- สล็อตเว็บตรง
- https://rillitoracetrack.com/
- สล็อตเว็บตรง
10 ปมปัญหาของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อันน่าละเหี่ยใจ
10 ปมปัญหาของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อันน่าละเหี่ยใจ
สำหรับฤดูกาล 2014 -15 ก็ได้จบสิ้น 38 นัดไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนหงส์แดง บรรดากองเชียร์คงรู้สึกพอใจที่ปีแห่งความล้มเหลวจบสิ้นไปสักที พร้อมจบที่อันดับ 6 ใน พรีเมียร์ ลีก
แต่ผลงานปีนี้ก็อย่าให้ผ่านพ้นไปอย่างไร้ค่า เราจะมาเรียนรู้กันถึงความผิดพลาดต่างๆ ที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ได้กระทำไว้ตลอดทั้งซีซั่นกัน ซึ่งเรารวบรวมเอาไว้ถึง 10 ประการดังต่อไปนี้
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ไม่ใช้กองหน้าตัวเลือกแรกอีกต่อไป
"มันกำลังเป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงและเราจำเป็นต้องมีแต้ม แต่เราแสดงออกมาให้เห็นว่าสโมสรยังก้าวไปข้างหน้าต่อได้" ร็อดเจอร์ส ได้กล่าวไว้ในเกมที่เสมอ อาร์เซน่อล 2-2
ช่วงเวลาที่ทีมจมอยู่ในอันดับ 10 และพยายามหาทางกลับสู่พื้นที่ท็อปโฟร์ บีร็อด ก็บอกอีกว่า "การได้ สเตอร์ริดจ์ กลับมาในเดือนมกราคม จะทำให้เรากลับไปยังเป้าหมายนั้นได้"
พูดง่ายๆ ว่า ร็อดเจอร์ส ตั้งความหวังมาตลอดว่า สเตอร์ริดจ์ จะกอบกู้ผลงานให้ทีม และมองเป็นหัวหอกเบอร์ 1 ที่เชื่อถือได้มาตลอด แต่สถิติที่ออกมาในการเล่นให้ ลิเวอร์พูล ยืนยันว่าเขาได้เล่นแค่ 30 นัดแค่ปีเดียว ตลอด 5 ฤดูกาล
ทั้งซีซั่นนี้ก็ได้เล่นแค่ 12 นัดในลีก และทีมต้องแก้ปัญหาด่วนด้วยการซื้อกองหน้าตัวใหม่ ที่จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งเพชรฆาตหมายเลข 1 ของทีม มากกว่าจะมาตั้งความหวังกับ สเตอร์ริดจ์ ที่มีสถิติความฟิตไม่ดีเลยมาตลอดได้แล้ว
ลูคัส เลว่า สามารถแก้ไขปัญหาในแดนกลาง
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะ ลูคัส คือมิดฟิลด์ตัวรับพันธุ์แท้ และสถานะของเขาก็เป็นผู้เล่นซีเนียร์ สำหรับบทบาทนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เปราะบางมาก และจำเป็นต้องเสริมทัพในซัมเมอร์
วัดจากสถิติ ลิเวอร์พูล ชนะ 58% ยามที่มี ลูคัส ลงเล่น และชนะแค่ 39% ยามที่ไม่มี ลูคัส ลงสนาม
ตัวแหน่งกองกลางตัวตัดเกมคือปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จใน พรีเมียร์ ลีก และผลงานของดาวเตะบราซิลเลี่ยน ในซีซั่นนี้ควรจะต้องนำมาพิจารณาให้ดีในหน้าร้อนนี้
มาริโอ บาโลเตลลี่ เล่นหน้าเป้าไม่ได้โดยสิ้นเชิง
"ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นหน้าตัวเป้า ผมเป็นพวกชอบวิ่งไปทั่วสนาม คุณก็รู้ ในความคิดผม ผมชอบเล่นในระบบหน้าสองตัว นั่นถือแนวทางของผม แต่ เบรนแดน ร้องขอให้ผมเล่นเป็นหน้าเป้า"
นี่คือเสียงความในใจของ บาโลเตลลี่
ลองนึกถึงจำนวนเกมที่เจ้าโอ้ลงเล่นเป็นกองหน้าแพ็คคู่ มีสักกี่นัดกัน ดังนั้นอย่าแปลกใจว่าทำไมสถิติการคลำประตูของ บาโลเตลลี่ ถึงเลวร้ายขนาดนั้น แท็คติกของ ร็อดเจอร์ส ไปขัดกับแนวทางของหัวหอกอิตาลีจนทำให้พัฒนาการของ บาโลเตลลี่ หยุดหายไปอย่างดื้อๆ ในวัยเพียง 24 ปี
ที่จริงแฟนบอลแทบทุกคนมองเห็นอยู่แล้วว่ามันไม่เวิร์ก แต่ก็ดูเหมือนจะมีคนตาถั่วที่มองไม่เห็น ก็คือ บีร็อด คนนี้คนเดียว
น่าเสียดายที่ สเตอร์ริดจ์ เจ็บทั้งซีซั่นที่ผ่านมา ไม่งั้นเราอาจเห็นอะไรดีๆ ในการยืนคู่กันของสองคนนี้เหมือนเกมที่ถล่ม สเปอร์ส เหมือนต้นซีซั่นก็เป็นได้
จอร์ดอน ไอบ์ คืออนาคตที่รุ่งโรจน์ของ ลิเวอร์พูล
ฟอร์มในการเล่นให้ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เมื่อตอนต้นฤดูกาลร้อนแรงเกินห้ามใจ จนทำให้ ร็อดเจอร์ส อดรนทนไม่ไหวต้องเรียกตัวปีกดาวรุ่งกลับมาในช่วงเดือนมกราคม
ไอบ์ ทำผลงานได้โดดเด่นมากๆ ในเวลที แชมเปี้ยนชิพ พอได้กลับช่วยทีมในครึ่งหลังของฤดูกาล เขาก็พกพามาทั้งความแข็งแกร่งและความมั่นใจให้เห็นในทันที ไม่ว่าจะเกมที่ออกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน, เจอ เบซิคตัส และ สเปอร์ส ในบ้าน ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า ไอบ์ พร้อมแล้วสำหรับการแข่งขันในระดับสูง
การต่อสัญญากับทีมในระยะยาว 5 ปี บ่งชี้ชัดเจนว่า ไอบ์ คือสตาร์ที่แท้จริงของ ลิเวอร์พูล ในเร็ววันนี้
ร็อดเจอร์ส ต้องแก้ไขตำแหน่งแบ็กขวาโดยด่วน
เอ็มเร่ จัน จบฤดูกาลนี้ด้วยการเล่นตำแหน่งฟูลแบ็กขวาถึง 6 นัด และผลที่ออกมาคือกระเสือกกระสนเอาตัวแทบไม่รอด และมันไม่เวิร์คอย่างมาก
ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้จัดการทีมจึงทำลายอนาคตของ จัน ด้วยการโยกไปเล่นในพื้นที่ๆ ไม่ใช่ธรรมชาติของเขา เรื่องนี้คงมี ร็อดเจอร์ส เพียงผู้เดียวที่รู้คำตอบในเรื่องนี้
พื้นที่นี้ยังมี ฆาเบียร์ มานกิโญ่ ที่เซ็นยืมตัว 2 ปี เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยระยะเวลาของสัญญานี้ยังเชื่อว่า มานกิโญ่ ยังมีอนาคตในระยะยาวกับทีมหงส์แดงอยู่
เริ่มแรก มานกิโญ่ เล่นได้อย่างน่าประทับใจในช่วงครึ่งแรกของซีซั่น แต่แล้วอยู่ๆ ก็มาถูก ร็อดเจอร์ส ดร็อปออกจากทีม แล้วให้ เกล็น จอห์นสัน รวมถึงคนอื่นๆ มาเสียบแทนเขา แม้กระทั่งนัดสุดท้ายที่โดน สโต๊ค ถล่ม 6-1 เขาก็ยังไม่ได้โอกาสอยู่ดี
ขืนยังเป็นแบบนี้อยู่ มันจะเป็นการทำลายพัฒนาการของ เอ็มเร่ จัน ที่มีศักยภาพในตำแหน่งกองกลางที่มีชั้นเชิงดีอย่างร้ายแรง
ทีมยังไม่ดีพอในการลุยศึกหนักบนเวทียุโรป
ซีซันนี้ทีมของเรามีโอกาสรำลึกประวัติศาสตร์ด้วยการไปเยือน อตาเติร์ก สเตเดี้ยม ถิ่นของ เบซิคตัส สนามที่ทีมเคยได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 บนเวที ยูโรป้า ลีก ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
แต่แล้วเราก็ต้องตกรอบด้วยน้ำมือของ เบซิคตัส อยู่ดี ร่วงตกรอบบอลยุโรป 2 รายการซ้อน และถ้าพูดกันตามตรง ลิเวอร์พูล ยังไม่มีนัดไหนเลยในทั้ง 2 ถ้วยยุโรปที่เล่นได้ดีแบบชัดเจนสักนัด ซึ่งผิดวิสัยความเป็น ลิเวอร์พูล ที่มักทำผลงานได้ดีเสมอเมื่อเล่นบอลยุโรป
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ต้องปรับปรุงหากคิดเป็นกัปตันถาวร
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ต้องจากทีมไป พร้อมทิ้งปลอกแขนไว้ให้เป็นคำถามของทีม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเท่าไร เพราะ เฮนเดอร์สัน ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ห้าวหาญได้ดีในซีซั่น 2014-15
ความกล้าหาญของ เฮนโด้ ฉายแววตั้งแต่เกมพบ เบิร์นลี่ย์ เมื่อเดือนมีนาคม ในตอนที่มีปากเสียงกับ ดีเอโก้ คอสต้า ในเกม ลีก คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศที่เสมอกันไป 1-1 เขาทำให้เห็นว่าตัวเขาดุดันไม่ต่างไปจาก เจอร์ราร์ด และยังสามารถปกป้องเพื่อนร่วมทีมได้ เหมือนที่ สตีวี่ จี เคยทำมาโดยตลอด
ปีนี้เขามีพัฒนาการที่มากขึ้นในแง่ของการสร้างสรรค์เกม แอสซิสต์ได้เยอะในฤดูกาลนี้ และมีส่วนสำคัญที่มำให้ ลิเวอร์พูล ครอบครองบอลได้มากในแดนกลาง
อย่างไรก็ดี เฮนเดอร์สัน ยังคงต้องปรับปรุงเกมของเขาให้คงที่ต่อเนื่องกว่านี้ โดยเฉพาะกับเกมบิ๊กแมตช์ที่มักหายไปจากเกมบ่อยๆ
ซิมง มิโญเลต์ ต้องการคู่แข่งกดดันตำแหน่งมือ 1
ที่ผ่านมา มือ2 ของทีมอย่าง แบร็ด โจนส์ ไม่เคยโชว์ฟอร์มที่จะทำให้ มิโญเลต์ ต้องหวั่นเกรงว่าจะเสียตำแหน่งได้เลย และ โจนส์ ก็เตรียมพร้อมที่จะย้ายออกไปจากทีมในหน้าร้อนนี้แล้ว
ซีซั่นนี้นายด่านออสซี่ ลงเฝ้าเสาแค่ 3 นัด ในช่วงที่ มิโญเลต์ โดนดร็อป และก็พาเสียประตูถึง 5 ลูก จาก 2 นัดที่พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล ยิ่งย้ำชัดว่า โจนส์ ไม่ได้มีศักยภาพจะมาแย่งตำแหน่งได้เลยทั้งชื่อเสียงและฝีมือ
ตอนนี้ มิโญเลต์ ดวลกับ โจ ฮาร์ท ในการแย่งรางวัลถุงมือทองคำในฤดูกาลนี้ ซึ่งมาจากฟอร์มที่เหนียวหนึบอยู่พักใหญ่ๆ ของเขา และเราก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ต่อไปในซีซั่นที่จะมาถึง
การจากไปของ โจนส์ ถึงเวลาแล้วที่ ลิเวอร์พูล ต้องมีแบ็คอัพที่มีฝีไม้ลายมือมาแข่งขันกดดันตำแหน่งมือ 1 ให้ได้มากกว่าที่เคย
แท็คติกที่หลากหลายเป็นเรื่องดี แต่อย่าเปลี่ยนแปลงบ่อยนัก
แผนการเล่น 3-4-2-1 คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการจัดผู้เล่นอย่าง จัน, ไอบ์, อัลแบร์โต้ โมเรโน่, อดัม ลัลลาน่า และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ให้ต้องมายืนตำแหน่งที่ไม่ใช่ธรรมชาติของตนเอง แล้วยังต้องมาโดนสลับไปๆ มาๆ ในระหว่างเกมอีก หลายนัดก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันเวิร์คดี
อย่างไรก็ตาม คุณภาพของผู้เล่นอย่าง ลัลลาน่า หรือ ไอบ์ คงไม่ใช่ความยืดหยุ่นที่เล่นได้หลายตำแหน่งเป็นแน่ เพราะมันยิ่งไปจำกัดคุณภาพในการเล่นของพวกเขามากกว่า พวกเขาต่างก็มีสไตล์ในตำแหน่งของตนเองชัดเจน
หลายๆ ครั้งในฤดูกาลนี้ ร็อดเจอร์ส เปลี่ยนแผนการเล่นระหว่างเกม 3 -4 ครั้งในเกมเดียว จนทำให้ผู้เล่นเกิดความสับสนในใจว่า ฉันจะเล่นตำแหน่งนี้ยังไง? แล้วมันจะแตกต่างจากที่เคยเล่นยังไง ?
ดังนั้นความยืนหยุ่นของผู้เล่นถือว่าเป็นเรื่องดีของทีม แต่ก็ต้องให้ถูกต้องกับแต่ละสถานการณ์จะดีที่สุด
ซื้อขายผู้เล่นให้ฉลาดกว่านี้หน่อย อย่าเอาแต่เกรดบี
ต้นฤดูกาล บีร็อด เคยคุยโขมงใหญ่โตว่าการได้ตัว มาริโอ บาโลเตลลี่ มาจาก เอซี มิลาน จัดว่าเป็นการทำธุรกิจที่ชาญฉลาดที่สุดอย่างแท้จริง แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ เงียบไปเลย นี่ยังไม่รวมถึงผู้เล่นอย่าง มานกิโญ่ และ มาร์โควิช ที่ซื้อมาเดินแฟชั่นหรืออย่างไรไม่ทราบ เพราะไม่ค่อยได้ให้ลงสนามสักเท่าไร ยิ่งการซื้อมาแล้วไม่ให้ลงสนาม ยิ่งสะท้อนว่า สายตาของผิดพลาดในการประเมินนักเตะในตลาดซื้อขาย จนไม่กล้าแม้แต่จะใช้งาน
ซัมเมอร์นี้ ลิเวอร์พูล ต้องเลิกได้แล้วในการซื้อผู้เล่นแบบไม่คิดหน้าคิดหลังอย่างถี่ถ้วน อย่างน้อยควรเป็นตัวที่มีดีกรีมีชื่อเสียงบ้าง และพร้อมเอามาใช้งานได้ทันที เลิกปั้นเด็กได้แล้ว มันเสียเวลารู้ไหม ร็อดเจอร์ส เอ๊ย ถ้ายังดื้อด้านอยู่ก็ควร GET OUT ไปได้แล้ว
ADS
- สล็อตเว็บตรง
- https://slope.org/
- สล็อตเว็บตรง
- สล็อตเว็บตรง
- https://track21houston.com/
- สล็อตเว็บตรง