พรีวิว ฟุตบอลกระชับมิตร แอดิเลด ยูไนเต็ด -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว ฟุตบอลกระชับมิตร แอดิเลด ยูไนเต็ด -vs- ลิเวอร์พูล

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2015 เวลา 16.30 น.

สนาม แอดิเลด โอวอล

ถ่ายทอดสดช่อง Truesport 1 (681) / Truesport HD2 (667)

          หลังจากจบศึกที่บริสเบน ด้วยการเอาชนะทีมประจำเมืองอย่าง "ราชสีห์คำราม" บริสเบน รอร์ 2-1 จากสองประตูของ อดัม ลัลลาน่า กับ เจมส์ มิลเนอร์ สองแข้งอังกฤษที่โชว์ฟอร์มในเกมปรี-ซีซั่นได้อย่างไม่ธรรมดา

          ขุนพล "หงส์แดง" เดินทางต่อไปยังเมือง แอดิเลด ทันที เพื่อเตรียมความพร้อมทำศึกกับ แอดิเลด ยูไนเต็ด ซึ่งจะทำการลงเตะกันในวันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2015 เวลา 16.30 น. ตามเวลาในประเทศไทยหรือประมาณช่วงหัวค่ำของที่ประเทศออสเตรเลีย

ประวัติศาสตร์และคู่ต่อสู้

          เกมนี้จะเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทั้งสองทีม โดยเจ้าถิ่น แอดิเลด ยูไนเต็ด จะไม่ได้เล่นในรังเหย้าของตัวเองที่ คูเปอร์ส สเตเดี้ยม เพราะจำนวนความจุค่อนข้างน้อยเพียงแค่ 17,000 ที่นั่งเท่านั้น ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนสนามมาใช้ แอดิเลด โอวอล ซึ่งเป็นสนามคริกเก็ตท้องถิ่นประจำเมืองและสามารถจุผู้ชมได้มากกว่า 53,000 ที่นั่งเลยทีเดียว แน่นอนว่าเตรียมไว้เพื่อจุแฟนบอล ลิเวอร์พูล เลือดจิงโจ้อย่างไม่ต้องสงสัย

          แอดิเลด ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ เอ ลีก ในปี 2009 ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงการทำทีมของ โจเซ็ป กอมบัว อดีตโค้ชอคาเดมี่ของสโมสรบาร์เซโลน่า ผู้ที่เข้ามารับงานหลังจากคว้าแชมป์ในสามปีให้หลัง โดยเขาสามารถพาทีมจบที่สามในลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และเพิ่งจะทำการลับแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแพ้ไปเบา ๆ 0-2

สภาพความพร้อมของ ลิเวอร์พูล

          ไม่มีปัญหาของผู้เล่นบาดเจ็บเข้ามารบกวนการจัดทัพของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส โดยสามารถส่งผู้เล่นที่ขนกันมากว่า 30 ชีวิต อย่างไรก็ดีในรายของ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ที่ได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะเล็กน้อยและทำให้พลาดลงสนามในเกมล่าสุด สามารถกลับมาลงซ้อมได้แล้ว แต่คาดว่าน่าจะยังไม่เสี่ยงส่งลงเล่นในเกมนี้

          ส่วนบรรดาแข้งติดธงรับใช้ชาติอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, เอ็มเร่ จัน, ติอาโก้ อิลอรี่ และ โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ ยังอยู่ในระหว่างการพักผ่อนหลังจบภารกิจกับทีมชาติ และเชื่อว่าน่าจะกลับมาสมทบกับทีมที่ เมลวู้ด สนามซ้อมที่เมือง ลิเวอร์พูล พร้อมกันทีเดียวเลย

          คาดว่า ร็อดเจอร์ส จะใช้เกมนี้เป็นการเน้นเรียกความฟิตของผู้เล่นทั้งหมดที่อยู่ในทีม และน่าจะมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่น 11 ตัวแรกจากการเกมล่าสุดพอสมควร ซึ่งน่าจะมีการดร็อป จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, มาร์ติน สเคอร์เทล และ เจมส์ มิลเนอร์ สามแข้งที่เล่นครบ 90 นาทีในเกมล่าสุดได้พักบ้าง

          โดยคาดว่าจะส่งบรรดา เดยัน ลอฟเรน, อังเดร วิสดอม, โจ อัลเลน และ เจา คาร์ลอส เตเซร่า ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับ ลาซาร์ มาร์โควิช เจ้าของประตูเบิกร่องปรี-ซีซั่นในเกมที่เอาชนะ ไทย ออล-สตาร์ 4-0 ก็น่าจะได้รับโอกาสลงสนามในเกมนี้

          นอกจากนี้ในส่วนของดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง จอร์แดน รอสซิเตอร์, ไรอัน เคนท์ และ โจ แม็กไกวร์ น่าจะได้รับโอกาสลงไปเก็บประสบการณ์กับพวกรุ่นพี่ด้วยเช่นกัน

11 ผู้เล่นแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

11 ตัวจริง (4-3-1-2) : มิโญเล่ต์ - วิสดอม, โกเมซ, ลอฟเรน, แม็กไกวร์ - รอสซิเตอร์, อัลเลน, มาร์โควิช - เตเซร่า - อิงส์, โอริกี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งหมด : มิโญเล่ต์, บ็อกดาน, ฟูลตัน, ไคลน์, โกเมซ, ลอฟเรน, ตูเร่, วิสดอม, โมเรโน่, เคลียรี่, สเคอร์เทล, ซาโก้, แม็คไกวร์, อัลเลน, เฮนเดอร์สัน, ลูคัส, มิลเนอร์, ชิริเบญ่า, รอสซิเตอร์, เตเซร่า, ไอบ์, เคนท์, โอโจ้, วิลสัน, ลัลลาน่า, มาร์โควิช, อิงส์, แลมเบิร์ต, โอริกี้

ผลที่คาด ลิเวอร์พูล ชนะ 3-1