พรีวิว พรีเมียร์ลีก นอริช ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ลีก นอริช ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล

สนาม แคร์โรว์ โร้ด

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2014 เวลา 18.00 น.

ผู้ตัดสิน อังเดร มาริเนอร์

ถ่ายทอดสดช่อง CTH Stadium 2

พรีวิวการแข่งขัน

ลิเวอร์พูล

          "ทางสะดวก..." ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อสองทีมคู่แข่งลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก เจอพิษสงทีมหนีตายอย่าง "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ที่บุกไปเสมอแบบน่าจะชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 เมื่อเกมกลางสัปดาห์ แถมยังบุกไปเอาชนะ เชลซี ถึงถิ่น 2-1 อีกด้วย หรือว่าปาฏิหาริย์ของ กุส โปเยต์ จะมีจริง ทำให้พวกเขาเก็บ 4 แต้มจากสองเกมใหญ่หลังสุดได้อย่างไม่น่าเชื่อ

          อานิสงค์จากผลงานของ "แมวดำ" ทำให้เส้นทางการลุ้นแชมป์ของ ลิเวอร์พูล สดใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าสามารถเก็บสามแต้มจากเกมที่จะบุกไปเยือน นอริช ซิตี้ ได้ จะทำให้ "หงส์แดง" นำ เชลซี ห่างถึง 5 แต้มเลยทีเดียว และจะนำห่าง "เรือใบสีฟ้า" ถึง 10 แต้มอีกด้วย โอกาสทองแบบนี้คงจะหาไม่ได้ง่าย ๆ อีกแล้ว

          เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อาจจะต้องหมุนเวียนนักเตะเล็กน้อย เนื่องจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ติดโทษแบน 3 เกม จะหมดสิทธิ์ลงสนามในเกมนี้ และอาจจะต้องส่ง โจ อัลเลน หรือ ลูคัส เลว่า ลงสนามแทน แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าบทบาทของทั้งสองคนจะออกมาในรูปแบบใด ส่วนในรายของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่แล้ว แม้ว่าจะหายทันกลับมาลงซ้อมได้ก็ตามที แต่ก็ยังไม่ผ่านความฟิตและน่าจะอดลงช่วยทีมในเกมนี้แน่นอนแล้ว

          จากสถิติที่พบกันมา 4 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่าชัดเจน โดยชนะทั้งหมดแถมยิงกระหน่ำถึง 18 ลูก (3-0,5-2,5-0,5-1) และยังเป็นทีมที่ หลุยส์ ซัวเรซ โปรดปรานสุด ๆ ซึ่งซัดไม่ยั้ง 11 ประตูจาก 4 เกมหลังสุดที่พบกัน เฉลี่ยนัดละ 2.75 ลูก เรียกว่าเป็นของแสลงของเกมรับ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ก็ว่าได้ รับรองว่าลูกทีมของ นีล อดัม กุนซือรักษาการณ์ของทีมน่าจะได้ผวากันอีกสักรอบ

          แม้ว่าการขาดมิดฟิลด์มาราธอนอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ "เต้ยโศก" แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ อาจจะทำให้ความดุดันลดลงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังดีที่หัวหอกความหวังอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ฟิตเต็มถังรอบู๊เต็มที่ และยังมีเจ้าหนู ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ฟอร์มกำลังมั่นใจ น่าจะช่วยให้ทีมสร้างสรรค์เกมรุกเจาะเข้าทำประตูได้ มองว่า "เครื่องจักรสีแดง" มีโอกาสชนะสูงถึง 65% เสมอ 25% แพ้ 10% ที่คาดว่าโอกาสแพ้น้อยน่าจะเป็นเพราะว่าเกมรุกของ นอริช ซิตี้ ค่อนข้างฝืดสนิท ยิงได้แค่ 26 ประตูเท่านั้น และยังน้อยที่สุดในลีกอีกด้วย

นอริช ซิตี้

          หลังจากที่ปลด คริส ฮิวจ์ตัน ออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งแต่งตั้งให้ นีล อดัม กุนซือชุดเยาวชนขึ้นมาคุมทีมแทนชั่วคราว อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แถมผลงาน 3 เกมหลังสุดนับรวมผลงานของ ฮิวจ์ตัน ด้วย พวกเขาแพ้รวดแบบเกมศูนย์ (0-3,0-1,0-1) และทำให้สถานการณ์ของทีมค่อนข้างน่าเป็นห่วง

          ล่าสุด ซันเดอร์แลนด์ เก็บสามแต้มไล่จี้อันดับโซนปลอดภัยเหลือแค่ 3 แต้มเท่านั้น ซึ่งถ้าพวกเขาไม่สามารถเก็บแต้มได้เลย แม้แต่คะแนนเดียว รับรองว่าอนาคตของพวกเขาคงจะจบไม่สวยอย่างแน่นอน และเมื่อดูจากโปรแกรมที่เหลือ ต้องยอมรับว่าโอกาสตกชั้นเปิดกว้างรออยู่ เพราะถ้านับรวมเกมนี้ด้วยพวกเขาจะต้องพบกับ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ อาร์เซน่อล ตามลำดับ นับว่าเป็นสี่เกมที่หินสุด ๆ เลยทีเดียว

          สำหรับความพร้อมของทีม ยังคงขาดกองหลังตัวเก๋าอย่าง โจเซฟ โยโบ และมิดฟิลด์หนุ่ม เอลเลียต เบนเน็ตต์ แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาสักเท่าไหร่ และในส่วนของผู้เล่นที่เหลือฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามซัดกับ ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน การบ้านชิ้นสำคัญคือการต้านทานเกมรุกของ "หงส์แดง" จะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน และการเล่นตั้งรับเพื่อหวังอย่างน้อย 1 แต้ม จะประสบผลสำเร็จหรือไม่ งานนี้คงต้องติดตามชมกันให้ดี ๆ สำหรับการคุมทีมครั้งที่สองของ นีล อดัม กุนซือรักษาการณ์

รายชื่อนักเตะบาดเจ็บ / หมดสิทธิ์ลงสนาม / เช็คฟิต / ติดโทษแบน

ลิเวอร์พูล

โฆเซ่ เอ็นริเก้ (เข่า)
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (เช็คฟิต)
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ติดโทษแบน)

นอริช ซิตี้

โจเซฟ โยโบ
เอลเลียต เบนเน็ตต์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - จอห์น เฟลเนแกน, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้, เกล็น จอห์นสัน - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โจ อัลเลน - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, หลุยส์ ซัวเรซ, วิคเตอร์ โมเซส

นอริช ซิตี้ (4-3-3) : จอห์น รัดดี้ - สตีเว่น วิทเทเกอร์, รัสเซล มาร์ติน, เซบาสเตียน บาสซง, โยนัสส์ โอลส์สัน - แบรดลี่ย์ จอห์นสัน, เลอรอย เฟอร์, โจนาธาน ฮอว์สัน - โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, นาธาน เร้ดมอนด์, ริคกี้ ฟาน วูล์ฟส์วิงเคิ่ล