หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / เจาะลึก 5 เกมเปิดหัวซีซั่น 2015/16 ขอกี่แต้มดี?

เจาะลึก 5 เกมเปิดหัวซีซั่น 2015/16 ขอกี่แต้มดี?

เจาะลึก 5 เกมเปิดหัวซีซั่น 2015/16 ขอกี่แต้มดี?

          ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015/2016 ซึ่งหลายทีมมีการเสริมทัพเข้ามามากมาย เช่นเดียวกับการปล่อยตัวนักเตะออกจากทีม ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลทำให้ซีซั่นใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น มีความน่าสนใจสุด ๆ ว่าใครจะได้เป็นจ่าฝูงของลีก วันนี้เราเลยขออาสาพาแฟน ๆ ไปดูข้อมูลเบื้องต้นของคู่แข่งใน 5 เกมแรกของ "หงส์แดง" กันว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง? ไปกันเลยยยยย ^^


 

แมตช์ 1 : สโต๊ค ซิตี้ (เยือน)
สนาม - บริทานเนีย
วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม 2015 เวลา 22.00 น.

          การเสริมทัพของทีม "ช่างปั้นหม้อ" ฤดูกาลนี้ค่อนข้างน่ากลัวพอสมควร ไมว่าจะเป็นการดึง โฆเซลู ดาวยิงสัญชาติสเปนของทีม ฮันโนเวอร์ 96 หรือ อิบราฮิม อาเฟลลาย ปีกซ้ายที่สอยฟรีมาจาก บาร์เซโลน่า เช่นเดียวกับ เกล็น จอห์นสัน และ เชย์ กิฟเว่น สองกำลังเสริมที่เซ็นฟรี นอกจากนี้ยังยืมตัว มาร์โก ฟาน กิงเคล มิดฟิลด์ตัวกลางของ เชลซี ที่ไปเก็บประสบการณ์กับ เอซี มิลาน ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา

          ส่วนผู้เล่นที่จะไม่ได้อยู่กับทีมในซีซั่นนี้อย่าง อัสเมียร์ เบโกวิช นายทวารมือหนึ่งของทีมที่ถูก "สิงห์บลูส์" ดูดไปร่วมทีม ทำให้ สโต๊ค ซิตี้ ต้องคว้าตัว ยาค็อบ เฮาการ์ด มือกาวฝีมือดีจาก มิดทิลลันด์ ในลีกเดนมาร์ก มาเฝ้าเสาแทน นอกจากนี้ยังต้องเสีย สตีเว่น เอ็น'ซ็องซี่ และ โรเบิร์ต ฮูธ สองตัวเก่ง ในขณะที่ แอนดี้ วิลกินสัน แบ็คขวาวัย 30 ปีกับ วิลสัน ปาลาซิออส หมดสัญญากับทีมเป็นที่เรียบร้อย

          จากผลงานที่ ลิเวอร์พูล ทำงามหน้าในเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2014/2015 ด้วยการบุกพ่ายที่นี่ 1-6 ทำเอาแฟน ๆ "เดอะ ค็อป" รวมถึงตัวผมเอง ถึงกับหาปี๊บแทบไม่ทัน แต่เชื่อว่าปีหน้าฟ้าใหม่แล้ว อะไร ๆ เองก็น่าจะดีขึ้น เกมนี้ค่อนข้างมั่นใจว่า "หงส์แดง" หลังเสริมทัพจะกลับมาล้างแค้นได้สำเร็จ รอดู "ไอ้คิงคอง" คริสติย็อง เบนเตเก้ ชนกับเกมรับของ "ช่างปั้นหม้อ" ได้เลย

ผลการแข่งขันที่คาด : ชนะ 3-1 เก็บสามแต้มประเดิม

 


 

แมตช์ 2 : บอร์นมัธ (เหย้า)
สนาม - แอนฟิลด์
วันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2015 เวลา 02.00 น. (คืนวันจันทร์ตามเวลาในประเทศไทย)

          สำหรับการเสริมทัพของทีมน้องใหม่ป้ายแดงของพรีเมียร์ลีก น่าสนใจที่พวกเขาเซ็นฟรีสองผู้รักษาประตูอย่าง อาร์เทอร์ โบรุก กับ อดัม เฟเดริชี่ มาร่วมทีมและยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าใครจะได้รับหน้าที่เฝ้าเสาเป็นมือหนึ่ง นอกจากนี้ยังคว้าตัว โจชัว คิง กองหน้าจากทีม "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส มาเสริมคมแบบฟรี ๆ อีกด้วย เช่นเดียวกับ ซิลแว็ง ดิสแต็ง กองหลังวัย 37 ปีที่หมดสัญญากับ เอฟเวอร์ตัน ย้ายมาซบแบบไร้ค่าตัวตามระเบียบ

          ดูแล้วการดึงตัวของพวกเขาค่อนข้างหน้าเป็นห่วง ก็คือการเซ็นของเหลือของทีมอื่น ๆ มาแทบทั้งสิ้น หรือในทางกลับกันพวกเขาอาจจะมั่นใจในนักเตะที่มีอยู่เดิมแล้วก็เป็นได้ อย่างไรก็ดีในช่วงที่ตลาดซื้อ-ขายยังไม่ปิดตัวลงอาจมีดีลดี ๆ เกิดขึ้นอีกก็เป็นได้ ส่วนผลงานการพบกันหนล่าสุดระหว่างทั้งสองทีม ย้อนไปในเกม ลีก คัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็น ลิเวอร์พูล ที่เหนือกว่าบุกเอาชนะไปได้ 3 -1 ซึ่งได้ ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดคนเดียวสองลูก บวกกับหนึ่งประตูของ ลาซาร์ มาร์โควิช ดูทรงแล้วน้องใหม่อาจจะมีเซอร์ไพรส์เบา ๆ แต่การไปเยือนแอนฟิลด์ บอกได้คำเดียวว่ามีขี้หดตดหายกันบ้างแหละครับ ไม่เชื่อคอยดู ^^

ผลการแข่งขันที่คาด : ชนะ 2-1 โดนไล่มาในช่วงท้ายเกม (ทำนายอนาคตสุด ๆ 555+)

 


 

แมตช์ 3 : อาร์เซน่อล (เยือน)
สนาม - เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
วันอังคารที่ 25 สิงหาคม 2015 เวลา 02.00 น. (คืนวันจันทร์ตามเวลาในประเทศไทย)

          นับเป็นตลาดซื้อ-ขายที่เงียบเหงาผิดปกติของทีม "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ซึ่งมีการเซ็น ปีเตอร์ เช็ก นายทวารวัย 33 ปีจากคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง เชลซี ในขณะที่ตัวย้ายออกมากกว่าหลายเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็น ลูคัส โพดอลสกี้ ที่ย้ายไปเล่นให้กับ กาลาตาซาราย ในลีกตุรกี, เรียว มิยาอิชิ หมดสัญญาย้ายไปร่วมทีม ซังต์ เพาลี และ อาบู ดิอาบี้ แข้งกระดูกยุงที่ย้ายไปเกิดใหม่ที่ โอลิมปิก มาร์กเซย ส่วนบรรดาแข้งปล่อยยืมอย่าง วอจเซี้ยค เซสนี่, ยาย่า ซาโนโก้ และ คาร์ล เจนกินสัน ยังไม่มีส่วนกับทีมตามสูตร

          มันเดย์ไนท์เกมที่สองติดต่อกันของ ลิเวอร์พูล และคาดว่าน่าจะเป็น "บิ๊กเกม" เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการพบกันค่อนข้างเร็วพอสมควร เมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อนเจอกันหนแรกในช่วงปลายเดือนธันวาคม อย่างไรก็ดีหนล่าสุดที่พบกันที่สนามแห่งนี้ จบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน 1-4 ชนิดที่สู้ไม่ได้เลย มองแล้วโอกาสที่จะบุกไปเอาชนะถึงถิ่นคงจะเป็นเรื่องยากเหมือนเดิมแน่ แต่อย่างน้อยขอสู้ยื้อยันเสมอแบ่งแต้มกลับบ้านน่าจะเป็นผลการแข่งขันที่แฟร์กับทั้งสองทีม ^^

ผลการแข่งขันที่คาด : เสมอ 1-1 "หงส์แดง" ไล่เจ๊าหวุดหวิด

 


 

แมตช์ 4 : เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เหย้า)
สนาม - แอนฟิลด์
วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2015 เวลา 21.00 น.

          "ขุนค้อน" เป็นอีกทีมหนึ่งที่มีการเสริมทัพได้น่าสนใจ ด้วยการดึงตัว ดิมิทรี้ ปาเย่ต์ จอมทัพวัย 28 ปีจากสโมสร โอลิมปิก มาร์กเซย, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า ปราการหลัง "เจ้าม้าลาย" ยูเวนตุส และ เปรโด โอเบียง มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีม ซามพ์โดเรีย ส่วนแข้งที่ย้ายออกอย่าง สจ็วร์ต ดาวนิ่ง ที่กลับไปเล่นให้กับ มิดเดิ้ลสโบรช์ อีกครั้ง ในขณะที่ กี เดเมล กองหลังผิวสี, คาร์ลตัน โคล กองหน้าปืนฝืดและ ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น นายทวารวัย 40 ปี หมดสัญญากับทีมทั้งสิ้น

          การพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้วของทั้งคู่ที่สนามแห่งนี้ เป็นเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล เอาชนะไปแบบนิ่ม ๆ 2-0 จากประตูของ สเตอร์ลิง & สเตอร์ริดจ์ ซึ่งเป็นล้างแค้นจากเกมที่บุกไปพ่ายถึง โบเลย์น กราวน์ด 1-3 อย่างไรก็ดีไม่น่าเชื่อว่าสถิติที่พบกันมาในช่วง 10 ปีให้หลัง "หงส์แดง" ไม่เคยแพ้คาบ้านให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เลยแม้แต่ครั้งเดียว มั่นใจว่าเกมนี้น่าจะเป็นอีกครั้งที่สานต่อสถิติดังกล่าวให้ยาวนานต่อไป แล้วสามแต้มจะหนีไปไหนได้

ผลการแข่งขันที่คาด : ชนะ 2-0 จัดไปสกอร์เดิมนะพี่น้อง

 


 

แมตช์ 5 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน)
สนาม - โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
วันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2015 เวลา 23.30 น.

          สำหรับการเสริมทัพของ "ปีศาจแดง" ในฤดูกาลนี้บอกได้คำเดียวว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วยการคว้าตัว มอร์กก็อง ชไนเดอร์แล็ง จอมทัพจากทีม เซาท์แฮมป์ตัน, เมมฟิส เดปาย ปีกซ้ายอนาคตไกลจากรั้ว พีเอสวี, มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน แบ็คขวาของสโมสร โตริโน่ และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มิดฟิลด์ระดับแชมป์โลกจาก บาเยิร์น มิวนิค นอกจากนี้ยังมีการเซ็น เซร์กิโอ โรเมโร่ นายทวารของ ซามพ์โดเรีย เข้ามาเฝ้าเสาแบบฟรี ๆ อีกด้วย

          ส่วนแข้งที่ถูกปล่อยตัวออกจากทีมอย่าง หลุยส์ นานี่ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เตรียมไปร่วมมือกันที่ต้นสังกัดใหม่อย่าง เฟเนร์บาห์เช่ ในขณะที่ผู้เล่นหมดสัญญาสองรายอย่าง ทอม เคลเวอร์ลี่ย์ ที่ย้ายไปเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน กับ เบน อามอส ที่ถูกดึงตัวไปเฝ้าเสาที่ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเขายังคงต้องไล่ล่าหากองหน้าตัวใหม่มาร่วมทีมให้ได้ แทนที่การจากไปของ ฟาน เพอร์ซี่ และจะเป็นใครนั้นต้องติดตามกันต่อไป

          ศึกแดงเดือดที่โคจรมาพบกันอย่างรวดเร็ว และน่าจะเป็นศึกแดงเดือดที่มันส์ที่สุดในช่วง 2-3 ปีหลังแน่นอน เพราะผู้เล่นของทั้งสองทีมน่าจะอยู่ในความฟิตที่เหมาะสม อีกทั้งยังเป็นโปรแกรมที่เพิ่งจะกลับมาจากการเล่นทีมชาติอีกด้วย คงจะทำให้นักเตะกระหายลงเล่นไม่น้อย นอกจากนี้ตัวผู้เล่นที่เสริมทัพกันอย่างสนุกสนาม น่าจะได้ลงหวดกันไฟแล่บแน่นอน ส่วนผลการแข่งขันในเกมนี้ที่คาดว่าหวังขอแค่ไม่แพ้ก็คงดี เพราะสองเกมในฤดูกาลที่แล้ว โดนทั้งไปทั้งกลับ 3-0 (เยือน) และ 2-1 (เหย้า) เรียกว่าพ่ายเละเทะเลย เชื่อว่า "หงส์แดง" จะกลับมาฟื้นคืนชีพได้อีกครั้งและบุกแบ่งแต้มได้

ผลการแข่งขันที่คาด : เสมอเดือด 2-2 เบนเตเก้ ควง เฟียร์มิโน่ คนละเม็ด ^^

ADS