ขาย สเตอร์ลิ่ง คุ้มค่าหรือเสียหายกับ ลิเวอร์พูล ??

ขาย สเตอร์ลิ่ง คุ้มค่าหรือเสียหายกับ ลิเวอร์พูล ??

     เมื่อวานนี้มีข่าวสะพัดกันให้แซดถึงการที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไอ้น้องหยอยของพวกเรากำลังจะย้ายบ้านไปอยู่ที่ลอนดอน ยิ่งทำให้ความเป็นไปได้ในการที่ สเตอร์ลิ่ง จะย้ายทีมหลังจบฤดูกาลมีสูงขึ้น ส่วนจะจริงเท็จแค่ไหนอันนี้ไม่มีใครรู้หรอก แต่วันนี้เราจะมาดูถึงผลกระทบที่จะตามมา หากว่าไอ้หนูคนนี้คิดลาทีมขึ้นมาจริงๆ

     อ้างอิงจาก เดลี่ เมล์ สื่อใหญ่ในอังกฤษกล่าวถึง สเตอร์ลิ่ง วัย 20 ปี ว่า "ลิเวอร์พูล ยังคงตั้งความหวังที่จะต่อสัญญากับเขาอีก 5 ปี และพร้อมที่จะมีการนัดพูดคุยเจรจากันอีกรอบหนึ่ง แม้จะเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างยากลำบากก็ตาม"

      ทางด้าน ฟิล ธอมป์สัน ตำนานกองหลังของทีมก็ดูจะทำใจไปแล้วกับ สเตอร์ลิ่ง โดยพูดเพียงว่า "ผมคิดว่ามันคงยากมากที่จะได้เห็น สเตอร์ลิ่ง อยู่กับทีมต่อไป เขาแสดงสัญญานออกมาแล้วว่าพร้อมที่จากทีมไป"

พรสวรรค์พิเศษของ ราฮีม

     แม้ที่ผ่านมา แฟนๆ ต่างพากันเอือมระอากับความเล่นตัวเรื่องการต่อสัญญา จนคนส่วนใหญ่อยากเห็นไอ้หมอนี่โดนขายๆ ทิ้ง ให้มันจบๆไปสักที แต่ถ้าพูดถึงพัฒนาการของเขา ก็ต้องยอมรับว่า สเตอร์ลิ่ง พัฒนาขึ้นอย่างมากในวัยแค่ 20 ปี ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลา 18 เดือน

     ซีซั่นที่แล้ว สเตอร์ลิ่ง มีช่วงที่ฮอตพรวดพราดขึ้นมาในช่วงมกราคมถึงพฤษภาคม และมีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก้าวไปถึงรองแชมป์ พรีเมียร์ ลีก

     แม้ใครๆ จะมองว่าปีที่แล้วผลงานทีมดีได้ก็เพราะ หลุยส์ ซัวเรซ และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ แต่ สเตอร์ลิ่ง ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกันที่เป็นฟันเฟืองให้ทีมพุ่งทะยานในฤดูกาลที่แล้ว

     ในซีซั่นปัจจุบัน สเตอร์ลิ่ง ค่อนข้างจะทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน แต่กระนั้นเขาก็ยังเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการทำประตูมากที่สุด รวมไปถึงจำนวนการแอสซิสต์ให้เพื่อนสูงที่สุดร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

      ดังนั้นการต้องเห็น สเตอร์ลิ่ง โดนขายออกไป ท่ามกลางความสนใจของทีมร่วมลีกอย่าง แมน ซิตี้, เชลซี และ อาร์เซน่อล ที่ต่างจ้องตาเป็นมัน ในวันหนึ่งข้างหน้าเขาอาจกลับมาเป็นหอกข้างแคร่จัดการทีมเก่าเสียเอง และยิ่งตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ของทีมหงส์แดงที่ไม่สามารถรักษาสตาร์ของทีมเอาไว้ได้ในทุกซีซั่นอยู่เสมอ ??

ระวังสตาร์จะไม่เหลือเลย

     อย่างที่กล่าวไป การปล่อย สเตอร์ลิ่ง ไม่ใช่แค่การเสียนักเตะคนสำคัญออกไปเท่านั้น แต่มันยังสะท้อนถึงความอ่อนแอในตลาดซื้อขายนักเตะ อย่าลืมว่าฤดูกาลนี้ที่จะจบไป เราก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าซื้อนักเตะไม่ได้ความเอามาถมที่เล่น เสียเป็นส่วนใหญ่ แล้วจะมีอะไรการันตีได้ว่าจะได้คนที่เก่งจริงๆ หรือมีความสามารถเทียบเท่า สเตอร์ลิ่ง มาแทนได้

     มากไปกว่านั้นการขายนักเตะดีๆ ออกไป อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของสตาร์คนอื่นๆ อย่าง คูตินโญ่ ที่อาจจะต้องมีกังวลบ้างถึงความสำเร็จของตัวเองและทีม ลองนึกดูว่าถ้าซัมเมอร์นี้ เกิดมีข่าว บาเยิร์น มิวนิค อยากได้ เอ็มเร่ จัน ขึ้นมาจริงๆ จะว่ายังไง

     เพราะการมีผู้เล่นระดับท็อปย่อมสามารถดึงดูดแข้งดังคนใหม่ๆ ให้อยากมาร่วมทีม และเกิดแรงจูงใจที่อยากจะคว้าแชมป์ ประสบความสำเร็จในโทรฟี่ต่างๆ กับสโมสร

     ซีซั่นก่อนก็เห็นกันไปแล้วว่า สโมสรตัดสินใจขาย ซัวเรซ ง่ายเกินไป ทั้งๆ ที่ยังสามารถยื้อเรื่องสัญญาไว้ได้ และบางทีเรื่องแย่ๆ แบบนี้อาจเกิดขึ้นอีกกับ สเตอร์ลิ่ง ในหน้าร้อนนี้

     หลายคนอาจบอกว่า คนไม่มีใจก็อย่าไปรั้งมันเอาไว้เลย ก็ถือว่าถูกต้อง แต่การขาย สเตอร์ลิ่ง ให้ทีมใน พรีเมียร์ ลีก ด้วยกันถือเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย

มีอะไรดีจากการขาย?

     การขายนักเตะออกไปคนหนึ่งนั้น ยิ่งถ้าเป็นตัวคีย์แมน มันก็คงไม่มีอะไรดีสักเท่าไร แต่ด้วยเงินที่จะได้กลับมาอย่างมหาศาลในราคา 50 ล้านปอนด์เป็นอย่างน้อย ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ทดแทนกันได้ หลังจากที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าซัมเมอร์นี้ทีมถูกบีบงบประมาณการซื้อนักเตะ ดังนั้นเงินจำนวนนี้ย่อมเอามาใช้จ่ายซื้อนักเตะดีๆ เข้ามาแทนได้อีกหลายรายทีเดียว

บทสรุปจะเป็นอย่างไร

     เป็นเรื่องจริงที่ตอนนี้ เดอะค็อป ต่างมองว่า สเตอร์ลิ่ง ไม่ใช่นักเตะคนโปรดของทุกคนอีกต่อไป หลังจากล้มเหลวในการต่อสัญญากับทีม ถึงแม้ว่า ปีกวัย 20 ปี จะมีศักยภาพที่จะก้าวมาเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ดีที่สุดของโลกได้ แต่ความเป็นจริงก็มีเสียงทักท้วงถึงการจบสกอร์ที่แสนห่วย การตัดสินใจและจังหวะสุดท้ายที่ยังขาดความเฉียบขาด ยังคงเป็นคำถามว่าอนาคต สเตอร์ลิ่ง จะเก่งกว่านี้ได้จริงหรือ??

     บางทีเราคงต้องยอมรับกันแล้วว่า สเตอร์ลิ่ง คงไม่อยู่กับ ลิเวอร์พูล อีกต่อไปค่อนข้างแน่ ชนิดว่าบอกลากันได้ล่วงหน้า เรื่องนั้นเรายังคงต้องดูกันต่อไป อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ขอเพียงแค่ ร็อดเจอร์ส ต้องแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ในการคว้านักเตะที่มีความสามารถมาทดแทน อย่าให้ซ้ำรอยกับการเสีย ซัวเรซ แบบฤดูกาลที่แล้วก็พอ