หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / 5 ดาวเตะหงส์ผู้เคยข้ามฟากไปสวมชุดกุหลาบไฟ

5 ดาวเตะหงส์ผู้เคยข้ามฟากไปสวมชุดกุหลาบไฟ

5 ดาวเตะหงส์ผู้เคยข้ามฟากไปสวมชุดกุหลาบไฟ

     คืนนี้ ลิเวอร์พูล มีคิวทำศึกหนักในฟุตบอลถ้วยสุดคลาสสิคอย่าง เอฟเอ คัพ ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดรีเพลย์ที่สนาม อีวู้ด ปาร์ค ซึ่งทั้งสองทีมต่างก็มุ่งมั่นจะเอาชนะกันอย่างเต็มที่ เพื่อหวังไปให้ถึงนัดชิงชนะเลิศที่ เวมบลีย์ ในเดือนพฤษภาคม

     ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล เคยปล่อยนักเตะไปให้ทีมกุหลาบไฟใช้งานมาหลายต่อหลายคนแล้ว อาทิเช่น เดวิด ธอมป์สัน, สตีเฟ่น วอร์น็อค และ สเตฟาน อองโชซ์ ที่เคยเล่นให้กับทั้งสองทีม

     แต่วันนี้เราจะเจาะไปที่ประวัติ 5 ดาวดังที่มีดีกรีซูเปอร์สตาร์ ผู้เคยสวมชุด แบล็คเบิร์น มาแล้วเท่านั้น!

แบร็ด ฟรีเดล

     หนึ่งในผู้เล่นที่อายุมากที่สุดของ พรีเมียร์ ลีก ฟรีเดล ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 1997 จาก โคลัมบัส ครูว์ ด้วยราคาเพียง 1.7 ล้านปอนด์ หลังจากล้มเหลวในการจะย้ายมาเล่นที่อังกฤษช่วงต้นยุค 90 เพราะปัญหาใบอนุญาตในการทำงาน

     เขามีโอกาสได้ลงเฝ้่าเสาให้ทีมหงส์แดงบ่อยครั้ง แต่กระนั้นก็เป็นจำนวนไม่กี่นัดเพราะเป็นแค่มือ 2 ให้ เดวิด เจมส์ และ ซานเดอร์ เวสเตอร์เฟลด์ เท่านั้น นายด่านอเมริกันจึงมีสถิติลงเล่นแค่ 31 นัด ตลอดสัญญา 3 ปี

     ท้ายที่สุด ฟรีเดล ก็ย้ายแบบไม่มีค่าตัวไปอยู่กับ แบล็คเบิร์น ในปี 2000 และใช้เวลากับที่นั่นถึง 8 ฤดูกาลเต็มๆ ก่อนจะเลือกซบ แอสตัน วิลล่า ในเวลาต่อมา

แดนนี่ เมอร์ฟี่

     กองกลางหัวเตารีดรายนี้ย้ายจาก ครูว์ อเล็กซานดร้า ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 1.5 ล้านปอนด์ในปี 1997 ซึ่งว่ากันว่าเป็นการย้ายตัวที่คุ้มค่าที่สุดครั้งหนึ่งของ ลิเวอร์พูล

     ด้วยความชาญฉลาด มิดฟิลด์จอมพลังชาวอังกฤษกลายมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ด้วยการจับคู่กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด และทำสถิติยิงไป 25 ประตู จาก 170 นัด ซึ่งมีหลายลูกที่เป็นประตูสำคัญในการตัดสินเกม

     เมอร์ฟี่ เล่นกับ แบล็คเบิร์น เป็นทีมสุดท้ายก่อนจะแขวนสตั๊ด หลังร่อนเร่ไปเล่นกับ ชาร์ลตัน แอธเลติก, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส และ ฟูแล่ม โดย แกรี่ โบวเยอร์ กุนซือคนปัจจุบันของทีมกุหลาบไฟ ก็ยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลสูงมากในช่วงที่มาเล่น 1 ฤดูกาล

เคร็ก เบลลามี่

     เบลเลอร์ ผู้เคยมาเล่นที่ แอนฟิลด์ ถึง 2 ครั้ง 2 ครา จัดว่าเป็นจอมเพจรอยู่แล้วหากดูประวัติการค้าแข้งใน พรีเมียร ลีก

     ที่ผ่านมา เบลลามี่ เคยเล่นให้ นอริช ซิตี้, โคเวนทรี ซิตี้, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และเคยเล่นที่ เซลติก แบบยืมตัว ก่อนจะมาอยู่ที่ อีวู้ด ปาร์ค ในปี 2005 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ได้เจอเพื่อนเก่าอย่าง ฟรีเดล พร้อมได้รับการโหวตเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีในฤดูกาลนั้น

     เขาทำผลงานได้โดดเด่นหลังซัดไป 13 ลูก จากการเล่น 24 นัดในทุกรายการ และได้โอกาสในการกลับมาที่ ลิเวอร์พูล ครั้งที่สองในยุคของ ราฟา เบนิเตซ ช่วยทีมคว้าแชมป์ ลีก คัพ ในซีซั่น 2011-12 พร้อมยิง 6 ประตู จากการลงสนามในลีก 24 เกม

เจสัน แม็คคาเทียร์

     หนึ่งในดาวเตะที่มีชื่อเสียงในช่วงก่อตั้ง พรีเมียร์ ลีก แม็คคาเทียร์ พิสูจน์ตัวเองมาอย่างสม่ำเสมอในการการเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ด้วยความสามารถที่เล่นได้หลายตำแหน่งกับทั้งหงส์แดง และ แบล็คเบิร์น

     เขาย้ายจาก โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 1995 ในราคา 4.5 ล้านปอนด์ ท่ามกลางความสนใจของ แบล็คเบิร์น ที่กำลังเป็นทีมเศรษฐีในตอนนั้น แต่ผลงานของเขาก็ยอดเยี่ยมในการเล่นให้ ลิเวอร์พูล มากถึง 100 นัด ในบทบาทของมิดฟิลด์ตัวกลางและแบ็กขวา

     ต่อมา แม็คคาเทียร์ ก็จรลีไปอยู่กับ เดอะ โรเวอร์ส ในปี 1999 ด้วยราคา 4 ล้านปอนด์ แต่ก็ต้องเจ็บปวดเมื่อไม่อาจช่วยทีมรอดตกชั้นได้ในฤดูกาลแรกของตัวเอง แต่ไม่นานเขาก็มีส่วนพาทีมกลับมาใน พรีเมียร์ ลีก ได้ในที่สุด

ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

     ช่วงเวลาที่ค้าแข้งกับ แบล็คเบิร์น เป็นแค่การเล่นเพียงสั้นๆ จึงไม่เคยได้มีโอกาสแสดงผลงานการถล่มประตูให้ทีมกุหลาบไฟสักเท่าไร รวมทั้งเป็นช่วงที่ ฟาวเลอร์ อยู่ในขาลงของการเล่นฟุตบอลแล้ว

     ทั้งๆ ที่การเล่นตลอด 9 ฤดูกาลให้ทีมหงส์แดง เขาเคยเป็นถึง เดอะก็อด (พระเจ้า) แห่ง แอนฟิลด์ ด้วยตัวเลขจบสกอร์ระดับตำนานที่ 120 ประตู จากการเล่น 236 นัด ก่อนจะขอย้ายไปอยู่กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในปี 2001 ก่อนได้มาบรรจบกับ ลิเวอร์พูล หนสองในยุคของ เบนิเตซ เมื่อปี 2006

     ฟาวเลอร์ ย้ายมาเล่นให้ แบล็คเบิร์น เป็นเวลา 3 เดือน เมื่อปี 2008 ในช่วงที่ พอล อินซ์ ดาวเตะผิวสีของ ลิเวอร์พูล เป็นนายใหญ่ที่นั่น และสถิติของ ฟาวเลอร์ ก็ได้ลงสนามแค่ 3 นัดเท่านั้น (0 ประตู)

ADS