หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / วีรบุรุษแห่งค่ำคืนที่ อิสตันบูล ตอนนี้พวกเขาทำอะไรอยู่ ?

วีรบุรุษแห่งค่ำคืนที่ อิสตันบูล ตอนนี้พวกเขาทำอะไรอยู่ ?

earthmomo 2015-05-26 18:40:35 ลิเวอร์พูล
วีรบุรุษแห่งค่ำคืนที่ อิสตันบูล ตอนนี้พวกเขาทำอะไรอยู่ ?

 วีรบุรุษแห่งค่ำคืนที่ อิสตันบูล ตอนนี้พวกเขาทำอะไรอยู่ ?

 

     เชื่อว่าเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต่างไม่มีทางลืมค่ำคืนที่แสนมหัศจรรย์ที่ อิสตันบูล เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ปี 2005 ได้แน่นอน และในเมื่อวานนี้ก็ผ่านมาแล้วถึง10 ปี กับการเถลิงบัลลังก์แชมป์ในเวทียุโรปถ้วยใหญ่ วันนี้เราเลยถือโอกาสตามติดชีวิต 14 ฮีโร่ ของพวกเราว่าตอนนี้พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่ครับ...

 

The heroes of 2005: Where are they now?

เจอร์ซี่ ดูเด็ค

     ดูเด็ค ถือเป็นผู้เล่นที่สร้างความมหัศจรรย์ในเกมนัดนั้นพอสมควร เมื่อเขาสามารถเซฟลูกยิงเผาขนของ อังเดร เชฟเชนโก้ ได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยลูกยิงนัดดังกล่าวถูกเปรียบดั่งลูกยิงที่พลาดแห่งทศวรรตเลยก็ว่าได้

     นอกจากนี้เจ้าตัวยังสามารถหยุดลูกยิงของ อันเดรีย ปีร์โล และ อังเดร เชฟเชนโก้ อีกครั้งในช่วงดวลจุดโทษ ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์ถ้วยบิ๊กเอียร์ไปครองอย่างเหนือความคาดหมายในปี 2005 นั่นเอง

     หลังจากนั้น ดูเด็ค ได้โยกไปเป็นนายประตูมือสองของ กาซิยาส ในปี 2007 และยุติบทบาทตัวเองในนามทีมชาติเมื่อปี 2011 และประกาศแขวนถุงมืออย่างถาวรเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมานั่นเอง

สตีฟ ฟินแน่น

     ฟินแน่น คือนักเตะที่สร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี แม้เขาจะไม่ใช่ผู้เล่นที่มีสไตล์การเล่นที่หวืหวา แต่เจ้าตัวคือหนึ่งในนักเตะที่เล่นได้คงเส้นคงวาที่สุดคนนึงในทีม แต่ในเกมการแข่งขันดังกล่าวเจ้าตัวถือว่าโชคร้ายไม่น้อยหลังมีอาการบาดเจ็บในครึ่งเวลาแรกที่ อิสตันบูล

     ดาวเตะชาวไอริชรายนี้อยู่ค้าแข้งกับทีมไปจนถึงปี 2008 ก่อนจะย้ายไปร่วมทัพ เอสปันญ่อล และกับมาแขวนสตั๊ดที่ พอร์ทสมัธ ในปี 2010 ปัจจุบันเจ้าตัวประกาศอย่างชัดเจนว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลอีกหลังปิดฉากชีวิตค้าแข้ง

ซามี่ ฮูเปีย

     เมื่อ ฮูเปีย ได้ยืนจับคู่กับ คาร์ราเกอร์ ยิ่งทำให้แผงหลังในทีมยุคนั้นยากที่จะมีทีมใดฝ่าไปได้ ทั้งนี้ ฮูเปีย ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งในปราการหลังที่แข็งแกร่งที่สุดสโมสรแห่งนี้ในยุคหลัง ๆ อีกด้วย

     หลังจาก ฮูเปีย แขวนสตั๊ดในปี 2011 เจ้าตัวได้เข้ารับตำแหน่งเป็นเทรนเนอร์ของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อเดือน พฤษภาคม ปี 2012 ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งเพื่อมาเป็นผู้จัดการทีม ไบรตัน ในเดือน ธันวาคม ปี 2014


เจมี่ คาร์ราเกอร์

     คาร์ราเกอร์ ปิดฉากอาชีพการแข้งกับ ลิเวอร์พูล ไปเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา พร้อมสถิติลงสนามให้ต้นสังกัดทั้งสิ้น 737 นัดรวมทุกรายการ จากเกมการแข่งขันที่ อิสตันบูล ปี 2005 คาร์ราเกอร์ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมป้องกันประตูสำคัญจาก มิลาน ได้ และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเกมนัดนั้นเขาถึงได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วทุกสารทิศจากเหล่าแฟนบอล

     หลังจากแขวนสตั๊ด เชื่อว่าใคร ๆ หลายคนคงไม่อาจคาดคิดว่าเขาจะมาทำหน้าที่เป็นกูรูของทาง สกาย สปอร์ต โดยมี แกรี่ เนวิลล์ เป็นคู่หูด้วย เพราะถ้าใครยังจำกันได้ แกรี่ เนวิลล์ ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจยามเจอกันในศึกแดงเดือดในยุคที่ทั้งคู่ยังคงค้าแข้งอยู่

ฌิมี่ ตราโอเร่

     เรามักจะจดจำภาพความเฟอะฟะของเขาในช่วงที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสร แต่ถึงกระนั้น ตราโอเร่ ยังคงเป็นหนึ่งในวีรบุรุษในค่ำคืนที่แสนวิเศษที่ อิสตันบูล และมีส่วนช่วยให้ทีมมาถึงความสำเร็จในวันนั้นได้

     กองหลังรายนี้รับใช้สโมสร ลิเวอร์พูล ไปทั้งสิ้น 141 เกม จากระยะเวลา 7 ปี ก่อนจะออกจากสโมสรในปี 2007 หลังจากนั้นเขาได้ไปค้าแข้งให้กับ ชาร์ลตัน และโยกไปเล่นให้ โมนาโก และ มาร์กเซย ก่อนไปแขวนสตั๊ดกับ ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ ใน เมเจอร์ลีก เมื่อในเดือน พฤศจิกายน ปี 2014

ชาบี อลอนโซ่

     เพียงฤดูกาลแรกของเขากับ ลิเวอร์พูล อลอนโซ่ ก็กลายเป็นส่วนสำคัญกับทีมและมีช่วงเวลาอันน่าทึ่งกับสโมสรในเกมการแข่งขันนัดนี้ และชายหนุ่มจากแคว้นบาสก์คนนี้นี่เองที่เป็นผู้ยิงประตูตีเสมอให้ทีมหลังถูก เอซี มิลาน ยิงนำไปถึง 3-0

     มิดฟิลด์จอมทัพรายนี้ถูกยกย่องให้เป็นสุดยอดกองกลางของทีมนับตั้งแต่ปี 2004-2009 ที่เขาอยู่รับใช้ทีม ก่อนจะถูกมหาอำนาจจากสเปนอย่าง เรอัล มาดริด ดึงตัวไป และปัจจุบันเจ้าตัวกำลังค้าแข้งให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากเยอรมันอยู่ ณ ตอนนี้

หลุยส์ การ์เซีย

     ดาวเตะเลือดสเปนผู้นี้ ถือเป็นส่วนสำคัญที่พาทีมทะลุถึงรอบชิงในปี 2005 โดยเฉพาะประตูสำคัญในเกมพบ เชลซี รอบรองชนะเลิศที่แอนฟิลด์ ส่งลูกทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่ กลับบ้านไปแบบชอกช้ำ

     หลังจากนั้น หลุยส์ การ์เซีย ก็ได้ออกจากรั้วแอนฟิลด์ไปเมื่อปี 2007 เพื่อไปค้าแข้งกับ แอตฯ มาดริด ในบ้านเกิด ก่อนจะโยกไปค้าแข้งยังประเทศกรีซกับ พานาธไนกอส หลังจากนั้นเจ้าตัวได้ระหกระเหินไปยังลีก เม็กซิโก และ ปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับสโมสร แอตเลติโก โกลกาตา ในอินเดีย ซุปเปอร์ลีก เป็นสโมสรสุดท้าย

สตีเว่น เจอร์ราร์ด

     เจอร์ราร์ด ถูกยกย่องให้เป็นผู้เล่น ลิเวอร์พูล ที่ดีที่สุดของสโมสรในตอนนี้ เมื่อลองมองย้อนไปในเกมที่ อิสตันบูล กัปตันหนุ่มท้องถิ่นผู้นี้แหละที่เป็นผู้ยิงประตูจุดประกายความหวังและสามารถคว้าแชมป์มาประดับสโมสรได้สำเร็จ

     ปัจจุบัน กัปตันวัย 34 ปีผู้นี้ กำลังจะออกจากสโมสรเพื่อไปแสวงหาความท้าทายใหม่ในแดนมะกันหลังจบซีซั่น และปลายทางของเขาก็คือ แอลเอ กาแล็กซี สโมสรดังประจำศึก เมเจอร์ ลีก นั่นเอง

แฮร์รี่ คีเวลล์

     ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าไม่น้อยที่ คีเวลล์ มักเจอปัญหาอาการบาดเจ็บมาโดยตลอดอาชีพค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล จากปัญหาบาดเจ็บนี้เองที่ทำให้เจ้าตัวต้องย้ายออกจากสโมสรเพื่อไปค้าแข้งให้กับ กาลาตาซาราย ยอดทีมจากตุรกี ก่อนจะไปแขวนสตั๊ดที่ออสเตรเลียบ้านเกิดเมื่อเดือน มีนาคม ปี 2014 และเล่นให้ เมลเบิร์น วิคตอรี่ เป็นสโมสรสุดท้าย

ยอห์น อาร์เน รีเซ่

     แข้งซ้ายตีนระเบิดผู้นี้ถือเป็นนักเตะแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในยุค 10 ปีหลังเลยก็ว่าได้ แถมเจ้าตัวยังเป็นผู้บรรจงเปิดบอลให้ เจอร์ราร์ด โหม่งทำประตูจุดประกายความหวังในเกมที่ อิสตันบูล อีกด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม รีเซ่ มักเป็นที่ชื่นชอบของบรรดา "เดอะ ค็อป" ตลอดช่วงเวลาที่เขาค้าแข้งกับสโมสร

     ในปี 2008 รีเซ่ ได้ตัดสินใจอำลาสโมสรเพื่อไปค้าแข้งกับ โรม่า ที่ อิตาลี ก่อนจะกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับสโมสร ฟูแล่ม ปัจจุบันเจ้ากำลังค้าแข้งให้กับ อโปเอล เทลอาวีฟ ในไซปรัสด้วยวัย 34 ปี นอกจากนี้เจ้าตัวยังประกาศชัดเจนว่าต้องการค้าแข้งไปจนถึงอายุ 40 ปีเลยทีเดียว

มิลาน บารอส

     แม้ บารอส มักจะถูกสาวก "เดอะ ค็อป" ค่อนขอดว่าเป็นหัวหอกที่ใช้โอกาสเปลืองคนนึงในช่วงนั้น แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีส่วนให้ทีมกลับมาสู่เว้นทางได้อีกครั้งในเกมวันนั้น ถ้าใครยังจำกันได้ เขานี่แหละที่เป็นผู้บังทางให้ ดีด้า นายทวารของ มิลาน เสียจังหวะจากลูกยิงไกลของ วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ จนประตูที่สอง และเป็นผู้ต้องส้นให้ เจอร์ราร์ด ทะลุเข้าไปในเขตโทษและเป็นที่มาจากลูกยิงบีบหัวใจของ อลอนโซ่ ในเกมนั้น

     หลังจากนั้นเจ้าตัวถูก ลิเวอร์พูล ปล่อยตัวไปค้าแข้งกับ แอสตัน วิลล่า หลังจบฤดูกาลนั้น ก่อนระหกระเหินจากพรีเมียร์ลีก ไปค้าแข้งกับทีมในยุโรปมากมายไม่ว่าจะเป็น ลียง จากฝรั่งเศส และ กาลาตาซาราย ที่ตุรกี ปัจจุบันเจ้าตัวค้าแข้งให้กับสโมสร บานิค ออสตราว่า ทีมในสาธารณรัฐเช็คบ้านเกิดของเขา

นักเตะตัวสำรอง

ดีทมาร์ ฮามันน์

     ฮามันน์ ถูก เบนิเตซ ผู้จัดการทีมในสมัยนั้นเปลี่ยนตัวลงมาแทน ฟินแน่น ที่มีอาการบาดเจ็บ และถือเป็นการปรับหมากที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเทรนเนอร์เลือดสเปนผู้นี้ก็ว่าได้ เมื่อ ฮามันน์ สามารถช่วยให่ทีมเก็บบอลและทำให้ เจอร์ราร์ด และ อลอนโซ่ มีอิสระในการเล่นเกมรุกมากขึ้นนั้นเอง ปัจจุบัน ฮามันน์ ยังคงไม่หายหน้าหายตาไปไหน เนื่องจากเจ้าตัวยังคงออกมาให้สัมภาษณ์ผ่าน LFCTV ให้เราได้เห็นกันบ่อย ๆ

วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์

     ซมิเซอร์ ถูกส่งลงมาแทน แฮร์รี่ คีเวลล์ ที่ได้รับบาดเจ็บในนาทีที่ 23 ของเกม ในเกมนั้นนี้เจ้าตัวได้ฝากผลงานไว้อย่างยอดเยี่ยมหลังเป็นผู้ยิงประตูตีตื้นมาเป็น 3-2 ช่วยให้ทีมคัมแบ็กกลับมาในท้ายที่สุด

     หลังจากจบซีซั่นดังกล่าว ซมิเซอร์ ถูก ลิเวอร์พูล ปล่อยตัวไปร่วมทัพ บอร์โดซ์ และกลับไปคว้าแข้งยังสโมสรแรกของเขากับ ซาเวียร์ ปราก สโมสรแรกของเขาและแขวนสตั๊ดที่นั่นในปี 2009

ฌิบริล ซิสเซ่

     ซิสเซ่ หัวหอกจอมซัลโวจากลีกเอิง ถูก เบนิเตซ ส่งลงมาแทน บารอส และเจ้าตัวถือเป็นหนึ่งผู้กล้าในการยิงจุดโทษเพื่อตัดสินความเป็นเจ้ายุโรปในปีนั้น และ ซิสเซ่ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ปัจจุบัน ซิสเซ่ ยังคงค้าแข้งอยู่ในลีกบ้านเกิดกลับ บาสเตีย หลังผ่านการค้าแข้งทั่วทั้งยุโรปไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศ กรีซ, รัสเซีย, อิตาลี และ กาตาร์

ADS