ยิน สเตอร์ริดจ์ พูดออกมาว่า "โอ้ สะโพกของผมตอนนี้มันดีขึ้นมากเมื่อรู้ว่า ลิเวอร์พูล ยังคว้าชัยชนะได้ต่อไป!"