หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- คริสตัล พาเลซ

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- คริสตัล พาเลซ

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- คริสตัล พาเลซ

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- คริสตัล พาเลซ

วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2015 เวลา 23.30 น.

สนาม แอนฟิลด์

ถ่ายทอดสดช่อง CTH Stadium 2

ผู้ตัดสิน โจนาธาน มอสส์

 

     เกมสุดดราม่าของพลพรรคเดอะค็อปทั่วโลก ที่เราจะได้เห็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันจอมเก๋าลงเล่นที่ แอนฟิลด์ เป็นหนสุดท้ายในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล หลังรับใช้ทีมมาอย่างยาวนานกว่า 17 ปี ด้วยความจงรักภักดีและกลายมาเป็นสัญลักษณ์ผู้เป็นแรงบันดาลใจของทีม และมาสู่เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อในถิ่น เมอร์ซีย์ไซด์ ซึ่ง เจอร์ราร์ด ก็ยอมรับว่านี่จะเป็นประสบการณ์ที่หลากหลายอารมณ์เป็นแน่ในเกมสุดสัปดาห์นี้ ท่ามกลางกองเชียร์ที่เป็นสักขีพยานของการลาจากที่สุดยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาดสำหรับแฟนพันธุ์แท้ทุกคน

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 5 ของผู้จัดการทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไม่มีรายงานของผู้เล่นเจ็บเข้ามาเพิ่มเติมในวันนี้ ซึ่งเพียง โฆเซ่ เอ็นริเก้, จอน เฟลนาแกน และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่เจ็บอยู่ ในขณะที่ มามาดู ซาโก้ กับ มาริโอ บาโลเตลลี่ ต้องลุ้นความฟิตก่อนเกมอีกครั้ง คาดว่า ร็อดเจอร์ส จะใช้ระบบ 4-2-3-1 และใช้ผู้เล่นจากเกมล่าสุดที่เสมอกับ เชลซี 1-1 ทั้งชุด โดยยังคงมอบหน้าที่หัวหอกตัวเป้าให้ ริคกี้ แลมเบิร์ต รับผิดชอบตามสูตร ส่วนแผงเกมรุกวาง อดัม ลัลลานา, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ผนึกกำลังป่วนเกมคู่แข่ง นอกจากนี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะได้รับโอกาสลงสนามเป็นเกมสุดท้ายอำลาแอนฟิลด์อีกด้วย ห้ามพลาดเด็ดขาด

สภาพทีมล่าสุด : คริสตัล พาเลซ

     ส่วนทางฝั่งของทีมเยือนอย่าง คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 12 ของกุนซือ อลัน พาร์ดิว ไม่มีรายงานของตัวเจ็บเพิ่มเติมเข้ามารบกวนในการจัดทีม คาดว่า พาร์ดิว จะใช้ผู้เล่นชุดเดิมกับเกมที่พ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 ยกเซ็ต โดยมี เกล็นน์ เมอร์เรย์ เป็นหน้าเป้าและวาง ยานนิค โบลาซี่, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ กับ วิลเฟร็ด ซาฮา เป็นสามประสานในเกมรุก และส่ง ไมล์ เยดินัก กับ โจ เล็ดลี่ย์ เป็นคู่มิดฟิลด์คุมเกมแดนกลาง ในขณะที่แผงแบ็คโฟร์เป็นหน้าที่ของ โจเอล วอร์ด, สกอตต์ แดนน์, ดาเมี่ยน เดลานี่ย์ และ ปาเป้ ซูอาเร่

คีย์แมน

ลิเวอร์พูล : สตีเว่น เจอร์ราร์ด

     แม้จะผ่านจุดพีกของตัวเองมานานมากแล้ว และดูเหมือนจะทำผลงานในดร็อปลงไป แต่กระนั้นในฤดูกาลนี้เขาก็ยังเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมอีกครั้ง และก็เพิ่งจะยิงประตูได้มาหมาดๆ 2 ประตู ทั้งลูกโขกนำชัยเหนือ ควีนส์ปาร์ค และโหม่งตีเสมอ เชลซี เมื่ออาทิตย์ก่อน

     ผลงานล่าสุด ณ ขณะนี้ เจอร์ราร์ด ยิงไปแล้ว 8 ประตู อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษสร้างสรรค์โอกาสได้ 49 ครั้ง พร้อมเปอร์เซนต์การจ่ายบอลที่แม่นยำ 85 % บ่งบอกถึงสายตาของเขายังไม่ฝ้าฟางแต่อย่างใด และก็ยังมีความคมในการซัดประตูถึง 51 % ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับคนอายุ 34 ปี

คริสตัล พาเลซ : เจสัน ปันเชียน

     เขาจัดเป็นว่าคนที่แบกทีม พาเลซ มาตลอด 2 ซีซั่นที่ผ่านมา เขามีความสามารถในการซัดประตูและสร้างสรรค์จังหวะให้เพื่อนได้ดีที่สุดของ ดิ อีเกิ้ลส์ และมักสร้างความแตกต่างเสมอในการที่กดดัน เล่นได้ยาก แค่เขาคนเดียวก็มีสถิติที่ดีกว่าใครๆ ในทีม ด้วยผลงานซัด 5 ประตู และ 7 แอสซิสต์

     ล่าสุด ปันเชียน ลุกจากม้านั่งสำรองลงมาอัดลูกฟรีคิกตีเสมอใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ท้ายที่สุดจะแพ้ไปก็ตาม แต่ก็ยังเป็นสัญญานในทางบวกของ พาเลซ ค่าเฉลี่ยของ ปันเชียน ในการแอสซิสต์ คือทำได้ทุกๆ 4 เกม พร้อมค่าเฉลี่ยสร้างโอกาส 2.14 ครั้งต่อ 90 นาที ความแม่นยำในการผ่านบอลก็สูงถึง 77% ทั้งหมดนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาช่วยทีมให้หลุดจากโซนตกชั้นมาอยู่กลางตารางได้ไม่ยากถึงตอนนี้

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

     "เจอร์ราร์ด มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเมืองนี้ในแบบที่นักการเมืองยังทำไม่ได้ ไม่ว่าจะโรงพยาบาลท้องถิ่น งานการกุศล ทั้งหมดเขาล้วนทำทุกอย่าง เขาคือสัญลักษณ์ที่น่าอัศจรรย์ของผู้คนที่นี่ เขาคือสัญลักษณ์ที่เหลือเชื่อของสโมสรแห่งนี้"

อลัน พาร์ดิว

     "ผมเคยได้ยินว่าประตูที่ดีที่สุดของเขาคือลูกที่ยิงตีเสมอใส่ เวสต์แฮม ในเกมชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เขาคือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงรักทีมของเขาเหลือเกิน หลังจบเกมนั้นเขาเข้ามาปลอบใจผม แทนที่จะไปฉลองแชมป์ มันแสดงให้เห็นว่าเขาคือคนที่ยิ่งใหญ่เพียงใด"

ฟอร์มการเล่น

     ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ชนะเพียง 2 จาก 7 เกมหลังสุดในลีก และยิงได้แค่ 7 ประตู โดยชัยชนะทั้ง 2 นัดเกิดขึ้นในเกมที่พบ นิวคาสเซิล และ คิวพีอาร์ ส่วนทีมเยือนของ อลัน พาร์ดิว หลังจากมีช่วงที่ชนะ 4 เกมติดต่อกัน จากนั้นก็ตกต่ำแพ้รวดต่อเนื่อง 4 นัดติด ซึ่งถือเป็นสถิติเลวร้ายรองจากที่เคยแพ้ 7 เกมรวดในช่วงกันยายน - พฤศจิกายน ปี 2013 เลยทีเดียว แถมเสียประตูติดต่อกัน 12 เกมแล้ว ณ ขณะนี้

ประวัติการพบกัน

     คริสตัล พาเลซ ไม่สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้เลยที่ แอนฟิลด์ มาเป็นระยะเวลา 24 ปีเต็ม นับตั้งแต่เคยบุกมาชนะ 2-1 เมื่อพฤศจิกายน 1991 จากประตูของ มาร์โก กับเบียดินี่ และ เจฟฟ์ โธมัส แต่กระนั้นพวกเขาก็แพ้เพียงแค่หนเดียว จาก 4 เกมล่าสุดที่เจอกับทีมหงส์แดงในลีก

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

 

 

 

ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ - เอ็มเร่ ชาน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, เกล็น จอห์นสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด - อดัม ลัลลานา, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, ราฮีม สเตอร์ลิง - ริคกี้ แลมเบิร์ต

 

คริสตัล พาเลซ : จูเลี่ยน สเปโรนี่ - โจเอล วอร์ด, สกอตต์ แดนน์, ดาเมี่ยน เดลานี่ย์, ปาเป้ ซูอาเร่ - ไมล์ เยดินัก, โจ เล็ดลี่ย์ - ยานนิค โบลาซี่, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, วิลเฟร็ด ซาฮา - เกล็นน์ เมอร์เรย์

 

 

ทรรศนะ SIAMLIVERPOOL

      แม้ว่าทีมเยือน คริสตัล พาเลซ จะเปิดบ้านพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 แต่รูปเกมในวันนั้นพวกเขาสู้ได้ไม่เป็นรอง เพียงแค่ขาดความเฉียบคมในจังหวะสุดท้ายเท่านั้นเอง อย่างไรก็ดี "ปราสาทเรือนแก้ว" มีสถิติเกมเยือนในลีกไม่ธรรมดา ด้วยผลงานชนะ 5 นัดจาก 7 เกมหลังสุด และถนัดนักเรื่องการทำประตูนอกบ้าน ซึ่งกดไปถึง 13 ประตูเลยทีเดียวจาก 7 เกมดังกล่าว งานหนักจะตกไปอยู่ที่เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล เพราะ 5 เกมหลังสุดของ "หงส์แดง" ยิงประตูได้แค่ 4 ลูกเท่านั้น ฟอร์มปืนฝืดยิงใครได้ยากแบบนี้แม้ว่าจะเป็นเกมสั่งลา สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่เชื่อว่าทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ก็ไม่ง่ายที่จะบุกให้มายำเล่น เชื่อว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล น่าจะทำได้เพียงแค่เสมอเท่านั้น

ฟันธง : ลิเวอร์พูล เสมอ 1-1

ADS