พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- นิวคาสเซิล

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- นิวคาสเซิล

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน 2015 เวลา 02.00 น.

สนาม แอนฟิลด์

ถ่ายทอดสดช่อง CTH Stadium 2

ผู้ตัดสิน ลี เมสัน

     ลิเวอร์พูลกำลังมองหาหนทางกลับสู่ชัยชนะในหลังหลังจากแพ้ถึง 2 นัดติดให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอาร์เซนอล แต่ก็กลับคืนฟอร์มด้วยการบุกไปชนะแบล็คเบิร์นในรายการเอฟเอ คัพ ได้ 1-0 เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว โดยนัดนี้ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของนิวคาสเซิล ที่นัดก่อนก็แพ้มาเช่นกัน โปรแกรมการแข่งขันนัดสำคัญนี้จะต้องเป็นเกมที่สนุกอย่างแน่นอน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องลงเตะกันในคืนวันจันทร์เช่นนี้

 

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

 

 

     มามาดู ซาโก้ จะพลาดการลงสนามในเกมนี้เนื่องจากได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นหลังหัวเข่าจากเกมเอฟเอ คัพ กับแปล็คเบิร์นเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน ทางด้านอดัม ลัลลาน่า จะไม่ได้ลงเล่นเช่นกันจนกระทั่งสัปดาห์หน้า ขณะที่มาริโอ บาโลเตลลี่ ยังต้องรอเช็คฟิตว่าจะหายไข้ทันแล้วลงช่วยทีมได้หรือไม่ ส่วน จอร์ดอน ไอบ์ ก็กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเส้นเอ็น โดยยังคงต้องนั่งชมเกมที่ข้างสนามเช่นเคย

 

สภาพทีมล่าสุด : นิวคาสเซิล

 

 

     นิวคาสเซิล มีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บพอสมควร และเกือบทั้งหมดใกล้จะกลับมาลงสนามได้เร็วๆนี้ แต่ พอล ดัมเม็ต และเซียม เดอ ยอง จะหมดสิทธิ์ลงสนามยาวจนกระทั่งเดือนหน้า ขณะที่ มาสซาดิโอ ไฮดาร่า, สตีเว่น เทย์เลอร์ และชีค ติโอเต้ เจ็บจนต้องรูดม่านซีซั่นนี้เรียบร้อยแล้ว มีเพียงแค่ โรแลนโด้ อารอนส์ หวังว่าจะได้รีเทิร์นสู่ทีมเร็วๆนี้

 

คีย์แมน

ลิเวอร์พูล : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

 

 

     คูตินโญ่กลายเป็นนักเตะแห่งซีซั่นของลิเวอร์พูล ลงเล่น 28 นัดในลีกและกดไปแล้ว 4 ประตู สถิติจากเว็บไซต์ Squawka.com บราซิลเลียนแมนรายนี้สร้างสรรค์โอกาสได้มากกว่าโคลแบ็คทำให้เพื่อนร่วมทีมนิวคาสเซิลถึง 5 ครั้ง แต่มีสถิติแอสซิสต์เท่ากันที่ 4 ครั้ง คูตินโญ่จ่ายบอลสำเร็จไปแล้วถึง 911 ครั้ง ความแม่นยำในการจ่ายบอล 80% ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยสำหรับคูตินโญ่

     นอกจากนี้เขายังมีสถิติเลี้ยงผ่านคู่ต่อสู่ 80 ครั้งจากทั้งหมด 141 ครั้ง กองกลางรายนี้ทำพลาดในเกมรับเพียงครั้งเดียวตลอดทั้งซีซั่น แม้ว่าในครั้งนั้นจะเสียหายจนถึงเกือบเสียประตู แต่ในซีซั่นนี้คูตินโญ่ก็ได้รับการสรรเสริญจากแฟนบอลลิเวอร์พูลอย่างมาก และมีแนวโน้มว่าจะมากยิ่งขึ้นกว่านี้ในเกมกับนิวคาสเซิล

 

นิวคาสเซิล : แจ็ค โคลแบ็ค

 

 

     โคลแบ็คลงเล่นในตำแหน่งกองกลางให้กับนิวคาสเซิลไปแล้ว 28 นัดตลอดซีซั่น และทำประตูไปแล้ว 3 ลูก สถิติจากเว็บไซต์ Squawka.com เขาสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ 35 ครั้งและทำไป 4 แอสซิสต์ และสถิติจ่ายบอล 1000 ครั้งก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม โดยปัจจุบันทำไปแล้ว 983 ครั้ง หมายความว่าเขามีสถิติการจ่ายบอลแม่นยำถึง 89% และโคลแบ็คจะกลายเป็นตัวความหวังของนิวคาสเซิลในเกมนี้

 

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (ลิเวอร์พูล) :

 

 

     "ฟอร์มการเล่นและผลการแข่งขันในเกมกับแบล็คเบิร์นทำให้เรากลับสู่หนทางที่ดีอีกครั้ง และหวังอย่างยิ่งว่าจากผลการแข่งขันนั้น เราจะสามารถสร้างโมเมนตั้มที่ดีได้ในตอนนี้ไปจนกระทั่งช่วงจบซีซั่น"

 

จอห์น คาร์เวอร์ (นิวคาสเซิล) :

 

 

     "บางทีผมจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวจริงนิดหน่อยในบางตำแหน่ง อาจจะเป็นหนึ่งหรือสองคน และหวังว่ามันจะทำให้เราสปาร์คอะไรบางอย่างขึ้นมาได้"

 

ฟอร์มการเล่น

     เจ้าบ้านลิเวอร์พูลหลังจากพ่ายแพ้ในศึกแดงเดือดจนเสียสถิติไม่แพ้ใครกว่า 3 เดือน ฟอร์มก็ยังกู่ไม่กลับ บุกไปเสียท่าโดนอาร์เซนอลถล่มยับถึง 4-1 แต่ก็มาสามารถกลับคืนฟอร์มเก่งได้ หลังจากบุกไปเอาชนะแบล็คเบิร์นได้ 1-0 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน ทางด้านนิวคาสเซิลก็ใช่ว่าจะฟอร์มดี 5 นัดหลังสุดพวกเขาแพ้ไปถึง 4 นัด ชนะได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น ต้องรอดูกันว่าการบุกไปเยือนลิเวอร์พูลนัดนี้ พวกเขาจะทำได้ดีแค่ไหน

 

ประวัติการพบกัน

     ลิเวอร์พูลไม่เคยแพ้เลยตลอด 19 นัดที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของนิวคาสเซิล โดยนัดล่าสุดที่ "เดอะ แม็กพายส์" ชนะที่แอนฟิลด์ เกิดขึ้นเมื่อปีเดือนเมษายน 1994 โดยเอาชนะไปได้ 2-0 และเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทำสกอร์เบิ้ลใส่ลิเวอร์พูลได้ ตลอดการพบกัน 41 นัดในพรีเมียร์ ลีก ทั้งสองทีมทำประตูรวมกันถึง 130 ลูก และไม่มีนัดไหนเลยที่ทำประตูกันไม่ได้

 

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

 

 

ลิเวอร์พูล (3-4-2-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ - โคโล่ ตูเร่, เดยัน ลอฟเรน, เกล็น จอห์นสัน - อัลเบร์โต้ โมเรโน่, โจ อัลเลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลาซาร์ มาร์โควิช - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

นิวคาสเซิล (4-2-3-1) : ทิม ครูล - แจ็ค โคลแบ็ค, ไมเคิล วิลเลียมสัน, ดาริล ยานมัต, ไรอัน เทย์เลอร์ - เวอร์นอน แอนิต้า, มุสซ่า ซิสโซโก้ - แซมมี่ อเมโอบี้, เรมี่ คาเบลล่า - โยอัน กุฟฟร็อง - อโยเซ่ เปเรซ

 

ทรรศนะ

     ดูจากฟอร์มการเล่นพักหลังของทั้งสองทีมคงต้องบอกว่าดูไม่ยาก ลิเวอร์พูลเพิ่งหาชัยชนะเจอหลังจากแพ้มาในสองนัดก่อน แต่ทางด้านนิวคาสเซิลยังคงกู่ไม่กลับ แพ้รวด 4 นัดติดต่อกัน นอกจากผลงานจะไม่ค่อยดีแล้ว ยังมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน รวมไปถึงสถิติการไปเยือนถิ่นแอนฟิลด์ของ "เดอะ แม็กพายส์" ยังไม่เคยคว้า 3 แต้มกลับบ้านได้เลย แม้เจ้าบ้าน "หงส์แดง" จะมีสภาพทีมไม่เต็มร้อยสักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่ายังไงนัดนี้ก็ต้องเก็บชัยในบ้านได้อย่างแน่นอน

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0