หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / ท็อป 15 นักเตะค่าตัวแพงของสโมสร ใครรุ่งหรือร่วงตามไปดู!!!

ท็อป 15 นักเตะค่าตัวแพงของสโมสร ใครรุ่งหรือร่วงตามไปดู!!!

ท็อป 15 นักเตะค่าตัวแพงของสโมสร ใครรุ่งหรือร่วงตามไปดู!!!

ท็อป 15 นักเตะค่าตัวแพงของสโมสร ใครรุ่งหรือร่วงตามไปดู!!!

 

     ลิเวอร์พูล เพิ่งประกาศเซ็นสัญญาคว้าตัว โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ อย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ ช่วยให้แฟนบอลลืมเรื่องความทุกข์ระทมเมื่อซีซั่นก่อนไปโดยปริยาย

     สมมติว่าถ้าเขาผ่านการตรวจร่างกาย สโมสรต้องจ่ายเงินให้กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เป็นเงิน 28 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1480 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าตัวของนักเตะชาวบราซิลเลียนรายนี้ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดอันดับ 2 ของสโมสร แต่ค่าตัวก้อนโตดังกล่าวจะการันตีคุณภาพของเขาได้หรือไม่?

     เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป ใช้จ่ายเงินมหาศาลเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา แต่นักเตะหน้าใหม่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไป และนี่คือ 15 นักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร ตามไปดูกันว่าใครจะรุ่งหรือใครจะร่วง

 

15. โจ อัลเลน - 15 ล้านปอนด์

 

 

     นักเตะลูกรักของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ตั้งแต่สมัยอยู่ที่ สวอนซี กองกลางเวลช์แมน ย้ายตามผู้จัดการทีมคู่บุญของเขาไปยังแอนฟิลด์เมื่อปี 2012 อัลเลน ไม่ได้เป็นนักเตะราคา 15 ล้านปอนด์ เลยตั้งแต่ ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญาไปร่วมทีม แต่เขาก็พัฒนาตัวเองจนไปถึงจุดนั้นได้

     เขาต้องรับมือกับความกดดันที่มาพร้อมกับราคาค่าตัว และทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา แต่ก็ไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจเท่าที่เคยทำให้กับ "หงส์ข่าว" จน ลิเวอร์พูล ต้องดึงตัวเขาไปร่วมทีม

ผลตัดสิน : เกือบรุ่ง

 

14. มามาดู ซาโก้ : 15 ล้านปอนด์

 

 

     กัปตันทีมที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เปแอสเช มันง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไม ลิเวอร์พูล จึงยอมจ่ายเงินก้อนโตเพื่อเป็นค่าตัวของเขา กองหลังเมืองน้ำหอมได้ก้าวข้ามความยากลำบากจนเริ่มกลายเป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมชุดใหญ่

     เมื่อพิจารณาถึงราคาค่าตัวกองหลังตัวหลักในทีมคู่แข่งของ "หงส์แดง" เช่น แวงซองต์ กอมปานี, โลรองต์ กอสเซียลนี่ และ แกรี่ เคฮิลล์ เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาจ่ายแพงเกินไปให้กับ ซาโก้ แต่ก็เหมือน อัลเลน นั่นไม่ได้ทำเขาเป็นนักเตะที่แย่เท่าไหร่นัก

ผลตัดสิน : รุ่ง

 

13. มาริโอ บาโลเตลลี่ : 16 ล้านปอนด์

 

 

     ด้วยความเป็นธรรมกับ ลิเวอร์พูล นี่ดูเหมือนจะเป็นการย้ายทีมที่สมเหตุสมผล อดีตหัวหอกทีมแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ผู้ที่โชว์ฟอร์มเก่งใน 2 ซีซั่น กับสโมสรชั้นยอดใน เซเรีย อา อย่าง เอซี มิลาน ราคา 16 ล้านปอนด์ ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่น่าลุ้นน่าลอง

     อย่างไรก็ตาม ศูนย์หน้ารายนี้ทำได้เพียง 2 ประตูเท่านั้นใน 10 เกมล่าสุด และถูกยอมแพ้จากผู้จัดการทีมทุกคนที่เขาเคยร่วมงานด้วย 4 ประตู จากทั้งซีซั่น บาโลเตลลี่ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือความผิดพลาด

ผลตัดสิน : ร่วง

 

12. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : 16 ล้านปอนด์

 

 

     เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งช่วงแรกในแอนฟิลด์อย่างทุลักทุเล เกือบได้ย้ายออกจากสโมสรก่อน ร็อดเจอร์ส จะเข้าไปคุมทีม

     เฮนเดอร์สัน ผงาดขึ้นมามีชื่อเสียงได้ในเวลาใกล้เคียงกันกับที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เริ่มเสื่อมมนต์ขลัง และอดีตดาวเตะ ซันเดอร์แลนด์ ก็เกือบจะมีโอกาสได้เป็นกัปตันทีมคนใหม่แทน เจอร์ราร์ด ที่จะย้ายออกจากทีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มิถุนายน นี้

ผลตัดสิน : รุ่ง

 

11. อัลแบร์โต้ อควิลลานี่ : 17 ล้านปอนด์

 

 

     การเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังอย่างเหลือเชื่อ อควิลานี่ ย้ายจาก โรม่า มาที่ อังกฤษ ที่มีชื่อเสียงในฐานะกองกลาง มีความสามารถในการคอนโทรลเกมจากแดนกลางของสนาม เขาดูไม่เข้ากับทีมตั้งแต่ย้ายมา และไม่เคยปรับตัวได้เลย

     หนึ่งปีหลังจากย้ายซบ ยูเวนตุส แบบยืมตัว ที่ก็ไม่ได้รับโอกาสลงสนามเท่าไหร่นัก เขาก็ถูกปล่อยยืมตัวให้กับ เอซี มิลาน อีกครั้งในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนถูกขายให้กับ ฟิออเรนติน่า ด้วยราค่าแค่ 10 เปอร์เซนต์ ของที่ ลิเวอร์พูล จ่ายเป็นค่าตัวของเขา

ผลตัดสิน : ร่วง

 

10. เกล็น จอห์นสัน : 17.5 ล้านปอนด์

 

 

     จอห์นสัน มีช่วงเวลาที่น่าประทับใจกับทั้ง ลิเวอร์พูล และ ทีมชาติอังกฤษ แต่ความสามารถในการเติมเกม ทำให้เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเกมรับเสมอ

     ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่ากองหนังคนไหนที่เซ็นสัญญาด้วยค่าตัวสูง (เขาเป็นหนึ่งในกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ ลีก) และจากนั้นก็ปล่อยพวกเขาออกจากทีมแบบไร้ค่าตัว นั่นทำให้เห็นว่าเขาเป็นการเซ็นสัญญาที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก

ผลตัดสิน : ร่วง

 

9. สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง : 18.5 ล้านปอนด์

 

 

     ถูกนำตัวเข้ามาในช่วงการทำงานของ เดเมียน โคมอลลี่ ดาวนิ่ง เข้ามายังสโมสรในหมู่เมฆของความผิดหวัง และออกจากทีมไปพร้อมเสียงครวญคราง

     เวสต์ แฮม จ่ายเงินซื้อตัว ดาวนิ่ง เท่ากับ 1/4 ที่ ลิเวอร์พูล นำตัวเขามาจาก ลอนดอนตะวันออก เป็นการทำธุรกิจที่ย่ำแย่อีกครั้งของ "หงส์แดง"

ผมตัดสิน : ร่วง

 

8. ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ : 18.6 ล้านปอนด์

 

 

     การเซ็นสัญญาที่ชาญฉลาด และเป็นกุญแจสำคัญของหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ใน พรีเมียร์ ลีก

     ด้วยคุณภาพของเขาผสมผสานกับความสมบูรณ์แบบของ ชาบี อลอนโซ่ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในแดนกลาง และสโมสรก็ไม่เคยหาตัวแทนของเขาได้เลย

ผลตัดสิน : รุ่ง

 

7. ร็อบบี้ คีน : 19 ล้านปอนด์

 

 

     ด้วยฝีมือของ แดเนียล เลวี่ ประธานสโมสรของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส พวกเขาขาย ร็อบบี้ คีน ให้ ลิเวอร์พูล 19 ล้านปอนด์ และซื้อกลับในราคา 12 ล้านปอนด์ ในอีก 6 เดือนให้หลัง ถือเป็นการทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

     คีน ยิงได้ 7 ประตู ตลอดช่วงเวลาที่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ สมควรอยู่ที่จะย้ายกลับทีมเก่า การย้ายทีมครั้งนี้คงพูดคำอื่นใดไม่ได้นอกจาก "ล้มเหลว"

ผลตัดสิน : ร่วง

 

6. ลาซาร์ มาร์โควิช : 19.8 ล้านปอนด์

 

 

     มาร์โควิช ได้ฉายแววให้เห็นนับตั้งแต่ย้ายไปร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ แต่ด้วยราคา 20 ล้านปอนด์ คุณคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรจากเขามากกว่านี้

     ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากำลังอยู่ในช่วงพัฒนา แต่ในช่วงนี้ต้องบอกว่าเขาดูเหมือนจะเสียความเชื่อมั่นและหลุดจากฟอร์มเก่งของตัวเอง

     เหตุการณ์ที่บอกได้ถึงการสูญเสียความมั่นใจ คือในเกมสำคัญกับ อาร์เซนอล ช่วงท้ายซีซั่น รับบอลทะลุช่องจากแดนกลางไปดวลกับ ดาวิด ออสปิน่า แทนที่จะยิงประตู เขากลับเลือกาปาดไปทางซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แต่บอลกลับไหลออกเส้นหลังประตูไปอย่างน่าเสียดาย

ผลตัดสิน : ร่วง

 

5. เดยัน ลอฟเรน : 20 ล้านปอนด์

 

 

     ไม่มีอะไรต้องเถียงสำหรับดีลนี้ เป็นการสูญเงินแบบไรค้าอย่างกับหายนะ

     ลอฟเรน ออกสตาร์ทซีซั่นด้วยการเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร และจบด้วยการเป็นความผิดพลาดราคาแพงของพวกเขา แถมเสียตำแหน่งให้กับกองหลังจอมเก๋าวัย 34 ปี อย่าง โคโล่ ตูเร่

ผลตัดสิน : ร่วง

 

4. เฟร์นันโด ตอร์เรส : 20.2 ล้านปอนด์

 

 

     สุดยอดการเซ็นสัญญาที่จบด้วยสุดยอดการขายเช่นกัน ตอร์เรส ซัดไปถึง 81 ประตู ตลอดช่วงเวลา 3 ฤดูกาลครึ่งที่ แอนฟิลด์ ก่อนถูกขายให้เชลซีด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติถึง 50 ล้านปอนด์

     ราวกับว่ายังไม่เพียงพอ เขาไม่เคยเล่นได้ดีให้กับ "สิงห์บลู" เลย

ผลตัดสิน : รุ่ง

 

3. หลุยส์ ซัวเรซ : 22.8 ล้านปอนด์

 

 

     อีกหนึ่งการเซ็นสัญญาอันชาญฉลาด แม้จะไม่ตัดเรื่องข่าวฉาวออก ซัวเรซ กดไป 82 ประตู ใน 3 ฤดูกาลครึ่งที่แอนฟิลด์ และเกือบพาทีมเถลิงถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ ลีก

     จากนั้นเขาก็หาเงินก้อนโตให้กับ "หงส์แดง" หลังสโมสรปล่อยตัวเขาให้ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวถึง 75 ล้านปอนด์

ผลตัดสิน : รุ่ง

 

2. อดัม ลัลลาน่า : 25 ล้านปอนด์

 

 

     ลัลลาน่า ยอมรับว่าตัวเขาเองทำผลงานไม่ได้ตามที่หวัง หรือคุ้มกับราคาค่าตัว ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล

     อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บที่หัวเข่า, แฮมสตริง และขาหนีบ ที่รบกวนตลอดทั้งซีซั่น หมายความว่าเขาไม่เคยไปถึงฟอร์มเก่งของตัวเองได้เลย และมีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นอย่างมากในซีซั่นหน้า

ผลตัดสิน : ยังไม่สามารถตัดสินได้

 

1. แอนดี้ แคร์โรล : 35 ล้านปอนด์

 

 

     และนี่คือโฉมหน้านักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ลิเวอร์พูล และยังต้องเป็นนักเตะที่แย่ที่สุดของสโมสรอีกด้วย

     แคร์โรล ทำได้แค่ 11 ประตู ตลอด 3 ซีซั่นที่มีแต่อาการบาดเจ็บกับ ลิเวอร์พูล สุดท้ายถูกขายให้กับ เวสต์แฮม ในราคา 20 ล้านปอนด์

ผลตัดสิน : ร่วง

ADS