หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / จัดอันดับ 5 แข้งฟอร์มเดือดตลอด 3 แมตช์ปรีซีซั่นที่ผ่านมา

จัดอันดับ 5 แข้งฟอร์มเดือดตลอด 3 แมตช์ปรีซีซั่นที่ผ่านมา

armada28 2015-07-22 17:37:39 โกเมซ , ลัลลาน่า , ไอบ์
จัดอันดับ 5 แข้งฟอร์มเดือดตลอด 3 แมตช์ปรีซีซั่นที่ผ่านมา

จัดอันดับ 5 แข้งฟอร์มเดือดตลอด 3 แมตช์ปรีซีซั่นที่ผ่านมา

 

     เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังคงรักษาฟอร์มสุดยอดในการเก็บสถิติคว้าชัย 100 เปอร์เซ็นต์ ในการออกทัวร์ปรีซีซั่นซัมเมอร์นี้ หลังเพิ่งบุกไปคว่ำ แอดิเลด ยูไนเต็ด 2-0 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

     ย้อนมองกลับไปตั้งแต่เกมที่ถล่ม ไทย ออลสตาร์ 4-0 และนัดเฉือนชนะ บริสเบน โรร์ 2-1 เรียกว่า ลิเวอร์พูล ชุดนี้ทำผลงานกันได้ดีจริงๆ ในการฟอร์มทีม เริ่มเห็นชัดว่าเหล่าผู้เล่นตัวใหม่ๆ เข้ามาเติมเต็มทีมและใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น โจ โกเมซ, เจมส์ มิลเนอร์, แดนนี่ อิงส์ หรือ นาธาเนี่ยล ไคลน์ รวมไปถึงตัวเก่าๆ อย่าง อดัม ลัลลาน่า

     วันนี้เราจะมาดูโฉมหน้า 5 แข้งหงส์ที่โชว์ฟอร์ม ปรีซีซั่น ได้อย่างโดดเด่นเกินใครตลอด 3 เกมที่ผ่านมา ก่อนที่พวกเขาจะต้องลุยอุ่นแข้งกันต่อกับ ออลสตาร์ มาเลเซีย, เฮลซิงกิ และ สวินดอน ทาวน์ ต่อจากนี้

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

     อาจจะไม่ถึงกับโชว์ฟอร์มเปรี้ยงออกมาชัดๆ แบบใน พรีเมียร์ ลีก สำหรับกัปตันคนใหม่ ถ้าเปรียบเทียบกับมาตรฐานที่ควรจะเป็นของเขา แต่ เฮนเดอร์สัน ก็ดูจะไปได้สวยกับหน้าที่ผู้นำให้ทีม

     กองกลางวัย 25 ปี โดดเด่นด้วยสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง พร้อมยืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง และตอนนี้ออร่าของเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนออกมาเรื่อยๆ สิ่งที่เปลี่ยนไปในการเล่นของ เฮนโด้ ในการทัวร์ครั้งนี้ คือการเซตเกมรุกที่มากกว่าในอดีต

     นัดที่พบไทย เขาเล่นได้ดีมากๆ ในช่วง 45 นาทีของครึ่งหลัง โดยเฉพาะจังหวะการไขว้เท้าถวายพานให้ ลัลลาน่า ยิงประตูเข้าไป จากนั้นก็มาโชว์ความเป็นจอมพลังวิ่งขึ้นลงไม่มีหมด ใน 2 นัดที่ชนะทีมจาก ออสเตรเลีย ทั้ง บริสเบน และ แอดิเลด

     เฮนเดอร์สัน แสดงให้เห็นแล้วว่า เขายังเป็นนักเตะชั้นเยี่ยมของแท้ แม้จะไม่มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด เคียงข้างอีกต่อไป เชื่อว่าฤดูกาล 2015-16 จะเป็นปีที่ เฮนเดอร์สัน ก้าวสู่ความเป็นฟันเฟืองคนสำคัญของทีม

จอร์ดอน ไอบ์

BRISBANE, AUSTRALIA - Friday, July 17, 2015: Liverpool's Jordon Ibe in action against Brisbane Roar during a preseason friendly match at the Suncorp Stadium on day five of the club's preseason tour. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     หลังจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ย้ายไปอยู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ความกดดันก็เข้ามาถาโถมแก่ดาวรุ่งคนอื่นๆ ทันที หากคิดจะขึ้นยืนแทนที่ปีกจอมทรยศที่จากไปด้วยราคามหาศาล

     แต่ ไอบ์ กลับทำเซอร์ไพรส์ให้เห็นว่าแฟนบอลไม่จำเป็นต้องเสียอกเสียใจกับการไม่มี ราฮีม เมื่อเขาแสดงสัญญานในทางบวกในการยืนตำแหน่งปีกขวาที่วูบวาบมากกว่านั้น

     เขาสร้างความประทับใจให้ครึ่งหลังของเกมที่พบ ไทย รวมถึงนัดที่พบ บริสเบน ซึ่งโดดเด่นและเกือบมีสิทธิ์ทำประตูได้ด้วย จนถึงนัดที่พบ แอดิเลด เขาก็ยังยอดเยี่ยมเช่นเคย ด้วยความเร็ว, พละกำลัง, การเลี้ยงบอลที่ว่องไว และความกล้าบ้าบิ่น นำไปสู่การแอสซิสต์ให้ มิลเนอร์ ซัดประตูเบิกร่องได้สำเร็จ

     จริงอยู่ว่า สเตอร์ลิ่ง อาจจะดูพัฒนาไปมากกว่า ไอบ์ พอสมควร แต่อายุของทั้งคู่ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไร เชื่อเถอะว่า ยังมีเวลาอีกมากให้ ไอบ์ ได้พัฒนาศักยภาพที่มีในตัวออกมาให้เห็นในซีซั่นนี้

อดัม ลัลลาน่า

ADELAIDE, AUSTRALIA - Monday, July 20, 2015: Liverpool's Adam Lallana in action against Adelaide United during a preseason friendly match at the Adelaide Oval on day eight of the club's preseason tour. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     ถ้าจะมีผู้เล่นสักคนที่มักถูกลืมบ่อยๆ เวลามีการถกเถียงเรื่องการจัดตัวในแผงกองกลางในฤดูกาลหน้า ชื่อแรกที่มักหลุดโผก็คือ ลัลลาน่า เสมอ

     ซีซั่นที่แล้ว กองกลางวัย 27 ปี เล่นได้ไม่คงเส้นคงวาเท่าไร และก็ยังบาดเจ็บเรื้อรังในปีแรกของการอยู่ ลิเวอร์พูล แต่ผลงานในตอนนี้เริ่มบ่งชี้ว่าเขากำลังจะกลายเป็นคีย์แมนของทีมอีกคน

     ตลอด 3 นัดที่ผ่านมา ลัลลาน่า แสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจในการสร้างสรรค์ การปั้นเกม ต่อบอลสร้างจังหวะทำประตู และดูขยันขันแข็ง ขยันวิ่งเข้าหาบอล

     เขาถูกจับไปเล่นในฝั่งซ้ายของระบบหน้า 3 ตัวในเกมที่เจอ ไทย และก็มีโอกาสพังสกอร์ได้คมกริบ ตามต่อด้วยการปั่นโค้งใส่ บริสเบน อีก 1 เมล็ด จากนั้นก็มาปล่อยทีเด็ด โชว์ลูกเล่นหลอกล่อ แนวรับของ แอดิเลด ให้หัวปั่นต่อได้อีก

     อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นที่กังวลใจต่อไปสำหรับ ลัลลาน่า แม้ว่าจะฟอร์มดูดี แต่ก็ยังต้องแย่งชิงตำแหน่งอย่างดุเดือดกับ คูตินโญ่ และ ฟีร์เมียโน่ ที่จะกลับมาแจมกันในเกมอุ่นเครื่องในทวีปยุโรปกันต่อ เรื่องนี้ ร็อดเจอร์ส คงปวดกะบาลไม่ใช่น้อยเลย

เจมส์ มิลเนอร์

BRISBANE, AUSTRALIA - Friday, July 17, 2015: Liverpool's James Milner celebrates scoring the second goal against Brisbane Roar during a preseason friendly match at the Suncorp Stadium on day five of the club's preseason tour. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     ใครๆ ก็ต่างก็มองว่าการได้ของฟรีอย่าง มิลเนอร์ ไม่น่ามีประโยชน์อะไรกับทีมมากมายนัก อย่างมากก็แค่ตัวประกอบคนหนึ่งของทีม แต่ที่ไหนได้ ตอนนี้ดูท่าเขาจะเป็นจิ๊กซอว์คนสำคัญในแดนกลางของทีมไปเสียแล้ว

     จอมเก๋าวัย 29 ปี ผู้เล่นได้สารพัดตำแหน่ง ได้รับการวางใจจาก ร็อดเจอร์ส ให้รับบทมิดฟิลด์ตัวกลางตามที่เขาอยากจะเล่น และแม้ว่าเขาอาจไม่ใช่คนที่แกร่งสุดๆ แต่คลาสและชั้นเชิงของเขาที่แสดงออกมา นับว่ามีระดับกว่านักเตะอังกฤษทั่วไปอย่างมาก

     สิ่งที่ มิลเนอร์ นำเสนอให้ทีมคือความขยันขันแข็ง ไล่แย่งบอลทุกจังหวะ และสู้ตลอดทั้งเกมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และก็ยังมีคุณภาพอีกด้วยไม่ใช่มีแต่พละกำลัง วัดได้จากการทะลุขึ้นมายิงประตูได้ทั้งสองนัดในออสเตรเลีย

     สิ่งที่เราเห็นคือแฟนๆ สามารถคาดหวังได้เลยว่าฟอร์มของ มิลเนอร์ ไม่มีต่ำกว่า 7 แน่ (เต็ม10) และถูกมองว่าน่าจะมีโอกาสเป็นตัวจริงสูงมากๆ ในต้นฤดูกาลนี้

     อาจฟังดูแล้วเหมือนจะด่วนสรุปมากเกินไป แต่เชื่อว่า มิลเนอร์ ไม่มีทางจะล้มเหลวกับฤดูกาลแรกให้ ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน ถ้าเล่นได้อย่างนี้ไปตลอด

โจ โกเมซ

BANGKOK, THAILAND - Tuesday, July 14, 2015: Liverpool's Joe Gomez in action against True Thai Premier League All Stars during the True Super Trophy match at the Rajamangala National Stadium on day two of the club's preseason tour. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     สู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ โกเมซ ในปีนี้ ในการย้ายทีมมาเล่นในเกมระดับสูงสุด และความคาดหวังสูงลิบต่างไปจากการเล่นให้ ชาร์ลตัน โดยตอนแรกถูกมองว่าซื้อมาเพื่อให้ทีมอื่นยืมไปใช้งานต่อในฤดูกาลนี้

      แต่เรื่องเหนือความคาดหมายก็เกิดขึ้น เมื่อดาวรุ่งวัย 18 ปีที่เล่นเป็นเซนเตอร์แบ็กมาตลอดฤดูกาลที่แล้ว มาสร้างความสารพัดประโยชน์ด้วยการเล่นเป็นแบ็กขวาในนัดที่พบกับไทย ตามด้วยความฮือฮาในแมตช์กับ บริสเบน ในฐานะแบ็กซ้ายจอมบุก

     จุดเด่นของเขาอยู่ที่ความนิ่ง ความสมดุล และความแน่นอนในการครอบครองบอล ที่ทำได้เนียนตายามที่นั่งดูเกมของเขา นอกจากนั้นส่วนสูง 188 เซนติเมตร ของเขาก็เป็นประโยชน์อย่างมากในแง่ของสรีระร่างกาย ที่ทำให้ได้เปรียบในการยืนกองหลังให้ทีม

     อนาคตที่ยิ่งใหญ่รอคอยเขาอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่สำหรับ โกเมซ ดาวรุ่งมหัศจรรย์คนนี้ ยิ่งเล่นได้หลากหลาย โอกาสที่เขาจะได้สอดแทรกในตำแหน่งต่างๆ ทั้งแผงแบ็กโฟร์มีสูงจริงๆ เผลอๆ อาจมีเซอร์ไพรส์ได้เป็นตัวหลักในฤดูกาลนี้เลยก็ได้ ใครจะไปรู้

ADS