โจ โกเมซ & อัลแบร์โต้ โมเรโน่ สูตรใหม่ฝั่งซ้ายของ ร็อดเจอร์ส ??

โจ โกเมซ & อัลแบร์โต้ โมเรโน่ สูตรใหม่ฝั่งซ้ายของ ร็อดเจอร์ส ??

     ผ่านไปแล้วสำหรับชัยชนะ 1-0 เหนือทีมน้องใหม่อย่าง บอร์นมัธ ซึ่งไม่ได้รับคำชื่นชมจากแฟนๆ ลิเวอร์พูล สักเท่าไร เมื่อมองจากฟอร์มการเล่นและทรงบอลที่ยังไม่มีท่าที่จะว่าจะดีไปกว่าเกมชนะ สโต๊ค ซิตี้ ในนัดแรก เรียกว่าโชคดีก็ว่าได้ที่เก็บ 6 คะแนนเต็ม ทั้งที่เล่นกันไม่ดี

     ประตูโทนจาก คริสติย็อง เบนเตเก้ ก็เป็นที่เอกฉันท์จากสายตาคนทั้งโลก รวมทั้ง เดอะ ค็อป เองก็ยืนยันว่าล้ำหน้าแน่นอนภายใต้กฎใหม่ของ พรีเมียร์ ลีก จากจังหวะแรกที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ พยายามเล่นบอลที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โยนเข้ามาในจังหวะแรก

     แต่กระนั้น 3 แต้มก็คือ 3 แต้ม รวมแล้วก็ 6 คะแนนเต็ม ถือว่าเป็นการออกสตาร์ทที่ดีมากๆ ของฤดูกาลนี้ แม้สื่ออังกฤษส่วนใหญ่จะเล่นกับประเด็นลูกล้ำหน้า และจังหวะที่ บอร์นมัธ ยิงเข้าไปแต่ไม่ได้ประตู แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือฟอร์มของ อัลแบร์โต้ โมเรโน่

     ตั้งแต่ปรีซีซั่นจนถึงเกมที่ 2 ในลีก แบ็กซ้ายดาวรุ่งสเปนหลุดเป็นสำรองของเด็กใหม่วัย 18 ปี อย่าง โจ โกเมซ มาตลอด ซึ่ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไว้วางใจทั้งๆ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในลีกสูงสุดมาก่อน เรียกว่าวัดกันที่โปรไฟล์ โมเรโน่ ก็เหนือกว่า ทั้งค่าตัว 12 ล้านปอนด์ เคยติดทีมชาติสเปนชุด ยู 23 และยังเคยได้รับจับตามองว่าเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดคนหนึ่งของยุโรป

     แต่ความแตกต่าง ก็คือเรื่องของเกมรับที่รัดกุม โกเมซ แสดงให้เห็นว่าเขามีดีกว่าในเรื่องนี้จากการเล่นเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟมาก่อน รวมทั้งส่วนสูงที่ได้เปรียบ ถือว่าเป็นแบ็กคนละสไตล์เลยก็ว่าได้ เพราะ โกเมซ แทบจะไม่ขึ้นเกมบุกสักเท่าไร สนใจอยู่แต่การหยุดเกมรุกด้านข้าง ขณะที่ โมเรโน่ เป็นประเภทบุกแหลกในสายเลือด คอยขึ้นสูงหาโอกาสครอสบอล หรือทำประตู

     การเลือก โกเมซ ลงสนามก่อน จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในระดับหนึ่ง อย่างน้อยทีมก็ชนะ และไม่เสียประตูเลยตลอด 2 เกมที่ผ่านมา พิสูจน์แนวคิดของ ร็อดเจอร์ส ว่าสามารถคว้าผลการแข่งขันได้ด้วยสูตรนี้

     แต่ โมเรโน่ ก็มีดีเกินกว่าจะถูกนั่งเป็นแค่สำรอง เรื่องนี้ บีร็อด ก็พอจะมองออกว่าแม้เกมรับของแบ็กสเปนรายนี้อาจจะไม่ค่อยได้เรื่อง แต่ยังสามารถยืนหยุ่นมาปรับใช้ในตำแหน่งอื่นได้ นั่นก็คือการส่งมาเล่นเป็นปีกซ้าย แทน คูตินโญ่ ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย

     แท็คติกการมีแบ็กซ้ายสองคนพร้อมกันนี้ ลิเวอร์พูล เคยทำมาแล้วในสมัยยุค ราฟา เบนิเตซ ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 กับ เอซี มิลาน ที่ใช้ทั้ง ฌิมี่ ตราโอเร่ ยืนแบ็กโดยไม่เน้นการโยนบอลหรือขึ้นเกมรุก และให้ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ขยับสูงอยู่ทางกราบซ้าย และคอยซ้อนช่วย ตราโอเร่ บ้างในจังหวะ

     โชเซ่ มูรินโญ่ ของ เชลซี ก็เคยใช้แผนนี้บ่อยๆ สมัยที่ยังมีทั้ง แอชลี่ย์ โคล และ เวย์น บริดจ์ ลงพร้อมๆ กัน เมื่อคอยประสานงานกันในฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นออปชั่นที่เน้นความปลอดภัย รัดกุม และดูเหมือน ลิเวอร์พูล ก็มีแนวโน้มที่จะเช่นนั้นอีกในฤดูกาลนี้

     ในเกมกับ บอร์นมัธ โมเรโน่ ดูจะเล่นอย่างผ่อนคลายในบทบาทนี้ เพราะเติมเกมอย่างเมามัน มาแนวๆ ปีกโบราณ โดยไม่ต้องไปพะวงเกมรับข้างหลังที่มี โกเมซ คอยสนับสนุน จนทำให้แมตช์นี้ โมเรโน่ เล่นได้โดดเด่น และมีลุ้นยิ่งกว่า อดัม ลัลลาน่า ที่ลงเล่นมาตลอดทั้งเกม

     โมเรโน่ แสดงออกมาเต็มที่ทั้งการวิ่งขึ้นลงที่ทรงพลัง การทะยานไปข้างหน้า ดังนั้นในแมตช์ที่ใหญ่และสำคัญกว่านี้ การชนะได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเล่นกันสวยงามก็เป็นความคิดที่ดี เพราะเรารู้ดีว่า โกเมซ มีเกมรับที่ไว้วางใจได้ ส่วน โมเรโน่ ก็หมดห่วงในการบุกทางพื้นที่กราบซ้าย เรียกว่าเติมเต็มซึ่งกันและกัน ในสิ่งที่ทั้งคู่ขาดหายไป

     ด้วยโปรแกรมที่ต้องออกไปเยือนทีมยักษ์ใหญ่อย่าง อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่รออยู่ข้างหน้า บางทีแผน โกเมซ & โมเรโน่ นี้อาจได้เห็นอีกครั้ง และมันอาจดีกว่าการพยายามใช้ ลัลลาน่า หรือ จอร์ดอน ไอบ์ ที่โชว์ฟอร์มไม่เอาอ่าวมาตลอด 2 เกมที่ผ่านมาก็มีความเป็นไปได้อีกครั้ง ในการขับเคี่ยว พรีเมียร์ ลีกตลอดฤดูกาลอันยาวไกล