หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / 3 ปีของ ร็อดเจอร์ส กับ 6 เกมในความทรงจำ

3 ปีของ ร็อดเจอร์ส กับ 6 เกมในความทรงจำ

earthmomo 2015-06-02 17:14:45 ร็อดเจอร์ส
3 ปีของ ร็อดเจอร์ส กับ 6 เกมในความทรงจำ

3 ปีของ ร็อดเจอร์ส กับ 6 เกมในความทรงจำ

 

     ณ ตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อยู่คุมทัพในถิ่นแอนฟิลด์ เป็นเวลา 3 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่เขาเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในแง่บุคลากรและระบบของทีมจาก 155 เกมที่เขาคุมทัพ

     แต่สิ่งสำคัญที่กำลังจะพูดถึงนั่นก็คือเกมที่อยู่ในความทรงจำตลอดระยะเวลาที่ ร็อดเจอร์ส เข้ามารับหน้าที่ บางช่วงเวลาถือว่าเป็นความทรงจำที่ดีไม่น้อย โดยเฉพาะในช่วงที่เรากำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็มีไม่น้อยเลยที่เรากลับต้องเจอกับความทรงจำอันเลวร้าย

     และนี่คือ 6 เกมในความทรงจำ นับตั้งแต่ที่ ร็อดเจอร์ส เข้ามารับหน้าที่ จะมีแมตช์ไหนกันบ้างตามไปชมได้เลยครับ...

เวสต์แฮม 2 ลิเวอร์พูล 3 (9 ธันวาคม 2012)

LONDON, ENGLAND - Sunday, December 9, 2012: Liverpool's Joe Cole celebrates scoring the second goal against West Ham United during the Premiership match at Upton Park. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะคว้าสามคะแนนในเกมนี้ได้สำเร็จ แต่ก็ถือว่าเป็นแมตช์ที่มีความยากลำบากพอสมควร กว่าพวกเขาจะกลับมาผลิกชนะได้ ในเกมนี้ลูกทีมของ ร็อดเจอร์ส ถือว่ากำลังฟอร์มย่ำแย่อยู่ไม่น้อยเนื่องจาก หลุยส์ ซัวเรซ กำลังติดโทษแบน แต่ยังดีที่มาได้ โจ โคล อดีตลูกหม้อทัพ "ขุนค้อน" ลงมายิงประตูชัยให้ทีมชนะไปได้


นิวคาสเซิ่ล 0 ลิเวอร์พูล 6 (27 เมษายน 2012)

     การเยือนยังสโมสรแห่งนี้ พร้อมกับความร้อนแรงของ สเตอร์ริดจ์ และ คูตินโญ่ ดูจะสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับบรรดา "เดอะ ค็อป" ได้ดีพอสมควร ในเกมนี้ถือเป็นแมตช์แห่งการโชว์เคาน์เตอร์แอ็กแท็กที่เฉียบขาดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะทักษะไหวพริบการจ่ายทะลุช่องของ คูตินโญ่ มีหรือที่ สเตอร์ริดจ์ จะไม่สนองด้วยการส่งบอลไปยังก้นตาข่าย


ลิเวอร์พูล 5 อาร์เซนอล 1 (8 กุมภาพันธ์ 2014)


     เกมนี้ถือเป็นในแมตช์ที่ดีที่สุดในถิ่น แอนฟิลด์ เลยก็ว่าได้ เพราะ ลิเวอร์พูล ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้นก็สามารถฉีกแนวรับของ อาร์เซนอล เข้าไปพังประตูได้อย่างง่ายได้ เมื่อย้อนไปก่อนเกม ๆ นี้ ทัพ "เร้ดส์ แมชชีน" เพิ่งจะขยี้ทีมร่วมเมืองอย่าง เอฟเวอร์ตัน มา 4-0 และถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่บรรดาตัวรุกอย่าง ซัวเรซ สเตอร์ริดจ์ และ สเตอร์ลิง ต่างงัดฟอร์มเด็ดออกมาได้ดีไม่แพ้กันเลย


คริสตัล พาเลซ 3 ลิเวอร์พูล 3 (5 พฤษภาคม 2014)

Tears for souvenirs - Steven Gerrard consoles Luis Suarez. Now Jamie Carragher has urged his pal not to shed tears

     เกมนี้ถือเป็นที่สุดแห่งความดราม่าในฤดูกาล 2013-2014 ก็ว่าได้ โดยเฉพาะกับการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ให้ได้เป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ผลพวงจากการพ่าย เชลซี ในถิ่น แอนฟิลด์ 2-0 ทำให้เหล่า "เดอะ ค็อป" รู้ดีว่าความกดดันกำลังเผชิญเบื้องหน้าพวกเขา และจากการทำได้แค่บุกไปเสมอ พาเลซ ด้วยสกอร์ 3-3 ส่งผลให้ในท้ายที่สุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกไปครอง สร้างความชอกช้ำให้แก่ ลิเวอร์พูล ชนิดที่แทบหมดอาลัยตายอยากทีเดียว


เรอัล มาดริด 1 ลิเวอร์พูล 0 (4 พฤศจิกายน 2014)

Kolo Toure in action against Real Madrid

     ลิเวอร์พูล กำลังพยายามอย่างหนัก ในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเฉพาะที่สนาม ซานติอาโก เบอร์นาบิว เมื่อมองไปที่รายชื่อนักเตะในเกมนัดนั้นอย่าง โคโล ตูเร่ หรือ ฟาบิโอ บอรินี่ ลงสู่สนาม น่าจะเป็นการบ่งบอกได้เลยว่าพวกเขากำลังมีปัญหากับผู้เล่นตัวหลักที่พากันเจ็บในช่วงเวลาดังกล่าว แม้ผลในเกมนี้ทาง ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เรอัล มาดริด ไป 1-0 แต่พวกเขาน่าจะภาคภูมิใจได้ไม่น้อย และถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่ ลิเวอร์พูล เล่นได้น่าประจับใจในเกมที่มีความสำคัญเช่นนี้


สโต๊ค 6 ลิเวอร์พูล 1 (24 พฤษภาคม 2015)

Steven Gerrard looks dejected as Stoke City celebrate at full time

     ก่อนเกมนัดส่งท้ายฤดูกาล เชื่อว่าใครหลายคนต่างไม่คาดคิดว่าผลการแข่งขันจะออกมาเลวร้ายเช่นนี้ และยิ่งเป็นเกมนัดส่งท้ายของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับสโมสรด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ก่อนเกมเราต่างวาดฝันที่จะเห็นทีมบุกไปเอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ ถึงถิ่น หลังพลาดท่าพ่าย ฮัลล์ ซิตี้ ในเกมสุดท้ายที่แอนฟิลด์ แต่พอเกมเริ่มต้นได้ไม่นานทางเจ้าถิ่นก็อาศัยความเฉียบขาดไล่ถลุง ลิเวอร์พูล ไปแบบไม่ไว้หน้า และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเหล่าบรรดา "เดอะ ค็อป" ถึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ร็อดเจอร์ส เป็นการใหญ่ถึงขั้นให้สโมสรปลดเจ้าตัวออกจากตำแหน่งเสียด้วยซ้ำ

ADS