หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / 10 เรื่องที่ ร็อดเจอร์ส ต้องทำกับ 6 นัดที่เหลือในลีก

10 เรื่องที่ ร็อดเจอร์ส ต้องทำกับ 6 นัดที่เหลือในลีก

10 เรื่องที่ ร็อดเจอร์ส ต้องทำกับ 6 นัดที่เหลือในลีก

10 เรื่องที่ ร็อดเจอร์ส ต้องทำกับ 6 นัดที่เหลือในลีก

     เป็นความจริงอันโหดร้ายที่แฟนบอลลิเวอร์พูลจะต้องเผชิญเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ หลังทีมรักของพวกเขาต้องกระเด็นตกรอบเอฟเอ คัพ จากการพ่ายแพ้ให้กับแอสตัน วิลล่า 2-1 ที่เวทบลีย์และแทบจะต้องบอกว่าความหวังให้ทีมจบซีซั่นนี้ด้วยตำแหน่งท็อปโฟร์ หลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่รั้งอันดับ 4 ของตาราง เปิดบ้านเอาชนะเวสต์ แฮมไป 2-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำแต้มหนีห่างลิเวอร์พูลเป็น 7 แต้มเข้าไปแล้ว

     ดังนั้นตอนนี้เห็นทีว่า "บีร็อด" จะต้องมองไปข้างหย้าและวางแผนที่จะนำไปคู่ความสำเร็จในซีซั่น 2015/16 โดยนี่อาจเริ่มต้นได้ด้วย 6 เกมสุดท้ายของซีซั่นนี้ แต่สิ่งที่เขาต้องทำการเปลี่ยนแปลงคืออะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย

ยึดมันในระบบการเล่น

     ร็อดเจอร์สพยายามหาความสมดุลและการโต้กลับเกมรุกของวิลล่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยได้ลองใช้แผน 3-4-3, 4-2-3-1 และ 4-3-3 แต่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อฟาเบียง เดลฟ์ และแจ็ค กรีลิช หาช่องว่างเจาะแนวรับของลิเวอร์พูลได้ตลอด

     นี่ไม่ใช่ปัญหาที่แปลกใหม่อะไรนัก และร็อดเจอร์สควรต้องปักหลักกับระบบการเล่นที่สมเหตุสมผล โดยยึดมั่นจากจุดแข็งของผู้เล่นในทีม 4-3-3 หรือ 4-4-2 เพชรอาจจะเป็นแผนที่ดีที่สุดสำหรับทีมก็ได้

ให้โอกาส ฆาเบียร์ มานกีโญ่

     จากเกมที่แพ้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีนักเตะคนหนึ่งที่ดูเหมือนเกือบจะอยู่นอกสายตา และไม่เป็นที่สนใจเลยก็คือแบ็คขวาดาวรุ่งชาวสเปน ฆาเบียร์ มานกีโญ่ ผู้ที่จองสัมปทานเป็นขาประจำในซุ้มม้านั่งสำรองของ "หงส์แดง"

     หนุ่มน้อยวัย 20 ปี ไม่ได้รับโอกาสจากร็อดเจอร์สเท่าไหร่นักในช่วงครึ่งหลังของซีซั่นหลังได้ออกสตาร์ทอย่างเจิดจรัสในช่วงแรก ที่โชว์ฟอร์มได้ดีจนกลายเป็นฟูลแบ็คที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูล

     ขณะที่นักเตะที่ใกล้จะอำลาทีมไปอย่างเกล็น จอห์นสันไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับทีมยามที่ลงสนาม ถึงเวลาของมานกีโญ่แล้วหละที่จะได้รับโอกาสอีกครั้งจากร็อดเจอร์ส

ลืมเรื่องความเกรงใจเจอร์ราร์ด

     การที่ผู้จัดการทีมเก็บเขาไว้บนสนามต่อไปแม้จะเปลี่ยนระบบหลายต่อหลายครั้งในเกมกับวิลล่าเป็นอะไรที่น่าฉงน ด้วยการเปลี่ยนให้เจอร์ราร์ดไปเล่นในแนวลึกซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นอะไรที่ล้มเหลวสุดๆกับสิ่งนี้ที่ร็อดเจอร์สเคยพูดไว้ด้วยตัวเองว่าเป็นจุดเปลี่ยนของทีม 

     การเก็บเขาไว้ในสนามโดยหวังว่าเขาจะสร้างความมหัศจรรย์ให้กับทีมได้อีกครั้งดูจะเป็นอะไรที่เข้าใจผิด เจอร์ราร์ดไม่ได้มีสภาพร่างกายเหมือนแต่ก่อน ไม่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้อีกต่อไป ว่ากันตามความจริงก็คือไม่ควรส่งเขาลงสนามด้วยความเกรงใจอีกต่อไป มันจำเป็นต้องจบได้แล้ว

ไม่ต้องส่งนักเตะที่คิดจะขายลงสนาม

     เจอร์ราร์ดใกล้จะอำลาทีมไปร่วมกับแอลเอ กาแล็คซี่ในช่วงจบซีซั่น มีหลายสโมสรสำหรับนักเตะส่วนเกินของลิเวอร์พูลที่ต้องการให้พวกเขาย้ายไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ หากพวกเขาเหล่านั้นวางแผนจะใช้ชีวิตกับสโมสรใหม่

     เกล็น จอห์นสัน, โคโล่ ตูเร่, แบรด โจนส์, ริคกี้ แลมเบิร์ต, ฟาบิโอ บอรินี่ และโฆเซ่ เอ็นริเก้ ดูเหมือนจะต้องย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ ในเมื่อตอนนี้ลิเวอร์พูลไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้ว ทำไมยังจะพวกเขาลงสนามอีกทำไม เพราะซีซั่นหน้าพวกเขาจะต้องย้ายออกไปอยู่ดี

ให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับ มาริโอ บาโลเตลลี่

     เกือบจะทำประตูตีเสมอ 2-2 ได้ที่เวมบลีย์ แต่กลับโชคร้ายถูกปฏิเสธโดยไลน์แมนซึ่งบอกว่ามันเป็นลูกล้ำหน้า ทั้งๆที่ไม่ได้ล้ำหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว

     บาโลเตลลี่เป็นนักเตะที่ไม่ค่อยถูกใช้งานโดยร็อดเจอร์สมากนัก และอาจจะต้องเดินตามเจอร์ราร์ดกับจอห์นสันและคนอื่นๆไปที่ประตูทางออกของทีม และถ้าหากจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาควรได้รับโอกาสอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ตัวเองกับ 6 นัดสุดท้ายในลีก ส่งเขาลงเล่นในระบบกองหน้าคู่เป็นอะไรที่คุ้มค่าที่จะลอง

โยก เอ็มเร่ จัน ไปเล่นมิดฟิลด์

     จัน ควรได้รับการวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดความสำเร็จในระยะยาวของเจอร์ราร์ด ด้วยแรงขับเคลื่อนในแดนกลางของลิเวอร์พูลและความเป็นผู้นำที่แท้จริง

     การลงเล่นในแนวรับของเขาดูเหมือนจะพัฒนากลยุทธการเล่นของเขา ตลอดจนสภาพร่างกายที่รับมือกับพรีเมียร์ ลีกได้สบายๆ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าควรให้เขาเปลี่ยนบทบาทไปเป็นนักรอบในแดนกลาง ไม่มีอะไรจะเสียกันอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาที่ร็อดเจอร์สควรส่ง จัน ไปเล่นมิดฟิลด์ได้เสียที

ให้ คูตินโญ่ ลงหลังปักฐานตรงกลางสนาม

     กองกลางชาวบราซิลเลียนได้ฉายแววเจิดจรัสภายใต้การคุมทีมของร็อดเจอร์สซีซั่นนี้ โชว์ฟอร์มแจ่มยิ่งกว่า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ปีนี้ดูเงียบๆไป และศูนย์หน้ากระดูกเปราะอย่าง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ จนได้สถาปนาตัวเองเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูล

     สิ่งที่เขามุ่งมั่นทำให้กับสโมสรตลอดมาแม้จะมีช่วงเวลาที่ยุ่งยากเล็กน้อยในช่วงต้นซีซั่นเป็นตัวบ่งชี้ถึงมูลค่าของเขา เขาคือคนที่ดีที่สุดในพื้นที่ตรงกลาง และควรให้เขาลงเล่นในตำแหน่งนี้ต่อไปเรื่อยๆในระยะยาว

โฟกัสกับพัฒนาการของ จอร์ดอน ไอบ์

     หลังจากประกาศออกมาเมื่อช่วงซัมเมอร์ว่าจอร์ดอน ไอบ์ มีคุณลักษณะทุกอย่างในการเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นตัวจริง และได้บอกเมื่อเร็วๆนี้ว่าเป็นนักเตะที่ "น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง" เห็นได้จัดว่าร็อดเจอร์สมีอนาคตอันยิ่งใหญ่ให้กับเจ้าหนูวัย 19 ปีรายนี้

     เมื่อสลัดอาการบาดเจ็บกลับสู่ทีมได้ ไอบ์ควรต้องได้ลงรับหน้าที่สำคัญในอีก 6 นัดสุดท้ายที่เหลือในซีซั่นนี้ ด้วยอนาคตของสเตอร์ลิ่งที่ยังไม่แน่นอน และนักเตะอย่างบาโลเตลลี่และสเตอร์ริดจ์ที่ยังต้องดิ้นรนทำประตู ร็อดเจอร์สจะเป็นคนที่ฉลาดมากหากเขาเลือกมุ่งเน้นไปที่พัฒนาการของไอบ์ให้เป็นทางออกในเกมรุกของทีม

ให้มาร์โควิชได้ลงเล่นตำแหน่งธรรมชาติของเขา

     นอกเหนือจากไอบ์แล้ว อีกหนึ่งนักเตะหนุ่มที่มีแววดี รอเวลาที่จะระเบิดฟอร์มในอนาคตอย่าง ลาซาร์ มาร์โควิช ควรได้รับโอกาสลงเล่นในเกมลีกที่เหลือเช่นกัน

     มาร์โควิชถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในช่วงพักครึ่งที่เวมบลีย์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของนักเตะเจ้าของค่าตัว 20 ล้านปอนด์รายนี้ ซึ่งได้รับโอกาสสร้างความประทับใจเพียงเล็กน้อยในตำแหน่งวิงแบ็ค

     ดาวรุ่งชาวเซอร์เบียได้เคยแสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีผลกระทบมากมายแค่ไหนในเกมรุก ที่เขาทำได้อย่างสุดยอดในอดีตกับเบนฟิก้า และเขาควรได้รับโอกาสสร้างความประทับใจเช่นนั้นด้วยการส่งเขาลงเล่นอย่างต่อเนื่องในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติของเขาตลอดทั้งซีซั่นที่เหลือ

ใช้ประโยชน์จากนักเตะเยาวชน

     ชื่อของเด็กหนุ่มกองกลางวัย 18 ปีคนหนึ่งที่โดดเด่นเกินเพื่อนในอคาเดมีคือ คาเมร่อน บรานนาแกน ที่เราต่างก็เคยได้เห็นชื่อของเขาปรากฏอยู่บนรายชื่อผู้เล่นสำรองของลิเวอร์พูลเมื่อไม่นานมานี้ รวมไปถึงในเกมการกุศลของเจอร์ราร์ด

     บรานนาแกน, แฮร์รี่ วิลสัน, เซอร์กี้ คานอส, เปโดร ชิริเบญ่า และไรอัน เคนท์ ทั้งหมดควรเข้าไปอยู่ในห้วงความคิดของร็อดเจอร์ส ที่จะส่งพวกเขาเหล่านี้ลงสนามในอีก 6 นัดที่เหลือ

ADS